เปิดใจเคลียร์ "เปิ้ล-จูน" เข้าใจคลิปดราม่า "น้องออกู๊ด" ขี่เจ็ทสกี

2019-09-14 06:00:55

เปิดใจเคลียร์  "เปิ้ล-จูน"  เข้าใจคลิปดราม่า  "น้องออกู๊ด"  ขี่เจ็ทสกี

Advertisement


เกิดดราม่าเข้าจนได้เมื่อหนุ่ม  "เปิ้ล-นาคร ศิลาชัย" โพสต์คลิปขณะ "น้องออกู๊ด"  ขี่เจ็ทสกีจนชาวโซเชียลเกิดอาการเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ล่าสุดเจอจูนครอบครัวศิลาชัย เลยสอบถามถึงเรื่องนี้ได้ความว่า






ออกู๊ดขี่เจ็ทสกีแล้ว ในฐานะแม่เห็นลูก 3 ขวบขี่เจ็ทสกีรู้สึกยังไง

จูน : ก็เห็นพร้อมพี่ๆนักข่าวนี่แหละค่ะ พี่เปิ้ลลงคลิปก่อนที่จะบอกเรา จริงๆ รู้มาสักพักแล้วค่ะ เพราะเขาขี่ส่วนตัวอยู่แล้ว แต่แค่วันนั้นจูนก็เพิ่งเห็นพี่เปิ้ลลงคลิปพร้อมกับที่ทุกคนเห็นนั่นแหละค่ะ ก็เสียวแต่เราอยู่กับเจ็ทสกีมาตลอดชีวิตอยู่แล้ว และรู้ว่าพี่เปิ้ลต้องเซฟตี้ให้ลูกอยู่แล้ว




เปิ้ล : ออก้าเริ่มตอน 4 ขวบ แต่ออกู๊ดเริ่ม 3 ขวบ








คาบขวดนมขี่กันเลย?

เปิ้ล : เรื่องคาบนมนี่เป็นดีไซน์ของพ่อเอง 3 ขวบนี่น่าจะเป็นเด็กที่อายุน้อยที่สุดในโลกแล้วที่ขี่เจ็ทสกีได้ เราก็คิดว่าถ้าคาบขวดไปด้วยมันคงจะเท่เนอะ แต่ยังไงกู๊ดก็ไม่คาบ ไม่เอาเลย เราก็เลยวางแผนบอกว่า ถ้าเขาอยากแข่งเจ็ทสกีปะป๊าต้องถ่ายรูปส่งไปให้กรรมการดู โดยการคาบขวดนมแล้วขี่ดูก่อน ถ้าคาบขี่แล้วไม่หลุดกรรมการก็จะอนุญาตให้ขี่ได้ตลอดชีวิต หลังจากนั้นคาบไม่ปล่อยเลย เพราะกลัวไม่ได้ขี่





ฝึกให้น้องใส่หมวกกันน็อกด้วย?

เปิ้ล : ตอนนี้ยังใส่ไม่ได้ครับ เพราะเขายังไม่ชิน เพราะคนที่ยังไม่เคยเริ่มเลยแล้วไปใส่หมวกกันน็อคครั้งแรก ถ้าตกน้ำปุ๊บน้ำจะเข้าไปในหมวก เหมือนเอาแก้วน้ำมาครอบหัว เพราะฉะนั้นต้องให้เขาขี่แล้วตกน้ำให้ชินกับการอยู่ในน้ำก่อนโดยที่ไม่มีพันธนาการใดๆ ไม่งั้นมันจะเหวอ แต่ถ้าขี่จักรยานหรือมอเตอร์ไซค์ขี่ครั้งแรกมันต้องใส่อยู่แล้ว เพราะผมเองก็เคยเกิดอุบัติเหตุในน้ำ พอน้ำเข้าไปในหมวกกันน็อคนี่โอ้โห ถ้าคนไม่เคยจะเหวอมาก



