ศาลอาญาธนบุรีพิพากษาจำคุกแก๊งงานบวช 16 คน บุก รร.มัธยมวัดสิงห์ ตั้งแต่ 13-19 ปี ร่วมชดใช้โรงเรียน นักเรียนผู้เสียหาย รอลงอาญา 5 ราย ยกฟ้อง 1 ราย
เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่ศาลอาญาธนบุรี ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีกลุ่มคนเมาสุรางานบวชบุก รร.มัธยมวัดสิงห์ ที่พนักงานอัยการคดีอาญาธนบุรี 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายมนตรี พูลทรัพย์ อายุ 32 ปีกับพวก ซึ่งเป็นชายอายุตั้งแต่ 18 - 41 ปี เป็นจำเลยที่ 1-22 ในความผิดฐาน ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญ หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง และอื่นๆ รวม 7 ข้อหา โดย รร.มัธยมวัดสิงห์ และผู้ปกครองของนักเรียน 3 คน ในฐานะผู้เสียหายที่ 1-4 ได้ยื่นคำร้องขอให้ชดใช้ค่าเสียหาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2562 เวลาประมาณ 14.30 น. ขณะที่มีการสอบ GAT/PAT ภายใน รร.มัธยมวัดสิงห์ ทั้งนี้จำเลยทั้ง 22 คนร่วมกันบุกรุก ทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียน ครูคุมสอบ รวม 15 คน และยังทำให้ทรัพย์สินของโรงเรียนและผู้เกี่ยวข้องเสียหาย 2 ราย นอกจากนี้ยังข่มขืนใจผู้อื่น ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัด และ นายวัลลภ นุชแฟง อายุ 32 ปี จำเลยที่ 2 ยังได้กระทำอนาจารเด็กนักเรียนหญิงด้วยการกอดและหอมแก้มด้วย ซึ่งนับตั้งแต่ถูกดำเนินคดีตั้งแต่ช่วงต้นปี 2562 จำเลยทั้งหมดไม่ได้รับการประกันตัว โดยถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษธนบุรี ขณะที่ชั้นพิจารณาคดี มีจำเลย 6 คน ให้การรับสารภาพตามฟ้อง จำเลยบางคนรับว่าเข้าไปใน รร. แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ร่วมทำผิดและไม่ได้ใช้กำลังประทุษร้าย โดยจำเลยทั้งหมด 22 คน ปฏิเสธข้อหามั่วสุม ส่วนนายดลราม เก่งวิชา อายุ 27 ปี จำเลยที่ 16 ปฏิเสธดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัด
ในวันนี้ศาลได้เบิกตัวจำเลยทั้ง 22 คน มาจากเรือนจำพิเศษธนบุรี พิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วพิพากษาลงโทษจำเลย 16 คน ฐานร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย, ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย, ร่วมกันใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัด นอกจากนี้ให้เพิ่มโทษจำเลยที่เคยมีประวัติการกระทำความผิดมาก่อนด้วยโดยให้จำคุก ดังนี้
นายมนตรี พูลทรัพย์ จำเลยที่ 1 นายเอกลักษณ์ พูลทรัพย์ จำเลยที่ 18 คนละ 15 ปี 11 เดือน
นายวัลลภ นุชแฟง จำเลยที่ 2 ซึ่งถูกกล่าวหากระทำอนาจารนักเรียนหญิง จำคุก 17 ปี 5 เดือน
นายชาติสยาม จันทรวิภาค จำเลยที่ 3 จำคุก 13 ปี 2 เดือน 15 วัน
นายณัฐพงศ์ นุชแฟง จำเลยที่ 4 นายวรภัทร หรือแอม พินิจปรีชา จำเลยที่ 10นายจิรายุทธ อาจอาสา จำเลยที่ 12 นายวิโรจน์ คำชาย จำเลยที่ 15 จำคุกคนละ 18 ปี 11 เดือน
นายสมชาย แก้วสิมมา จำเลยที่ 7 นายธวัช หรือวัช สดำพงษ์ จำเลยที่ 9 ให้จำคุกคนละ 13 ปี 7 เดือน 10 วัน
นายอนุกูล สังข์ศรี จำเลยที่ 11 จำคุก 13 ปี 10 เดือน 15 วัน
นายธิติ หรือ ออฟ ไวยสุกรี จำเลยที่ 13 จำคุก 11 ปี 10 เดือน 15 วัน
นายเมืองแมน นิลโพธิ์ทอง จำเลยที่ 14 จำคุก 13 ปี 6 เดือน 20 วัน
นายขวัญชัย สุขเสมอ จำเลยที่ 17 จำคุก 19 ปี 3 เดือน
นายไน้ท จ้อยเจริญ จำเลยที่ 19 จำคุก 14 ปี 10 เดือน 22 วัน
นายชนะชัย ใจหล้า จำเลยที่ 20 จำคุก 16 ปี 4 เดือน 22 วัน
และให้จำเลย 16 คน ร่วมกันชดใช้เงิน 35,400 บาท ให้กับ รร.มัธยมวัดสิงห์ ชดใช้เงินจำนวน 35,737 บาท 55,352.50 บาท และ 56,142.50 บาท ให้กับผู้เสียหาย
ทั้งนี้ ให้จำคุกนายศรายุทธ นุชแฟง นายจีรศักดิ์ นีละเสวี นายชัชศิริ แซ่โง้ว นายสิทธิชัย จรสุข นายพีรพล เอมชาวนา คนละ 2 เดือน ปรับคนละ 2,500 บาท โดยโทษจำคุกนั้นให้รอลงอาญาไว้ มีกำหนด 2 ปี ขณะที่พิพากษายกฟ้อง นายดลราม เก่งวิชา จำเลยที่ 16 นอกจากชายฉกรรจ์ที่ถูกยื่นฟ้องดังกล่าวแล้ว ก็ยังมีกลุ่มเยาวชนอีก 4 คน ที่เป็นชายอายุ 16 ปี 2 คน และอายุ 17 ปี อีก 2 คน ซึ่งร่วมกับกลุ่มชายฉกรรจ์งานบวชพระวัดสิงห์นั้น ก็แยกดำเนินการตามขั้นตอน ตาม พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 ในศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง และภายหลังศาลมีคำพิพากษาแล้ว ยังไม่มีญาติของจำเลยทั้ง 16 คนที่ศาลยังไม่รอลงอาญา ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดีแต่อย่างใด
นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า คดีนี้ศาลจำคุกจำเลยสูงสุด 19 ปี 3 เดือน จึงเห็นว่าศาลได้พิพากษาลงโทษสถานหนักแล้ว ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ก็ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่เป็นการท้าท้ายสังคมและกฎหมาย โดยคำตัดสินก็เป็นไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