พายุร้ายโหมกระหน่ำ ! “เจี๊ยบ กาญจนาพร” ฝ่ามรสุมชีวิต หย่า-ติดหนี้-สุขภาพพัง (มีคลิป)

2019-09-03 10:30:14

พายุร้ายโหมกระหน่ำ ! “เจี๊ยบ กาญจนาพร” ฝ่ามรสุมชีวิต หย่า-ติดหนี้-สุขภาพพัง (มีคลิป)

Advertisement

เป็นอีกหนึ่งนักแสดงมากความสามารถที่ผ่านมรสุมชีวิตมาอย่างมากมาย สำหรับ "เจี๊ยบ กาญจนาพร ปลอดภัย" ที่เคยสูญเสียคุณพ่ออย่างกะทันหัน หย่ากับสามี ปัญหาหนี้สิน จนเกิดความเครียดทำให้เป็นก้อนเนื้อตรงช่องท้อง ล่าสุด สาวแกร่งคนนี้เธอได้เปิดใจถึงเรื่องราวในชีวิตว่า

ล่าสุดใส่ส้นสูง 4 นิ้วไปเดินแบบ ?
พี่เจี๊ยบ : มีน้องมาติดต่อว่าไปเดินแบบให้หน่อย แล้วน้องหมูน่ารักกับเรามาตลอด เราก็ได้ แต่ขอเป็นส้นเตี้ย แต่พอไปฟิตติ้งจริงๆ โอ้โห…4 นิ้ว พอเราลองใส่คิดว่าวันนั้นไปไม่รอด แต่ว่าเรารักษาเรื่องกายภาพกระดูกมาเป็นปี ลอง 4 นิ้วมันก็ได้ แต่ละรอบก็มีการปั๊มน่องไม่ให้เป็นตะคริว ตอนเดินเราก็ยิ้มออกมาจากข้างใน ถ้าใจเรายิ้ม เราควรจะเผื่อแผ่ออกไป





พูดถึงพลังบุญพี่เจี๊ยบเป็นคนที่เดินสายบุญ ?
พี่เจี๊ยบ : มันก็ต้องมีทุกข์ก่อนกว่าที่จะเข้าหาบุญ ปัญหาในชีวิตมันเยอะแยะมากมาย เป็นขั้นตอนของแต่ละช่วงวัยอายุ แล้วเราก็สะสมว่าสิ่งไหนที่จะทำให้เราพ้นจากอันนั้นซึ่งหนีไม่พ้นศาสตร์ของพระพุทธเจ้า



เรามาไล่มรสุมทีละลูก เรื่องแรกคือคุณพ่อเสีย ?
พี่เจี๊ยบ : คุณพ่อเสียตอนอายุ 26 ซึ่งพ่อยังหนุ่มอยู่เลย มันช็อกเนื่องจากเป็นอุบัติเหตุที่แรงมาก โทรศัพท์มาเราก็อึ้ง เพิ่งจะมีลูกคนที่ 2 มันเหมือนกับหมดคนที่จะโพรเทคเรา เราเพิ่งแต่งงานแล้วมีลูกเลย พ่อก็จะคอยบอก คอยสอน คอยเลี้ยงลูกให้ในวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ มันก็ช็อกตรงที่ว่ามันกะทันหันเกินไป คุยโทรศัพท์อยู่วันรุ่งขึ้นพ่อเสียชีวิตยังไม่ทันได้ลา



ทำใจนานแค่ไหน ?


