ทิ้งทุกสิ่งไว้เบื้องหลัง ผู้จัดการฯ "เหม" เผยเรื่องราวก่อนเกิดเหตุสะเทือนใจ

2019-09-26 19:45:40

ทิ้งทุกสิ่งไว้เบื้องหลัง ผู้จัดการฯ "เหม" เผยเรื่องราวก่อนเกิดเหตุสะเทือนใจ

Advertisement

สร้างความสะเทือนใจหลังนักแสดงหนุ่ม "เหม ภูมภาฑิต" ตัดสินใจจบชีวิตลงไปเมื่อวันก่อนด้วยอาการจากโรคซึมเศร้า ล่าสุด "นะโม-พชรกันย์ ไพรสันเทียะ" และ "ออม-ธีรดา ธีรเกียรติ" ผู้จัดการของนักแสดงหนุ่มได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า

นะโม : สำหรับเราไม่มีสัญญาณอะไรที่จะบอกถึงเหตุการณ์นี้เลยนะคะ เพราะเมื่อวานนี้โมยังนัดคุยงานอยู่กับน้องตอน 4 โมงเย็น คืนก่อนหน้าโมก็ยังคุยกับเขาอยู่จนถึงตีสาม และเช้ามาตอนบ่ายสองโมงเขายังไลน์มาหาเลยว่าออกจากบ้านมาแล้วหรือยัง เดี๋ยวเขามีธุระนะ ขอไปทำธุระก่อน น่าจะมาถึงช้านิดหนึ่งประมาณ 4 โมงครึ่ง โมก็โอเคตามนั้น เราถามเขาไปอีกว่าให้เลื่อนนัดไหมเลื่อนก็ได้นะ แต่เขายืนยันว่าไม่เลื่อนดีกว่า อยากให้งานมันเดิน เราก็โอเครีบมาให้เร็วที่สุด ไม่ต้องเป็นห่วงนะเดี๋ยวจะคุยกับทีมไปเรื่อยๆ ก่อน นั่นคือประโยคสุดท้ายที่คุยกันทางแชต





ไม่มีสัญญาณว่าเขาจะคิดสั้นเลยใช่ไหม ?
นะโม : ไม่มีเลยค่ะ ไม่มีจริงๆ เพราะโมคุยกับน้องเกือบทุกวัน ไม่ว่าจะโทรคุย แชตคุย หรือคุยผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ เราติดต่อน้องตลอด และน้องก็ติดต่อเราตลอด เพราะฉะนั้นเราอัพเดตชีวิตกันตลอดเวลา ตกเย็นมาเขาก็จะบอกเดี๋ยวไปฟิตเนสแล้วนะ วันนี้น้ำหนักเขาลงกี่กิโลกรัม เขาแชร์ทุกอย่างให้ทราบหมดเลย มันไม่มีเหตุการณ์บอกเราเลย



ที่เหมโพสต์ข้อความเศร้าๆ ในทวิตเตอร์และอินสตาแกรม เราได้เห็นไหม ?
นะโม : เห็นค่ะ ก็ถามเขาว่ามีอะไรหรือเปล่า ? คือถ้าเป็นข้อความที่เรารู้สึกได้ เราจะบอกเขาให้โทรมาคุยสิ มีเรื่องอะไร บางทีก็คุย บางทีก็จะไม่ได้คุยกัน แต่ข้อความสุดท้ายที่น้องโพสต์ เราไม่ได้รู้สึกว่าเป็นการสั่งลาหรือใดๆ เพราะปกติน้องจะโพสต์ข้อความแบบนี้ที่เป็นข้อความสั้นๆ ให้แง่คิด น้องโพสต์มาโดยตลอดในโซเชียลมีเดียของเขา



