ฝ่ายค้านซักฟอกปมถวายสัตย์ จี้นายกฯลาออก

2019-09-18 13:50:31

ฝ่ายค้านซักฟอกปมถวายสัตย์ จี้นายกฯลาออก

Advertisement

ฝ่ายค้านเปิดซักฟอกนายกรัฐมนตรี ปมถวายสัตย์จี้แสดงความรับผิดชอบทางการเมืองด้วยการลาออกจากตำแหน่ง 

เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 18 ก.ย. ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงและเสนอแนะปัญหาต่อ ครม. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ตามที่นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กับคณะ เป็นผู้เสนอ



นายสมพงษ์ อภิปรายเป็นคนแรก ว่า ที่ผ่านมาหลายฝ่ายให้โอกาส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในการแก้ไขปัญหาและเสนอทางออก แต่นายกรัฐมนตรีเพิกเฉย จึงจำเป็นต้องอภิปรายในวันนี้ ขณะเดียวกันนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี อดีตเลขาธิการ ครม.เคยเขียนหนังสือชื่อ “หลังม่านการเมือง”ว่ารัฐมนตรีคนใดไม่ได้กล่าวถวายสัตย์ปฏิญาฯจะยังเป็นรัฐมนตรีไม่ได้ และต้องเปล่งวาจาด้วยถ้อยคำที่กฎหมายกำหนด เมื่อพิจารณาจากการถวายสัตย์ปฏิญาณเมื่อวันที่ 16 ก.ค.2562 จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะขาดการกล่าวถ้อยคำสำคัญดั แล้วจะแก้ไขปัญหาอย่างไร บทเรียนที่เกิดขึ้นครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีไม่ได้แสดงถึงความไม่มีวุฒิภาวะ ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นลูกโซ่ ประเทศขาดความเชื่อมั่น เมื่อความเชื่อมั่นไม่เกิดขึ้น การยอมรับนับถือจึงไม่มี ผู้นำประเทศที่ถูกตำหนิมาตลอดจะนำพาประเทศให้อยู่รอดได้อย่างไร

ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายว่า การที่นายกรัฐมนตรีและ ครม.ไม่พูดเรื่องการจะรักษาไม่ซึ่งรัฐธรรมนูญนั้น แสดงว่าจะไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญใช่หรือไม่ และคนที่จะได้รับความเสียหายก็คือประชาชน ถือว่าไม่ให้เกียรติประชาชน การถวายสัตย์ที่ไม่ครบถ้วนจะทำให้ทุกอย่างเป็นโมฆะหรือไม่ ในฐานะประชาชน เมื่อไม่ให้คำมั่นสัญญาแล้วจะให้ความไว้วางใจให้บริหารประเทศได้หรือไม่ ดังนั้นข้อเสนอแนะให้พล.อ.ประยุทธ์ ต้องรับผิดชอบทางการเมือง คือการลาออก



ขณะที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ อภิปรายว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้นำ ครม.เข้าถวายสัตย์รวม 5 ครั้ง ซึ่งมีการกล่าวถ้อยคำถวายสัตย์ครบถ้วนทุกครั้งตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด แต่เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2562 กล่าวถ้อยคำไม่ครบถ้วน และไม่ได้อ่านจากเอกสารบัตรแข็ง แต่เป็นการหยิบเอกสารออกมาจากกระเป๋าเสื้อของท่านแล้วนำมาอ่าน เมื่อกล่าวถ้อยคำไม่ครบ ก็ต้องหาทางแก้ไข ตนมองว่าการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบเป็นส่วนหนึ่งในอาการของโรคที่เรียกว่าโรคไม่แยแสรัฐธรรมนูญ และยังแสดงถึงอาการโรคของความไม่รับผิดชอบ ขอถามนายกฯว่า ได้อ่านคำถวายสัตย์จากกระดาษแข็งที่เตรียมเองหรือไม่ เหตุใดท่านจึงไม่อ่านข้อความตามแผ่นกระดาษแข็งที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีมอบให้ ถ้ามีรัฐมนตรีลาออก ต้องแต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่ นายกฯจะต้องนำรัฐมนตรีคนใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณอีกครั้ง ท่านจะนำถวายสัตย์ปฏิญาณด้วยข้อความอย่างไร และขอถามนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ผู้ที่สื่อโซเชียลตั้งฉายาบิดาแห่งข้อยกเว้น ว่าถ้าในอนาคต นายกรัฐมนตรีคนต่อไป อ่านคำกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ ถือว่าทำได้หรือไม่ และในฐานะที่นายวิษณุเคยเป็นเลขาธิการ ครม. และรองนายกฯ รวมแล้วหลายปี ได้มี เคยเห็นว่ามีใครเคยทำเหมือนกับ พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ แม้ผมเคยเสนอทางออกให้นายกฯ แต่ท่านปล่อยเวลาผ่านมาเนิ่นนาน ไม่แสดงความรับผิดชอบ จึงขอให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อภิปรายว่า ครม.ต้องกล่าวคำถวายสัตยปฏิญาณให้ครบถ้วนจึงจะสามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่ทำไมนายกฯ ไม่ทำเรื่องนี้ให้ถูกต้อง ที่นายกฯ บอกว่าจะรับผิดชอบคนเดียวนั้นไม่เข้าใจว่าจะรับผิดชอบคนเดียวได้อย่างไร เพราะต้องรับผิดชอบทั้งคณะ เมื่อรัฐบาลเข้าปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ แล้วฝ่ายค้านจะปล่อยให้บริหารประเทศได้อย่างไร ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง ทั้งนี้ไม่เข้าใจว่า ทำไมนายกฯ ปล่อยให้คนที่เป็นรัฐมนตรีร่วมมาข่มขู่สมาชิกฝ่ายค้านว่า ให้อภิปรายให้ดีๆ ถ้าอภิปรายไม่ดีมีเรื่องแน่ ปล่อยให้พูดแบบนี้ได้อย่างไร ไม่เช่นนั้นสังคมอาจจะเข้าใจได้ว่าเป็นรัฐบาลโจราธิปไตยได้ อย่างไรก็ตามที่นายกฯ บอกว่าคุมได้ทุกเรื่องนั้น เชื่อว่ามีอยู่เรื่องหนึ่งที่คุมไม่ได้คือ คุมสติตัวเอง ในฐานะรุ่นพี่ขอแนะนำรุ่นน้อง แม้ว่าท่านจะตัดขาดไปแล้ว ว่าขอให้เอาอย่าง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ซึ่งท่านเคยพูดไว้ว่า “ผมพอแล้วครับ” ลาออกเถอะ