พี่เจี๊ยบ : โห…เป็นปี แล้วก็เก็บทุกอย่างของพ่อมา ไดอารี่ที่พ่อเขียน แล้วก็สิ่งที่พ่อดูเอาไว้ก่อนที่พ่อจะจากไป มันคือแม่นมาก กราฟชีวิตที่พ่อดูให้ทุกคน กราฟชีวิตพ่อบอกแล้ว ทำไมไม่ดู ก็คือบอกอายุที่พ่อจะจากไป คือวงไว้เลย ถ้าอยู่ต่อก็จะอยู่ได้นาน แต่ถ้าไปก็คือไป แต่เหมือนไม่เข้าหู แต่พอเรามาดูบุ๊กนั้นคำมันจะมา เออ…พ่อบอกแล้ว แต่เราไม่คิด และพ่อดูให้เราด้วย ดูถึงอายุ 72 ปี พ่อดูไว้ให้เฉยๆ ไม่ได้วงอะไร แต่เรามาดูแล้วมาเปรียบเทียบกับการดูของคุณพ่อ เรารู้เลยว่าอันนี้คือบอกไว้แล้ว แล้วประกอบกับดูผูกดวง 3 หมอเท่ากันหมดเลย คือไม่เกิน 75 ปี ถามว่ากลัวมั้ย ไม่กลัว เรามาดูในวัยที่น้อมธรรมเข้าสู่จิตใจแล้ว มันอยู่ในจุดที่เรารับได้



มรสุมลูกที่ 2 การหย่ากับสามี ตอนนั้นพี่เจี๊ยบอายุเท่าไหร่ ?
พี่เจี๊ยบ : อายุ 30 ลูก 3 คน เรื่องมันผ่านมาแล้ว เป็นความที่ไม่ลงตัวกัน ไม่ใช่ความรัก มันเกิดขึ้นด้วยความเคารพ เพราะฉะนั้นเหมือนเรายังไม่รู้จักความรักเลยมันเป็นรักเคารพ อยู่ได้ด้วยความรักเคารพ แต่พอมาวันนึงเราเกิดเบื่อที่จะแบมือขอสิ่งต่างๆ ด้วยความเคารพ จะทำไงดีแน่นอนว่าคนที่อายุสูงวัยกว่าเขาไม่ยอมให้เราออกไปทำอะไรๆ หรอก ก็จะถูกกำหนดกฎเกณฑ์เยอะไป เราก็มีความรู้สึกว่าชีวิตมนุษย์มันต้องมีสิทธิและเสรีภาพ ในเมื่ออีกฝ่ายมีสิทธิและเสรีภาพแล้วเราล่ะทำไมถึงถูกกฎอยู่อย่างนี้ ได้อย่างนี้ ดูแลอย่างนี้ คือมันไม่ใช่เรา เราก็เลยขอ



เหมือนเราจะตัดสินใจด้วยตัวเอง แต่ทำไมเราเศร้าถึงขึ้นไปบวชชีเลย ?
พี่เจี๊ยบ : เพราะว่าตอนนั้นตกลงไม่ได้ เขาไม่ให้เราก็ไม่รู้จะทำยังไงก็เศร้าหมอง จนพี่สาวบอกว่าไปเติมพลังมาให้อยู่ตรงนี้ได้ เราก็ไป 15 วัน ที่แม่สาย จ.เชียงราย

แล้วพอกลับมาถึงบ้าน ความเปลี่ยนแปลงที่มันเกิดขึ้นคืออะไร ?
พี่เจี๊ยบ : ก็สูดหายใจว่าเราต้องรับกรรมแล้วอยู่อย่างนี้ต่อไป แล้วจะทำยังไงที่จะไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกัน ก็จะต้องพูด แต่แล้วมันก็เป็นไปไม่ได้ เราก็หนีออกจากบ้าน กลับไปราชบุรี มันไม่รู้จะทำยังไงแล้วก็ต้องขอโทษสามีด้วย





หลังจากที่เราแยกแล้วพี่เจี๊ยบต้องทำงานเลี้ยงลูกเองทั้ง 3 คน ?
พี่เจี๊ยบ : ใช่ค่ะ ณ จุดนั้นเริ่มต้นเลย อะไรที่ทำไม่ได้ต้องสู้ และทำให้ได้

เห็นว่ามีไปทำงานโรงแรมด้วย ?
พี่เจี๊ยบ : ทำงานโรงแรม 1 ปี ตอนนั้นงานละครยังไม่มา แต่ก็มีไกด์มาแล้วว่าน่าจะได้ เราก็รับงานโรงแรมเนื่องจากว่าผู้มีพระคุณบอกให้ไปฝึกงานแล้วมีเงินเดือนด้วย ตอนนั้นเป็นตำแหน่งพีอาร์โซเชียล มันไม่ได้เป็นพีอาร์โดยตรงแต่เราต้องรู้ระบบ สามารถคุยกับใครได้ แล้วก็ไม่ต้องอยู่ที่โรงแรมทุกวัน ออกไปเดินแบบก็สามารถขายโรงแรมได้