ในทวิตเตอร์ที่เหมโพสต์บอกว่า จะถึงวันสู่อิสรภาพแล้ว ?
นะโม : อันนี้คือที่เราเข้าใจเองนะคะว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับงาน ไม่ใช่งานในวงการ แต่เป็นโปรเจกต์อื่นที่เขาทำอยู่ แล้วเราคิดว่าโปรเจกต์นี้เขาทำมานาน และน่าจะสำเร็จแล้วแค่นั้น



ออม : เพราะทุกงานหรือทุกกิจกรรมที่เขาทำ เรารับรู้ตลอด เราแชร์กันตลอด พี่ถึงบอกว่ามันไม่มีอะไรเลยที่จะทำให้รู้สึกว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น



อาการโรคซึมเศร้าของเขาดีขึ้นหรือแย่ลง ?
นะโม : ไม่มีอะไรเลยค่ะ เวลาเจอน้องยังคุยพูดจากันปกติแบบนั้นเลย



ออม : สดใส ร่าเริง เล่นมุกปกติ

นะโม : ต้องย้อนกลับไปหลายปี น้องจะพูดกับโมเสมอว่า ผมว่าผมเป็นนะ ผมเช็กลิสต์ดูแล้ว ผมว่าจาก 9 ข้อ ผมรู้สึกเป็น 7 ข้อเลยนะ แต่โมไม่เชื่อเขาบอกว่าเป็นอุปทานเดี่ยวไม่จริงหรอก เราไม่เชื่อเขามาโดยตลอด เป็นเดือนๆ เลยค่ะที่เขาพูดแบบนี้กับเราเสมอ จนวันหนึ่งเขาโทรมาแล้วเราคุยอะไรกันสักอย่างเราจำไม่ได้ แต่ประโยคที่ทำให้เรารู้สึกว่าน้องไม่ปกติแล้วก็คือ ถ้าไม่มีผมอยู่สักคน มันคงจะดีกว่านี้ เราเลยรีบหาเบอร์หมอแล้วโทรนัดในวันรุ่งขึ้น พี่ก็ไปหาหมอกับเขาด้วย เขาพูดนานแล้วค่ะ หมายถึงเรื่องที่น้องมีภาวะของการเป็นซึมเศร้าเนี่ย เป็นหลายปีแล้วค่ะ



เราคิดว่าอะไรเป็นสาเหตุทำให้เหมเป็นโรคซึมเศร้า ?


นะโม : เท่าที่เรารู้ คือน่าจะเป็นความผิดหวังซ้ำๆ กัน แต่ว่าความผิดหวังในที่นี้เป็นเรื่องอะไรบ้าง เราไม่ทราบจริงๆ หนึ่งในนั้นมีเรื่องงานแน่นอนค่ะ

เรื่องความรักเกี่ยวไหมเพราะ กีฟเคยโพสต์ว่าเขาชอบมาปรึกษาเรื่องความรัก ?
นะโม : เราไม่ได้คุยกับน้องเรื่องนี้ โดยปกติโมไม่ค่อยคุยเรื่องส่วนตัวเท่าไหร่ ถ้าสมมติว่าเรารู้สึกว่าน้องมีเรื่องอะไร เราถามน้องตอบเราก็ฟัง เป็นผู้รับฟังที่ดี แต่ถ้าถามแล้วน้องไม่ตอบ เราก็จะไม่กดดันน้อง

ปัญหาหนักสุดที่เราเคยคุยกับเขาคือเรื่องอะไร ?
นะโม : ไม่มีเรื่องอะไรที่แบบเป็นเรื่องหนักเลย ถ้าเป็นเรื่องที่เขารู้สึกคือ เรื่องเขาเป็นห่วงแม่ ก็จะมาช่วงหนึ่งที่คุณย่าหรือคุณยายเสีย แล้วคุณแม่ก็ไม่สบาย ทำใจยอมรับไม่ได้ เขาก็จะเป็นห่วงแม่มาก