คอมเมนต์กันเข้ามาเยอะมากด้วยความเป็นห่วง



เปิ้ล : หลายคนก็เป็นห่วงนะ ก็ต้องขอบคุณมากๆ เลย แต่บางคนอาจจะคอมเม้นท์มาแล้วยังไม่ได้รับคำตอบก็ให้ไปเปิดดูในช่องเปิ้ลนาคร แชนแนลที่ยูทูปได้ เพราะจะมีคำอธิบายทั้งหมดอยู่ในนั้น เราจะได้คลายความสงสัยและอาจจะได้เอาไปเป็นแนวทางให้กับลูกตัวเองได้ เพราะการฝึกอะไรก็ตามมันต้องมี 1-10 ทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าอยากเท่แบบพี่เปิ้ล อันนี้ต้องแนะนำเลยนะครับถ้าใครอยากจะทำแบบนี้ห้ามทำเด็ดขาด บางคนบอกว่าเห็นเปิ้ลนาครยังทำได้เลยจะทำบ้าง ห้ามเลยนะครับ เพราะมันต้องใช้เทรนเนอร์ ใช้ครูฝึกระดับโลกจริงๆ ถึงจะทำได้



เราก็เป็นครูฝึกอยู่แล้วด้วย?
เปิ้ล : ครูฝึกระดับโลกก็มีอยู่คนเดียวนี่แหละครับ เปิ้ล นาคร (หัวเราะ)​ ไม่ๆ มีหลายคน แต่เราออกไปฝึกให้นักแข่งมาหลายประเทศแล้ว เกาหลี จีน ลาว เราก็ฝึกให้หมด เพราะฉะนั้นลูกตัวเองทำไมจะฝึกไม่ได้






ก่อนที่จะให้ขี่กลัวมีดราม่าแบบนี้เกิดขึ้นไหม?

เปิ้ล : จูนน่ะกลัว เขาเป็นเด็กโซเชียล เขาก็จะรู้ว่าถ้าโพสต์อันนี้ลงไปจะเจออะไร เขาบอกพี่เปิ้ลต้องระวังนะ ต้องยังงี้ๆ เราบอก​ว่าถ้าเราพร้อม ของทุกอย่างมีคำอธิบายก็อย่าไปกลัว เพราะฉะนั้นคำคอมเม้นท์ผมว่ามันเป็นสิ่งที่จะต้องมีนะ ดราม่าควรจะมีในโลกนี้ เพราะไม่มีอะไรที่มันจะสวยสดใสเป็นดอกไม้ตลอดไปหรอก พระพุทธเจ้ายังโดนดราม่าเลย เรื่องแบบนี้มันจะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นนะ ถ้าไม่มีดราม่าชีวิตมันจะสมบูรณ์เกินไป



จูน : ตอนนั้นมันคือภาพซ้อน มันเคยเกิดมาแล้วคือออก้า คือภาพย้อนมาเป็นออกู๊ดเท่านั้นเอง เรารู้แพทเทิร์นแต่เราก็อดห่วงไม่ได้ แต่ก็น่าจะโอเค เราก็ต้องเข้าใจพี่เปิ้ล เราต้องลุ้นให้ลูกเราด้วยแหละเพราะเขาชอบจริงๆ เขาปลอดภัยจริงๆ เราดูอยู่แล้ว เราได้อ่านคอมเม้นต์ที่เพื่อนๆส่งมาให้ดู ทุกๆ คนคือเป็นห่วง ไม่ได้จิกกัด ทุกคนห่วงออกู๊ด หากคิดย้อนกลับไปพี่ๆ เป็นคนตั้งชื่อให้ออกู๊ด เหมือนเขาเลี้ยงออกู๊ดตั้งแค่อยู่ในท้อง ก็เหมือนลูกตัวเองเขาจะเป็นห่วงมาก ดังนั้นรับฟัง คราวหน้าก็จะขับให้ระวังขึ้น



