ยกฟ้อง! แม่ยายโกงหวย 12 ล้าน

2019-09-17 16:55:26

ยกฟ้อง!   แม่ยายโกงหวย 12 ล้าน

Advertisement

ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง กรณีหนุ่มวัย 16 ปี พร้อมแม่ชาวโคราช ฟ้องแม่ยายและญาติชาวบุรีรัมย์ว่ายักยอกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 เป็นเงิน 12 ล้าน ทนายชี้กระบวนการถือว่าสิ้นสุด หลังจากนี้จะเดินทางข้อหาแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จ แม่ยายชี้แล้วแต่ทนาย ส่วนหนึ่งไม่อยากให้เป็นเยี่ยงอย่าง

วันที่ 17 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายแดน (นามสมมติ) อายุ 17 ปี และนางบัวตัน เลาะกลาง อายุ 38 ปี แม่นายแดน ชาว อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา แจ้งความที่ สภ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ เมื่อเดือน เม.ย.61 โดยกล่าวหาว่า นางมานิตย์ เต็มปักษี อายุ 45 ปี อยู่เลขที่ 46 หมู่ 13 บ้านหนองไผ่ ต.เสาเดียว อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ มีฐานะเป็นแม่ยายของนายแดน พร้อมด้วย น.ส.สมศรี สายสมคุณ อายุ 21 ปี ลูกสาวคนโตของนางมานิตย์ และนางฉวีวรรณ ลูกจันทร์ อายุ 30 ปี หลานสาวนางมานิตย์ ว่าร่วมกันยักยอกสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 หมายเลข 412073 งวดประจำวันที่ 1 เม.ย.2561 จำนวน 2 ใบ เป็นเงิน 12 ล้านบาท โดยครั้งนั้น นายแดน อายุ 16 ซึ่งเป็นลูกเขยอ้างว่า ถูกรางวัลที่ 1 แล้วนำลอตเตอรี่ทั้ง 2 ใบ ไปฝากไว้กับนางมานิตย์ ผู้เป็นแม่ยาย ทั้งกล่าวหาว่าแม่ยายเป็นคนนำสลากไปขึ้นเงิน พร้อมจ้างทนายความยื่นฟ้องศาลจังหวัดนางรอง ให้เอาผิดกับคนทั้ง 3

ต่อมาเมื่อเดือน ส.ค.61 ศาลชั้นต้นยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง โดยศาลวินิจฉัยว่าเป็นเพียงแค่พยานบุคคล และพยานบอกเล่า ไม่มีวัตถุพยาน หรือพยานเอกสารมายืนยัน ว่าจำเลยกระทำผิดจริง ประกอบกับพยานเอกสารจากกองสลากก็ไม่ปรากฏชื่อโจทก์ ที่สลักไว้หลังสลาก และไม่ปรากฏชื่อของจำเลย หรือญาติของจำเลยไปขึ้นเงิน ศาลจึงมีคำพิพากษายกคำร้องโจทก์ในชั้นไต่สวน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลจากกองสลากฯ พบว่าผู้ที่ถูกรางวัลที่ 1 ชุดดังกล่าวที่ไปขึ้นเงินกับกองสลากฯ อยู่ที่ จ.ลำปาง และไม่เกี่ยวข้องอะไรกับแม่ยายที่ถูกกล่าวเลย และมีการยื่นอุทธรณ์ต่อ




จากนั้น น.ส.เอ (นามสมมุติ) ลูกสาวนางมานิตย์ เต็มปักษี สำนึกผิดกลับมาอยู่กับแม่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมสารภาพหมดเปลือกว่า เรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง ตนกับแฟน ไม่ได้ซื้อล็อตเตอรี่ และไม่ถูกรางวัลตามที่มีเรื่องก่อนหน้านี้ เรื่องทั้งหมดแฟนหนุ่มเป็นคนกรุเรื่องขึ้นมา ตนจึงจำเป็นต้องคล้อยตาม

ล่าสุดศาลจังหวัดนางรอง เปิดคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ภาค 3 นครราชสีมา ยืนคำตัดสินของศาลชั้นต้น โดยให้เหตุผลว่า ในส่วนที่โจทย์อุทธรณ์มานั้น เกี่ยวกับเรื่องความไม่ถูกต้องของเอกสารบางส่วนของกองฉลาก ว่าส่งมาไม่ครบและไม่มีรายละเอียดรายมือชื่อของโจทย์บ้าง ศาลชี้ว่าโจทย์ไม่ได้โต้แย้งในส่วนของคำพิพากษา ในส่วนของการสืบพยานการไต่สวนมูลฟ้องของศาลชั้นต้น เมื่อนำมาหยิบยกเป็นข้ออ้างในชั้นอุทธรณ์ ถือเป็นความผิดพลาดของโจทย์ที่ไม่มีการตรวจสอบ จึงถือว่าเอกสารของกองฉลากส่งมาครบถ้วนและถูกต้องแล้ว ศาลจึงยกฟ้อง



นายปิยณัฐ สุกยัง เลขาธิการเครือข่ายรณรงค์ทวงความยุติธรรม ระบุว่า ตามปกติถือว่าคดีสิ้นสุดแล้ว ยกเว้น ขออนุญาตศาลเพื่อยื่นฎีกา ความคิดเห็นส่วนตัวควรจะยุติแล้ว เพราะสังคมทั่วประเทศรู้กันหมดแล้ว อย่างไรก็ตามโจทย์ยังถูกแจ้งข้อหา 3 คดีคือแจ้งความเท็จ เบิกความ เท็จและพรากผู้เยาว์ ซึ่งศาลได้มีคำสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราว เพื่อรอผลการฟ้องคดีนี้ก่อน ซึ่งหากจบลง ศาลก็จะนำมาพิจารณาต่อไป