ทำหลากหลายอย่าง แต่อีกหนึ่งอย่างที่ทำแล้วเจ็บตัว นั่นก็คือการเป็นผู้จัดฯ ?
พี่เจี๊ยบ : เครียดนะ เครียดตั้งแต่เรื่องแรกเลยสารพัดสิ่ง

ทำไมตอนนั้นถึงตัดสินใจเป็นผู้จัดฯ ?
พี่เจี๊ยบ : เรื่องของเรื่องเราทำงานพิธีกรมาสิบปี มันแบบถึงเวลาแล้วที่เราจะทำรายการของเราเอง ก็คุยกับน้องคนนั้น คนนี้ ก็ส่งรายการไปทุกช่อง แต่ไม่ผ่านเลย น้องก็เลยบอกว่าเสนอละครไหม เผื่อจะได้ เราก็ลองดู เป็นเรื่องเกี่ยวกับตลาด ผู้ใหญ่ก็จะบอกว่าไม่ชอบเรื่องเขียนเอง ชอบนวนิยาย เราก็กลับมาไปหานวนิยาย ก็เลยหยิบเรื่อง "รักเกิดในตลาดสด" มาทำ ถามว่าได้กำไรไหม มันได้ แต่ไม่พอปี มันควรจะมีอีกเรื่องนึง พออีกปีก็ทำอีก แต่กำไรก็ไม่พอปีแล้วควักเนื้อ แล้วที่ไปกู้มาล่ะดอกเบี้ยทั้งนั้นเลย ก็ต้องใช้ดอกเบี้ย ต้องใช้ภาษี ไอนู่น ไอนี่ ทำไมมันเยอะจัดขนาดนี้

ตอนนั้นแบกอยู่เท่าไหร่ ?
พี่เจี๊ยบ : ต่อเรื่องต้องมี 4 ล้าน เราได้มาแล้วประมาณ 2-3 ล้าน จะทำยังไงให้มันจบเรื่อง เราต้องมี 4 ล้าน และ 4 ล้านนี้ไม่ใช่แบงก์ให้เรา



ตอนนั้นเห็นว่าเครียดถึงขั้นเข้าโรงพนยาบาล ?
พี่เจี๊ยบ : ใช่ค่ะ มันทุกอย่าง จนสุดท้ายตัวเลขมา ไม่ลงตัวกับเพื่อน หุ้นส่วน คือแยกแน่ๆ ก้อนเนื้อมาเลยที่รังไข่ หมอบอกว่ายูศึกษาธรรมมะมาแล้ว หมอต้องบอกความจริง การที่มีเลือดออกมันหนักขั้นสุดท้าย ซึ่งก้อนเนื้อมันเกิดจากความเครียด หมกหมุ่นด้วยไม่หลับไม่นอน จนมันเจ็บๆ อยู่ทางด้านขวา ต่อมาไปปฏิบัติธรรม แต่อยู่ๆ เหมือนมีประจำเดือน แต่ปรากฏว่าเลือดนองเต็มพื้นห้องน้ำ เราก็ยังคิดว่าเป็นประจำเดือนอยู่ เป็น 14 วัน จนไม่มีแรง ต้องโทร.หาหมอที่ทำคลอด หมอบอกให้มาด่วนเลย พอตรวจมันก็ไม่ใช่เนื้อร้าย เลือดที่ออกมันคือโพรงมดลูกเป็นแผลตั้งแต่ดั้งแต่เดิม พอวัยสูงขึ้นผิวมันแห้ง โพรงมดลูกก็แห้งด้วยมันปริค่ะ ก็เอาออกทั้งรังไข่และมดลูก ตอนนั้นท้องห้อยต้องเดินประคองท้อง โล่งทั้งหมด ธาตุทั้งหมดรวนเรหมดเลย ต้องมาฟื้นฟูธาตุกันใหม่ตั้งแต่ปีนั้นจนมาถึงปีนี้