เปิ้ล : ออก้าเริ่ม 4 ขวบ ออกู๊ดเริ่ม 3 ขวบ ออเกรซคงเริ่ม 2 ขวบแน่เลย





หลังจากนี้จะให้ลูกๆลงแข่งเลยไหม?
เปิ้ล : ตอนนี้ออก้าเตรียมแข่งเยาวชนแห่งชาติอยู่ ตอนนี้เตรียมตัวเป็นนักแข่งกทม และเตรียมจะแข่งกีฬาเยาวชนที่จะเกิดขึ้นที่จ.ตราดในต้นปีหน้า อายุน้อยสุดสำหรับนักแข่งที่แข่งกีฬาเยาวชนในประเทศไทย แต่ก็ต้องสู้เพราะออก้าอายุ 8 ขวบต้องไปแข่งสู้กับเด็กอายุ 12 ขวบ



น้องว่าไงบ้างต้องไปแข่ง?
เปิ้ล : คือเขาชอบ มันเข้าเลือดเขาไปแล้ว เขาเกิดในวันวันน้ำท่วมใหญ่ปี 54 ดังนั้นเขาจะมากับน้ำจริงๆ ชื่อยังนคราเลย สายน้ำที่เชี่ยวกราด





ถามถึงเรื่องเครื่องสำอาง?

เปิ้ล : ตอนนี้ก็อยู่ในกระบวนการพิจารณาตามหลักการขั้นตอนของทางกฎหมายทางนั้นอยู่ เราก็อยากให้ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ในการค้าแบบเสรีแค่นั้นเอง เพราะทุกคนหลายๆ เจ้าก็ภาวนาให้จบลงด้วยดี ทุกคนก็อยากขายเท่าเทียมกัน ก็ไม่อยากให้เกิดเรื่อง



ตอนนี้ขายได้ปกติไหม?

เปิ้ล : ขายปกติ เพราะเราลงทุนไปหลายสิบล้าน ดังนั้นขอความเท่าเทียมกัน ขอให้ได้ขายของเถอะลูกจะได้มีเงินไปโรงเรียน กินข้าว



ตอนนี้ค่าเทอม 4 เท่าไรแล้ว?

เปิ้ล : 4 คน รวมๆ กันก็เป็นหลักล้านต่อปี คือเราก็ต้องไหม จะร้อยล้านพันล้านถ้ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตเขาก็ต้องกระเสือกกระสนมาให้เขาให้ได้ ถึงเรียนโรงเรียนอินเตอร์ไม่ได้ เรียนโรงเรียนวัด มันก็ทำให้เป็นคนดีเหมือนกัน เราก็ส่ง ไม่มีเงินเลยก็จะพาไปโรงเรียนวัด วิ่งไม่ได้ก็เดิน เดินไม่ได้ก็คลาน คลานไม่ได้ก็กระดึ๊บ



มีต้องตั้งเป้าไหมว่าปีหนึ่งต้องหาเงินเท่าไร?

จูน : ต้องวางอนาคตเพราะการศึกษามันระยะยาวกว่าเขาจะจบ

เปิ้ล : มันคือการลงทุน ดีกว่าการซื้อหุ้นอีก แทนที่จะเอาเงินไปซื้อหุ้นก็เอาเงินไปซื้อค่าเทอมนี่แหละ ซื้อครูดีๆ ซื้อครอสดี ๆ ซื้อประสบการณ์ให้ลูก พาลูกไปลุยป่าชายเลน พาลูกไปลุยธรรมชาติ เสียเงินเสียทองเอาหมด ขอให้ลูกได้เรียนรู้ได้มากที่สุด เราอยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่กี่พันวัน ผมก็ต้องให้เขาสานต่อชีวิตสานต่อประสบการณ์ให้เดินต่อไปได้ ขนาดไดโดเสาร์ยังสูญพันธ์ นับประสาอะไรกับพ่อและแม่ เพราะฉะนั้นเราตองให้ประสบการ์ณเขาไป ให้กมดเลย เพราะอีกหน่อยเราก็เป็นแบบไดโนเสาร์สูญพันธุ์