สั่งคุ้มกัน 24 ชม. ครอบครัว “บุญแทน” หนึ่งในทีมจับ “บิลลี่”

2019-09-09 16:55:40

สั่งคุ้มกัน 24 ชม. ครอบครัว “บุญแทน” หนึ่งในทีมจับ “บิลลี่”

Advertisement

ผกก.ท่าแซะ สั่งดูแลความปลอดภัย 24 ชั่วโมง เมีย พ่อ แม่ “บุญแทน” อดีต จนท.อุทยานฯ หนึ่งในทีมจับ “บิลลี่” หลังภรรยาเข้าแจ้งความ ถูก “ดาบเท่ง” ตร.ภ.7 บุกถึงบ้านให้ไปเป็นพยานดีเอสไอ

กรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สืบสวนการหายตัวไปของ นายพอละจี หรือ บิลลี่ รักจงเจริญ แกนนำกะเหรี่ยงโป่งลึก-บางกลอย เขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ตรวจจับมีน้ำผึ้งป่า หลังถูกปล่อยนายบิลลี่ได้หายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อวันที่ 17 เม.ย.2557 จนถึงปัจจุบันนาน 5 ปี จนกระทั่ง ดีเอสไอ ได้มาพบหลักฐานชิ้นส่วนกระดูก 2 ชิ้น ถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร 1 ถัง เหล็กเส้น 2 เส้น ถ่านไม้ 4 ชิ้น และเศษฝาถังน้ำมัน ถูกนำไปทิ้งถ่วงน้ำไว้ใต้สะพานแขวน ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าวเมื่อวันที่ 8 ก.ย. นางลัดดาวรรณ บุษราคัม อายุ 32 ปี บ้านอยู่ ต.ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ภรรยาของนายบุญแทน บุษราคัม อดีตพนักงานพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 หนึ่งในเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นายพอละจี หรือ บิลลี่ รักจงเจริญ ที่หายตัวตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมาได้นำคลิปเสียงไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันต่อ พ.ต.ท.สมบูรณ์ พุ่มจร สว.(สอบสวน) สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ว่ามี “ดาบเท่ง” สังกัด บช.ภ.7 (ด.ต.พงษ์ศาวดี ไกรกูล) ได้โทรศัพท์มาที่ผู้แจ้งเมื่อวันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมา ช่วงเวลา 11.00 น. “ดาบเท่ง” ได้พูดข่มขู่ว่าหัวหน้าอี่ ขู่ฆ่านายบุญแทนสามีตน และพูดเกลี้ยกล่อมให้บุญแทนไปเป็นพยานให้กับหน่วยดีเอสไอ โดยดีเอสไอจะมีเงินเดือนให้และคุ้มครองความปลอดภัยให้ถ้าไม่มาจะไม่รับรองความปลอดภัย




ต่อมาวันที่ 4 ก.ย. “ดาบเท่ง” ได้ไปที่บ้านบิดา มารดา ของผู้แจ้งและข่มขู่ว่า ทางฝ่ายหัวหน้าชัยวัฒน์ลงขันว่าจะให้นายบุญแทนรับผิดคดีทั้งหมดเพียงผู้เดียวในการชี้เป้า ซึ่งทำให้บิดา มารดา ของผู้แจ้งเกิดอาการกลัว ผู้แจ้งจึงมาให้พนักงานสอบสวนลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานยังไม่ประสงค์จะดำเนินคดีกับผู้ข่มขู่ แค่อยากให้แจ้งจะได้มีบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และมีการส่งหลักฐานซีดีบันทึกเสียง เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 15 ต.ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร

นอกจากนั้นนางลัดดาวรรณ ยังได้ทำหนังสือถึง ผกก.สภ.ท่าแซะ ขอกำลังตำรวจท้องที่ ไปคอยตรวจสอบ คุ้มครองความปลอดภัยตนเองพร้อมกับบิดา มารดา ที่บ้านพักอยู่อาศัยด้วย เนื่องจากหวาดกลัวความไม่ปลอดภัย หลังจากเกิดเหตุถูก “ดาบเท่ง” พูดจาขุมขู่คุกคามในลักษณะดังกล่าว



ด้าน พ.ต.อ.ชนินทร์ ณรงค์น้อย ผกก.สภ.ท่าแซะ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า หลังจากที่นางลัดดาวรรณ มาแจ้งความลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานและขอกำลังความคุ้มครองความปลอดภัย ซึ่งตำรวจจะต้องดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนทุกคนอยู่แล้ว จึงได้สั่งการให้ตำรวจไปติดตั้งตู้แดงที่บ้านของนางลัดดาวรรณเป็นกรณีพิเศษ พร้อมกับให้รถยนต์สายตรวจ รถจักรยานยนต์สายตรวจ ออกตรวจเป็นระยะๆ ตามวงรอบ ตลอดทั้งกลางวันกลางคืน พร้อมกับให้หมายเลขโทรศัพท์มือถือสายตรงที่สามารถโทรหาตนได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยแก่นางลัดดาวรรณ