กรณีมีการไปค้ำประกันเงินกู้ให้เพื่อน ?
นะโม : เรื่องนี้โมไม่เคยทราบเลย ไม่ทราบจริงๆ ค่ะ ต้องถามมดดำเลย มดดำสนิทกับน้องจริงๆ นะคะ

มดดำออกมาพูด หรือว่าข่าววันออกมาจากคนอื่น ?
นะโม : ไม่ทราบเลยค่ะ ถ้าตามที่โมเห็นในข่าว คือมดดำออกมาบอกในรายการแฉ

แสดงว่ามีการไปค้ำประกันให้บุคคลนั้นจริงๆ ?
นะโม : ไม่ทราบจริงๆ ค่ะ

เราได้คุยกับมดดำหรือยัง ?
นะโม : เมื่อวานได้คุยกันนะคะ มดดำก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้



เหมมีปัญหาเรื่องเงินจริงไหม ?
นะโม : ปัญหาเรื่องเงินเท่าที่โมทราบ ที่เป็นข่าวเรื่องกรณีของบ้านเช่า อันนั้นโมอยู่ด้วย อยู่กับน้องตอนที่มันเป็นข่าว ส่วนกรณีเรื่องอื่นๆ น้องไม่เคยมาหยิบยืมเงิน น้องไม่เคยมีปัญหากับเรา ในเรื่องที่จะจัดสรรสำหรับเรา เพราะฉะนั้นเราเลยไม่ทราบว่าน้องมีปัญหาเรื่องนี้

เราให้สัมภาษณ์ว่าน้องก็มีงานเรื่อยๆ ไม่น่าจะขัดสนเรื่องเงิน ?
นะโม : ใช่ค่ะ แล้วน้องก็ไม่เคยมีปัญหากับเราเลย

แต่เขาไม่เคยมาหยิบยืมเราเลยใช่ไหม ?
นะโม : ใช่ค่ะ น้องดูแลเราตามที่นักแสดงคนอื่นจะดูแลผู้จัดการ

คิดว่าน้องตัดสินใจจากไปด้วยสาเหตุอะไร ?
นะโม : ด้วยภาวะของการเป็นซึมเศร้า เราคิดว่าเขามีปัญหาหลายๆ อย่างปนๆ กัน เรื่องส่วนตัว เรื่องงานในวงการไม่มีแน่นอน เรายืนยันเพราะว่าทุกอย่างเป็นในทิศทางที่ดีมากๆ นะคะ แต่เรื่องงานโปรเจกต์อื่นๆ อันนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา เราก็ไม่ทราบเหมือนกัน



เราได้คุยกับแฟนของเหมบ้างหรือยัง ?
นะโม : ช็อกค่ะ เราเพิ่งเจอแฟนน้อง แล้วก็ตัวน้อง เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาเอง ก็ไม่ได้ดูมีทีท่าว่าจะมีปัญหาหรือมีทะเลาะเบาะแว้ง ทุกอย่างก็ดูรักกันดีนะคะ แล้วเมื่อวานนี้ น้องก็บอกเหมือนกันกับเรา ว่าไม่มีวี่แวว ไม่มีสัญญาณไม่ดีอะไรใดๆ เลย คือน้องปวดท้อง แล้วน้องก็ทานยา ก่อนที่น้องจะหลับไป เหมก็บอกกับแฟนเขาว่าเดี๋ยวนัดคุยงานกับพี่โมนะตอน 16.00 น. ไม่ต้องไปนะ เดี๋ยวเขาขับรถไปเองก็คือแค่นั้น แล้วแฟนน้องก็เลยหลับ แล้วตื่นมาก็มาเจอ

ในมือเหมกำแว่นไว้แน่นมีอะไรไหม ?
ออม : ปกติน้องใส่แว่นคะ สายตาสั้นค่ะ แค่นั้นเอง ไม่มีอะไรพิเศษเลย

