เจ้าหญิงพระราชธิดากษัตริย์ซาอุดีอาระเบีย ถูกศาลในฝรั่งเศสมีคำตัดสินให้ลงโทษจำคุก 10 เดือน และปรับเป็นเงิน 10,000 ยูโร แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา จากความผิดฐานทำร้ายร่างกาย และลักพาตัว ช่างซ่อมประปา ภายในห้องพักอพาร์ตเมนต์หรูของเธอ ในกรุงปารีส
เจ้าหญิงฮัสซา บินต์ ซัลมาน วัย 43 ชันษา พระราชธิดาในสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอาซิส อีล ซาอุด กษัตริย์ซาอุดีอาระเบีย และพระเชษฐภคินี (พี่สาว) ในเจ้าชายโมอัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมาร
คดีนี้เจ้าหญิงฮัสซา ซึ่งตกเป็นจำเลย ถูกกล่าวหาว่า สั่งให้นายรานิ ไซดี องครักษ์ ทำร้ายช่างประปา ที่เธอระบุว่าถือวิสาสะถ่ายภาพภายในห้องพักของเธอ บนชั้น 5 ของอาคารที่พักบนถนนฟอช ในกรุงปารีส เมื่อเดือน ก.ย. 2559 โดยนายอัชราฟ เอด ช่างประปาชาวฝรั่งเศสเชื้อสายอียิปต์ ผู้เป็นโจทก์ ถูกโทรศัพท์เรียกไปซ่อมอ่างล้างหน้าที่ชำรุด
นายอัชรัฟ เผยต่อศาลว่า องครักษ์ใช้เชือกมัดร่างเขาจนแน่น และบังคับให้เขาก้มลงจูบที่ฝ่าพระบาทของเจ้าหญิง
เมื่อวันพฤหัสบดี (12 ก.ย.) ศาลกรุงปารีส ซึ่งตัดสินคดีลับหลังจำเลย มีคำพิพากษาว่าเจ้าหญิงฮัสซามีความผิดฐาน สมรู้ร่วมคิดกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น โดยมีอาวุธ และสมรู้ร่วมคิดกันลักพาตัว จึงให้ลงโทษจำคุกเป็นเวลา 10 เดือน แต่โทษจำให้รอลงอาญาไว้ก่อน และปรับเป็นเงิน 10,000 ยูโร (336,710 บาท)
ส่วนนายรานิ องครักษ์ ศาลปารีสตัดสินให้ลงโทษจำคุก 8 เดือน แต่โทษจำให้รอลงอาญาเช่นกัน และปรับเป็นเงิน 5,000 ยูโร (168,355 บาท)
รายงานระบุว่า หลังเกิดเหตุที่กลายเป็นคดีฟ้องร้องในศาล เจ้าหญิงฮัสซาเสด็จหนีกลับไปซาอุดีอาระเบีย และไม่กลับไปฝรั่งเศสอีก ทำให้ศาลต้องออกหมายจับกุมสากล เมื่อเดือน มี.ค. 2561 และพิจารณาไต่สวนคดีลับหลังจำเลย จนกระทั่งมีคำพิพากษา