ไฟป่าลุกไหม้ลามกว่า 100 จุด ในพื้นที่ 2 รัฐทางภาคตะวันออกของออสเตรเลีย ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนระอุ และกระแสลมพัดแรง ทางด้านเจ้าหน้าที่ได้กล่าวเตือนลางหายนะ ไฟป่าปีนี้มาเร็วตั้งแต่ต้นฤดูใบไม้ผลิ
ในรัฐควีนส์แลนด์ เกิดไฟป่ากว่า 50 จุดเมื่อวันอาทิตย์ สำนักอุตุนิยมวิทยาของรัฐประกาศว่า กระแสลมแรงช่วยโหมกระพือไฟไหม้ลาม และยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าลมแรงจะยุติลง ส่วนที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ที่อยู่ติดกันทางใต้ ไฟป่าจุดเดียวขนาดมหึมา เผาผลาญพื้นที่ไปแล้วกว่า 138,000 เอเคอร์ หรือกว่า 349,140 ไร่
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า นี่อาจถือเป็นลางหายนะ สำหรับไฟป่าในออสเตรเลีย ในฤดูร้อนปีนี้ที่กำลังจะมาถึง ในต้นเดือน ธ.ค.
นายแอนดรูว์ สเตอร์เกส ผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาสาธารณภัยฉุกเฉินรัฐควีนส์แลนด์ กล่าวว่า ไม่เคยพบเห็นสภาวะอย่างนี้มาก่อน ในประวัติศาสตร์ของรัฐ เท่าที่เคยมีการบันทึก เกิดไฟป่ารุนแรงตั้งแต่ต้นฤดูใบไม้ผลิ
บ้านเรือนถูกไฟป่าเผาจนวอดแล้วอย่างน้อย 20 หลัง รวมถึงโรงแรมที่พักประวัติศาสตร์ “บินนา บูร์รา ลอดจ์” กลางป่าอุทยานแห่งชาติลามิงตัน ในรัฐควีนส์แลนด์ ที่สร้างตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1930 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ถูกไฟป่าที่ไม่สามารถควบคุมได้ เผาทำลายจนวอดทั้งหมด เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์
เจ้าหน้าที่เผยเมื่อวันอาทิตย์ ว่า ยังไม่มีผู้เสียชีวิต แต่นักดับเพลิงอาสาสมัครรายหนึ่ง ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส จากไฟไหม้เมื่อวันที่ 6 ก.ย.