ตอนที่น้องไปรักษาโรคซึมเศร้า ได้ทานยาไหม ?
นะโม : ทานยาค่ะ ทานยาสม่ำเสมอ คลิปที่ทุกคนเห็นกัน ที่แชร์กันอยู่ตอนนี้ เป็นคลิปที่น้องทำเมื่อน้องรู้สึกดีขึ้นแล้ว น้องทำแล้วน้องก็บอกว่าอันนี้เดี๋ยวเราทำแล้วก็บอกคนอื่นนะว่าให้ระวังเรื่องนี้ เพราะว่าตัวเขาผ่านเรื่องนี้มา เขาก็อยากแชร์ให้คนอื่นฟัง ก่อนที่เขาจะโพสต์เขาส่งให้เราดู เราดูแล้วก็บอกโอเค ทำเลย แล้วเขาก็ทำอีกหลายๆ อันด้วยค่ะ เป็นข้อความเป็นอะไร ทำด้วยตัวเขาเองเลย

ออม : คือน้องหลังๆ อย่างที่ออมให้สัมภาษณ์ไปเมื่อตอนกลางวัน น้องเล่นโซเชียลน้อยลง น้องอ่านหนังสือเยอะขึ้น เมื่อเขาเจอแง่คิดดีๆ หรืออะไรที่พอจะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่เป็นโรคซึมเศร้า เขาอาการดีขึ้น ซึ่งมันก็ดีขึ้นจริงๆ เขาก็อยากที่จะแชร์และอยากที่จะบอกต่อว่ามันสามารถที่จะดีขึ้นได้นะ เรามีวิธีคิดแบบไหนยังไง นี่คือสิ่งที่เขาอยากบอกต่อ เวลาเขามีโปรเจกต์ พวกเราซัพพอร์ตเสมอ



ล่าสุดมีการพูดถึงจดหมายลาตายเราได้เห็นไหม ?
นะโม : โมไม่ได้เห็น แต่โมรับทราบมาเมื่อวานนี้ว่าได้มีการเขียนแบบนี้ แต่โมไม่เคยเห็น น้องไม่เคยเล่า คือเวลาที่เขามีความทุกข์อะไรแบบนี้เขาไม่ค่อยบอก ไม่ค่อยเล่าอย่างละเอียดเท่าไหร่ เพราะเขารู้เราเป็นห่วงเขา เราเป็นห่วงเขามาก ถ้าวันไหนเหมบอกนอนไม่หลับ เราต้องอยู่ด้วยตี 3 ตี 4 เพื่อที่จะเช็กว่านอนหรือยัง เช้ามาเราต้องเช็กว่าตื่นรึยัง เพราะฉะนั้นเราเชื่อว่าเขารู้ว่าเรารักเขา เขาก็เลยไม่เอาเรื่องทุกข์ใจมาเล่า เขาก็เลยไม่บอกอะไร

เราได้ถามแฟนน้องไหมว่าเหมเขียนอะไรลงในจดหมายฉบับนั้น ?
นะโม : ไม่ได้ถามเลย แฟนเขาก็อยู่ในสภาพที่ไม่ปกติ โมก็ช็อกมากจริงๆ ในวินาทีที่น้องตัดสินใจไม่ไหวแล้ว เรายังนั่งรอน้องอยู่เลย

เหมได้บอกอะไรกับแฟนเขาไหมว่าไม่ไหวแล้ว ?
นะโม : ไม่มีเลยค่ะ ไม่มีสัญญาณว่าเขาทะเลาะกับใคร ไม่มีเรื่องใดๆ เรื่องงานทุกอย่างดีมาก แล้วเรายังโทรคุยงานกับน้องอยู่เลย



