"ลดาวัลลิ์" ข้องใจ 5 ปี รัฐบาล คสช.ไม่ออกกฎหมายป้องกันการอุ้มฆ่า ชี้ 7กสม.ชุดใหม่ไม่คลอด กระทบการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ไทยถูกตราหน้าเป็นประเทศบ้านป่าในสายตาชาวโลก
จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงพบชิ้นส่วนกระดูกของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ “บิลลี่” แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่เสียชีวิตหลังหายตัวนานกว่า 5 ปี ถูกเผาอยู่ในถังน้ำมัน งมเจอบริเวณสะพานแขวน หลังที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ผลตรวจดีเอ็นเอตรงกับมารดาของบิลลี่ โดยสรุปว่าถูกฆาตกรรมเสียชีวิต พร้อมเร่งสอบสวนดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 6 ก.ย. นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวว่า กรณีของนายพอละจี ได้รับความสนใจ จากสื่อสารมวลชน มีการนำเสนอข่าวสารมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากภรรยาของนายบิลลี่จะร้องเรียนต่อส่วนราชการ และมีหลายหน่วยงาน เข้ามาเกี่ยวข้อง รวมทั้งกระบวนการยุติธรรมแต่ความเป็นธรรมก็ยังไม่เกิดขึ้น สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เคยทำรายงานเสนอ ครม.ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ให้หาทางป้องกันและแก้ไข ปัญหาการบังคับให้สูญหายหรือการอุ้มฆ่าไปทรมานและสังหารจนเสียชีวิต รวมทั้ง เสนอให้ออกกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับให้บุคคลสูญหาย แต่เป็นที่น่าเสียดาย ช่วงเวลา 5 ปีในรัฐบาลล พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่มีการออกกฎหมายฉบับนี้มาบังคับใช้ ส่งผลให้ประเทศไทยถูกตั้งข้อรังเกียจว่าเป็นประเทศบ้านป่าในสายตา ขององค์การสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
นางลดาวัลลิ์ กล่าวว่า ขณะนี้สังคมกำลังเฝ้ารอคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 7 คน เมื่อไหร่จะผ่านกระบวนการสรรหาเพื่อจะได้เข้ามาปฏิบัติงานส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนได้อย่างจริงจังเสียที ยิ่งปล่อยให้เนิ่นนาช้าออกไปเท่าไรก็จะยิ่งเกิดความหายต่อสังคมมากขึ้นเท่านั้น กสม.ชุดเดิมที่เหลืออยู่แค่3คน ไม่สามารถประชุมเพื่อมีมติในเรื่องสำคัญใดๆได้ จึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการสรรหาและวุฒิสภา เร่งรัดการสรรหาและการให้ความเห็นชอบ กสม.ชุดใหม่ให้จบสิ้นโดยเร็วที่สุด