นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย จ.ยโสธร ระบุมาเพื่อให้ทุกคนสบายใจ รัฐบาลไม่ทอดทิ้งทุกคน ยันไม่ได้หวงให้เงินแก่ประชาชนแต่ต้องให้อย่างถูกต้อง เผยอยู่ กทม. สวดมนต์ให้ทุกคนทุกวัน กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูโครงการบริหารจัดการน้ำ
เมื่อวันที่ 9 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย จ.ยโสธร และ จ.อุบลราชธานี
จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะนั่งรถตรวจสภาพปัญหาพื้นที่บริเวณแม่น้ำชีและแม่น้ำยังไหลมาบรรจบกัน ณ บ้านแจงน้อย ต.ค้อเหนือ อ.เมือง จ.ยโสธร ก่อนจะเดินทางมาเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย ที่ศูนย์ประสานงานและรับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม ชุมชนวัดกลางศรีไตรภูมิ อ.เมือง จ.ยโสธร
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงพื้นที่วันนี้ได้นำรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่มาด้วยเพื่อให้ทุกคนสบายใจว่า รัฐบาลไม่ทอดทิ้งทุกคน และอยากจะนำความที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ฝากความห่วงใยมาถึงทุกคน วันนี้ประเทศไทยมี 76 บวก 1 จังหวัด รัฐบาลมีหน้าที่ในการบริหารงานทุกพื้นที่ ไม่ใช่รักเฉพาะจังหวัด เมื่อบ้านเมืองมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ต้องเรียนรู้ว่าจะอยู่กันอย่างไร หากยังไม่มีเงินแต่ใช้เงินไม่ระวัง ปัญหาก็จะหนักกว่าเดิม ส่วนปัญหาน้ำในประเทศมีปัญหาทั้งปริมาณน้ำในพื้นที่ชลประทานยังทำได้ไม่ครบ แผ่นดินเรามีเหนือมีใต้ ทั้งหมดไหลลงมารวมภาคกลาง พอน้ำอั้นมากๆก็ไหลลงมาตรงกลาง ไหลลงเขื่อนชัยนาท เขื่อนเจ้าพระยา เราเคยเจอสถานการณ์ปี 2554 มาแล้ว ดังนั้น สถานการณ์ครั้งนี้ เราต้องมีกำลังใจ เมื่อน้ำลงมา ก็ไหลบ่าลงมาข้างล่าง ลำน้ำสาขาต่างๆก็จะเอ่อล้นทั้งหมด ทำอย่างไรก็จะอยู่กับน้ำให้ได้ ดังนั้นทุกคนจึงต้องเตรียมการ ให้มีน้ำเพียงพอจะทำการเกษตร วันนี้การเกษตรเสียหายกว่า 5 หมื่นไร่ การลงพื้นที่วันนี้ ต้องหามาตรการที่เหมาะสม ใช้เงินให้ถูกต้อง ไม่ได้หวงที่จะให้แก่ประชาชนแต่ต้องให้อย่างถูกต้อง
นายกฯ กล่าวต่อว่า เมื่อสักครู่ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ก็พบว่า เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง ยืนยันว่า ลงพื้นที่ภาคอีสานมาหลายครั้ง หากเป็นเรื่องจำเป็น ก็ต้องมีมาตรการเยียวยา ไม่ได้หมายความว่า ต้องยึดที่ไล่ที่ สำหรับ 6 โครงการที่ทางจังหวัดได้เสนอมา ทั้งโครงการศึกษาออกแบบและก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมชุมชนเมืองยโสธร งบประมาณ 206.4 ล้านบาท โครงการศึกษาออกแบบและก่อสร้างการผันน้ำจากแม่น้ำชี บ้านกุดกง ต.เขื่องคำ อ.เมืองยโสธร ลงสู่ลำเซบาย บ้านหนองเสียว ต.กู่จาน อ.คำเขื่อนแก้ว พร้อมก่อสร้างอาคารบังคับน้ำและระบบกระจายน้ำงบประมาณ 400 ล้านบาท โครงการศึกษาออกแบบและก่อสร้างแก้มลิงลำน้ำยัง พร้อมก่อสร้างคันพนังกั้นน้ำลำน้ำยัง จากบ้านใหม่ชุมพร-บ้านแจ้น้อย เพื่อระบายน้ำจากลำน้ำยังก่อนลงสู่แม่น้ำชี งบประมาณ 200 ล้านบาท โครงการศึกษาออกแบบ และก่อสร้างฝ่ายกั้นแม่น้ำชี แห่งที่ 2 จังหวัดยโสธร งบประมาณ 400 ล้านบาท โครงการศึกษาออกแบบ และก่อสร้างคันพนังกั้นน้ำลำเซบาย บ้านเชียงเพ็ง- บ้านโนนตูม จ.ยโสธร งบประมาณ 20 ล้านบาท และโครงการศึกษาออกแบบและก่อสร้างประตูระบายน้ำคลองไข่นุ่น เพื่อระบายน้ำจากลำน้ำยัง ก่อนลงสู่แม่น้ำชี งบประมาณ 15 ล้านบาทนั้น ตนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูว่าทำได้หรือไม่ได้อย่างไร เพราะใกล้จะเสนองบประมาณปี 2563 แล้ว
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า สิ่งแรกที่สำคัญคือเพิ่มพื้นที่การเพาะปลูกให้มากขึ้น และต้องแยกเรื่องภัยแล้งกับน้ำท่วม ยืนยันจะดำเนินการทุกเรื่องให้เร็วกว่าเดิม แม้ว่าจะไม่ง่าย ส่วนโครงการแก้มลิงนั้น ขอให้ช่วยสนับสนุนโครงการดังกล่าวเพื่อแก้ปัญหา และอย่าลืมเรื่องไม้มีค่า ขอห้ามบุกรุก ไม่เช่นนั้นจะไม่มีอะไรต้านทานน้ำได้อีก ทุกคนต้องดูแลป่าและทำมาหากินกับป่าได้ ขอแต่อย่าตัดไม้ทำลายป่า นายกรัฐมนตรี ย้ำทิ้งท้ายอีกว่า อยู่ กทม. ตนไม่ได้สบาย เพราะสวดมนต์ให้ทุกคนทุกวัน
นายกรัฐมนตรียังได้มอบถุงยังชีพ และเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียงภายในศูนย์ประสานงานและรับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม ชุมชนวัดกลางศรีไตรภูมิ อ.เมือง จ.ยโสธร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการพูดคุยกับชาวบ้าน นายกรัฐมนตรี พยายามพูดคุยด้วยภาษาอีสาน แต่ไม่ค่อยมีเสียงตอบรับ นายกรัฐมนตรีจึงพูดว่า ตกลงฉันพูดอีสานไม่รู้เรื่องหรอจ๊ะ ขอโทษทีย้ายไปนานแล้ว เกิดโคราชแต่ย้ายไปนานแล้ว