ณ วันนี้อาการโรคซึมเศร้าเขาบรรเทาลงหรือยัง ?
นะโม : มีเรื่องนอนไม่หลับอย่างเดียว แต่เรื่องการยอมรับความจริงในเรื่องที่ผิดหวัง เขาก็ค่อนข้างที่เขาพูดกับโมคือเขาเข้าใจ เขาก็เหรอ งานนี้ไม่ได้อีกแล้วเหรอ เขาก็อาจจะเสียใจ แต่เขากลับบอกเราว่าไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวเขาไปใหม่ ผมเข้าใจ คือเป็นอย่างนี้ตลอด คือเขาถึงสบายใจว่าเขาดีขึ้น แต่มีอาการนอนไม่หลับ อาจจะมีเรื่องของความเครียด ก็แค่เป็นห่วงแค่นั้น ไม่อยากให้น้องทานยานอนหลับ

ตอนที่เขาไปฟ้องร้องหมิ่นประมาทเรื่องบ้านเช่า ตอนนี้เราทราบเรื่องคดีความไหม ?
นะโม : เราทราบว่ามันมีการสืบพยาน ยังไม่สรุป มีการขึ้นศาลก่อน แต่ว่าเราไม่ทราบรายละเอียด

เรื่องคดีเหมเครียดไหม ?
นะโม : เขาไม่เครียดนะคะ เราคิดว่าไม่ใช่สาเหตุค่ะ แต่ว่าถ้าจะมีคือตรงที่เขากังวลมากกว่าว่า จากข่าวนี้จะสร้างผลกระทบให้พี่ๆ ทีมงานหรือเปล่า เวลาที่ไปทำงานเขาจะถามว่า ข่าวเขามันมีผลกระทบไหม ซึ่งพี่ทีมงานบอกว่าไม่เกี่ยวกัน



สภาพจิตใจของคุณพ่อคุณแม่เป็นยังไงบ้าง ?
นะโม : ไม่ดีเลยค่ะ

คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้เจอหน้าลูกชายเลย ?
นะโม : ไม่ได้เจอเลยค่ะ ไม่ทราบเลย เขาไม่ได้บอกอะไรเลย พ่อก็เพิ่งทราบค่ะ คือเมื่อวานตอนที่พี่โมรู้เราก็โทรหาคุณพ่อเลย เราก็ไม่เชื่อเหมือนกันว่ามันจะจริง ก็น้องบอกว่ามาเลท ไม่ได้บอกว่าน้องไม่มาแค่นั้น เราก็โทรเช็กกับคุณพ่อ เราก็ไม่กล้าถามเนอะว่าเป็นยังไง เลยเริ่มประโยคไปแค่ว่า คุณพ่อติดต่อเหมได้ไหมคะ พ่อก็บอกว่าติดต่อไม่ได้ เราก็ถามไปอีกว่าพ่อรู้เรื่องเหมหรือยังคะ พ่อบอกรู้แล้วน้องไม่อยู่กับเราแล้วใช่ไหมคะ พ่อก็บอกว่าน้องไม่อยู่กับเราแล้วโม เราถึงได้เชื่อว่ามันคือความจริง เลยบอกกับพ่อว่าเดี๋ยวไปหาน้องเดี๋ยวนี้เลย หรือเจอน้องแล้วบอกนะ พ่อเองก็ไม่ทราบและไม่ได้มีสัญญาณมาก่อน เพราะพ่อก็รับทราบว่า 4 โมงเย็น นัดคุยงานกับพี่โมและทีม เป็นโปรเจกต์เกี่ยวกับมวย ซึ่งเหมโทรไปหาคุณพ่อเนื่องจากมีความรู้เฉพาะเกี่ยวกับเรื่องมวย ซึ่งพ่อก็รอฟังคำตอบ แต่สิ่งที่ได้ยินมันไม่ใช่



