“ประภัตร” ควง “ยุทธพล” ลงสะพานปลาหัวหิน เล็งพัฒนาให้ทันสมัยตามแบบญี่ปุ่น
เมื่อวันที่ 8 ก.ย. นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลงพื้นที่บริเวณท่าเทียบเรือสะพานปลาหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดย มีนายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอหัวหิน นายมณเฑียร อินทร์น้อย ผอ.องค์การสะพานปลา พล.ต.ต.กษณะ แจ่มสว่าง รอง ผบช.ภ.7 พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองหัวหินให้การต้อนรับท่ามกลางฝนโปรยปราย ทั้งนี้เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาสะพานปลาหัวหินให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน แก้ปัญหาปากท้องแก่ชาวบ้าน โดยการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยมีแนวคิดจากตลาดปลาซึกิจิ ที่โด่งดังในประเทศญี่ปุ่นเป็นต้นแบบ
นายประภัตร กล่าวว่าเป็นครั้งแรกที่เดินทางมาสะพานปลาหัวหินและได้พบว่าสะพานปลาแห่งเก่าที่กระทรวงเกษตรฯดูแลอยู่นั้นได้ถูกทิ้งร้างเอาไว้ ซึ่งสะพานปลาแห่งนี้เกิดขึ้นโดยพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2506 พระองค์ท่านได้มองเห็นว่าเป็นสิ่งสำคัญให้ชาวประมงได้มาทำกินรวมตัวซื้อขายอาหารทะเลกันที่นี่ ส่วนเรื่องที่เห็นอาคารที่ชำรุดเกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลานานแล้วนั้นตั้งแต่ปี 2556 ก็เป็นเรื่องเป็นราวโดยผู้ที่อยู่อาศัยที่นี่หรือพี่น้องชาวประมงได้เข้าร้องเรียนไม่เห็นด้วยที่จะมาสร้างทิ้งไว้ วันนี้จึงได้เข้ามาฟังปัญหาก็สรุปกันได้โดยขอให้ผู้ที่ทำกินได้มามีส่วนใช้พื้นที่นี่ด้วย และจากที่ชาวบ้านได้แจ้งว่าให้ช่วยอนุรักษ์สะพานปลาเก่าตามมพระราชดำริไว้ให้อยู่คู่กับชาวหัวหินนั้นทาง ครม.ก็จะเข้ามาบูรณะร่วมกับทางเทศบาลจะแก้ปัญหาให้ครบวงจรทำเป็นธุรกิจหารายได้ร่วมกันค้าขายจะเปิดเป็นร้านอาหารเล็กๆ ไปจนถึงร้านใหญ่ส่งเสริมกันทำมาหากินและช่วยให้ชาวประมงในพื้นที่มีรายได้เพิ่มมากขึ้น
จากนั้น นายยุทธพล ได้เดินตรวจดูตาข่ายดักขยะของเทศบาลเมืองหัวหินที่ติดตั้งไว้บริเวณปากประตูระบายน้ำคลองสมอเรียง บริเวณสะพานปลาหัวหิน เพื่อดักขยะพลาสติกไม่ให้ไหลลงทะเล ซึ่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้ให้ข้อมูลแนะนำกับเทศบาลเมืองหัวหินที่ทดลองติดตั้งไว้ซึ่งสามารถดักขยะจากพื้นที่ชั้นในก่อนลงทะเลได้ โดยนายยุทธพลกำชับหน่วยงานในพื้นที่ที่รับผิดชอบให้หมั่นตรวจสอบรักษาสภาพของตาข่ายดักขยะในทุกจุดอย่างเคร่งครัดสม่ำเสมอ สำหรับการพัฒนาพื้นที่ท่าเทียบเรือสะพานหัวหินเป็นแหล่งท่องเที่ยวเป็นการบูรณาการการทำงานระหว่าง 2 กระทรวง โดย ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา มีเป้าหมายสำคัญที่การกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน แก้ปัญหาปากท้อง โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
