“อนุพงษ์”รับน้ำอุบลฯมากหลังฝนถล่มซ้ำ

2019-09-13 12:25:04

“อนุพงษ์”รับน้ำอุบลฯมากหลังฝนถล่มซ้ำ

Advertisement

รมว.มหาดไทยยอมรับปริมาณน้ำจ.อุบลราชธานีมีมาก หลังฝนตกลงมาอีกเมื่อตอนตี 1 สั่งเจ้าหน้าที่ดูแลเข้ม 24 ชม. เผยติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุดลดมวลน้ำ

เมื่อวันที่ 13 ก.ย. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.อุบลราชธานี ว่า ปริมาณน้ำที่มีอยู่เดิมยังระบายไม่หมด และอย่างที่ทราบมีปริมาณฝนตกลงมามาก อีกทั้งสถานการณ์น้ำฝั่ง อ.วารินชำราบต่ำไป ทำให้มีน้ำท่วมค่อนข้างมาก ในส่วนของฝั่ง อ.เมืองแม้จะมีการเตรียมการมาอย่ามาโดยตลอด แต่เมื่อประมาณ 01.00 น. มีปริมาณฝนตกลงมาอีก 80 มิลลิเมตรถือว่าหนักมาก ยอมรับว่าฝั่ง อ.เมืองได้รับผลกระทบมาก สำหรับการดำเนินการในการระบายน้ำ ได้มีการติดตั้ง เครื่องผลักดันน้ำ ทั้งที่ อ.พิบูลมังสาหารและโขงเจียม ประมาณ 60 เครื่อง ผลักดันน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด เพื่อลดมวลน้ำ ซึ่งขณะนี้ทำได้เพียงเท่านี้ก่อน ถ้าฝนไม่ตกลงมาเพิ่มอีกตั้งแต่บ่ายนี้เป็นต้นไป สถานการณ์น่าจะดีขึ้น อย่างไรก็ตามในการดูแลประชาชน ทุกภาคส่วนได้ดูแลอย่างเต็มที่ ทั้งความเดือดร้อนความเป็นอยู่และการสัญจร โดยมีจิตอาสา ตำรวจ ทหาร ลงพื้นที่ไปดูแล ขณะที่โรงพยายามต่างๆ ก็พยายามจะเอาให้อยู่ แต่ต้องยอมรับว่ามวลน้ำมีมาก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องมีการย้ายคนออกจากพื้นที่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตรงไหนที่จำเป็นก็ต้องย้าย เพราะประมวลน้ำมีมาก และอุบลราชธานีเป็นพื้นที่ต่ำด้วย

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ในทุกสายน้ำ ทั้งแม่น้ำชี แม่น้ำมูลและน้ำในเขื่อนขณะนี้มีการชะลอน้ำ แต่ปัญหาอยู่ที่น้ำท่า มีมากและไหลลงสู่ที่ต่ำ ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบ แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เตรียมเฝ้าระวังตลอด 24 ชม. พยายามระบายน้ำที่ค้างออกให้เร็วที่สุด ในฝั่งเมืองคิดว่าเอาอยู่ แต่เมื่อคืนฝนตกลงมาถึง 80 มิลลิเมตรในช่วงเวลาสั้นๆ ทำให้ระดับน้ำขึ้นสูง

พลเอกอนุพงษ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากที่ จ.อุบลราชธานรงีแล้ว ยังมีที่จังหวัดอื่นอีกหรือไม่ที่ต้องเฝ้าระวังนั้น ก็มีเฝ้าระวัง เพราะอย่างที่ทราบกัน แต่ปัญหาไม่หนักเท่าที่อุบลราชธานี ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระกระแสรับสั่งให้ดูแลประชาชนให้ดีที่สุด และให้ปรับแผนงานทุกหน่วยงานตามที่มีกระแสรับสั่งลงมา อย่างไรก็ตามทุกหน่วยงานได้เตรียมการในช่วงที่ผ่านมาเป็นอย่างดี พร้อมติดตามสถานการณ์ และแจ้งเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ประชาชนเองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเมื่อบอกให้ย้ายหรืออพยพก็ยอมออกจากพื้นที่ซึ่งการสูญเสียส่วนหนึ่งก็เกิดขณะช่วงอพยพที่โดนน้ำพัดพาและเรือล่มบ้าง โดยหลังจากนี้จะดูแลเยียวยา รวมถึงซ่อมแซมบ้านเรือนให้กับประชาชน