คุณแม่มีอาการเกี่ยวกับสุขภาพด้วย ?
นะโม : ใช่ค่ะ เหมเป็นห่วงคุณแม่มาก เนื่องจากคุณแม่เป็นโรคหัวใจอ่อนๆ จริงๆ คุณพ่อคุณแม่ ตั้งใจจะออกจากมหาสารคามตอนตี 4 แต่ว่าออกมาไม่ได้เนื่องจากอาการของคุณแม่ยังไม่โอเค ก็เลยเพิ่งจะมาถึงตอนนี้ จริงๆ คุณพ่อคุณแม่ตั้งใจจะไปรับที่โรงพยาบาลแต่ว่ามาไม่ทัน

ไม่ได้เจอกันนานไหม ?
นะโม : ไม่นานค่ะ เราว่าไม่ถึงเดือน เพราะโดยปกติเหมจะไปหาพ่อกับแม่ตลอด แล้วก็จะโทรหาบ่อยมากเกือบทุกวัน เวลาเขามีปัญหาอะไร พ่อคือฮีโร่สำหรับเขา

ครอบครัวคือยังทำใจไม่ได้ ?
นะโม : ทำใจไม่ได้จริงๆ



อยากให้ฝากถึงคนที่ป่วยซึมเศร้าบ้าง ?
นะโม : เราไม่รู้ว่าจะแนะนำได้หรือเปล่า แต่สิ่งที่เราปฏิบัติกับเหมตลอดเวลา 2-3 ปี ที่ผ่านมา เราไม่ได้ดูแลเขาเป็นผู้ป่วย เราทำทุกอย่างเป็นปกติ แล้วก็ไม่ซ้ำเติม เวลาเขามีปัญหาแค่ฟังอย่างเดียวแล้วก็ให้กำลังใจ ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราสู้กันไปนะ ไม่เคยขึ้นเสียงกับน้อง เป็นผู้ฟังที่ดี เขาแค่อยากได้คนฟัง เพื่อที่เขาจะระบายออกมาแค่นั้นเอง นั่นคือระยะเวลาที่พี่ทำตลอด 2 เกือบ 3 ปี

เรื่องงานเป็นยังไงบ้าง ?
นะโม : เรื่องละครไม่มีผล เนื่องจากปิดกล้องไปหมดแล้ว ส่วนเรื่องใหม่ ลายกินรี เพิ่งฟิตติ้งไป อีกเรื่องก็รอฟิตติ้งอยู่ แล้วก็ยังมีรายการที่ถ่ายทำไปแล้ว รอออนแอร์อยู่ 2 รายการ

เรามองการตัดสินใจของเหมในครั้งนี้ยังไงบ้าง ?
ออม : น้องเหนื่อยอ่ะค่ะ น้องสู้ไม่ไหวแล้ว (ร้องไห้) เราเคารพในการตัดสินใจของน้อง พวกเรารักน้องสนิทกันมาก ไม่ว่าน้องทำอะไร เรามีหน้าที่ยืนอยู่ข้างๆ และซัพพอร์ต

นะโม : น้องพยายามอย่างที่สุดแล้ว ในการต่อสู้กับโรคซึมเศร้า แต่มันสู้ไม่ได้จริงๆ

อ่านข่าว "เหม" อย่างต่อเนื่อง ...

"ซึมเศร้า" กัดกินจิตใจ บทเรียนสุดเศร้า "เหม" ฆ่าตัวตาย ! ลองสังเกตตัวเองหรือยัง ? (คลิป)
กำลังจะดีขึ้น “ดีเจต้นหอม” เล่าเรื่อง “เหม” แค่เสี้ยวนาทีที่ถอดใจกับชีวิต !
จากนี้คงคิดถึงมาก “เวียร์” โพสต์เศร้าอาลัย “เหม” หลังรู้ข่าวฆ่าตัวตาย !
เปิดข้อความ “เหม” โพสต์ถึง “ป๋อ ณัฐวุฒิ” ก่อนลาโลก !
ดับสลด "เหม" อดีตพระเอกช่อง 7 แขวนคอตายโดดเดี่ยวในคอนโดฯ (มีคลิป)