ครูอ้อมยิ้มได้ในรอบ 10 วัน เดินทางกลับเข้าสอนหนังสือตามเดิม ทันทีที่เด็กนักเรียนรู้ข่าววิ่งโผเข้ากอดด้วยความดีใจ ด้าน สพป.ปัดตอบดอง ผอ.รร.จนเกษียณหรือไม่
จากกรณีที่ครูอ้อม ครูประจำชั้นอนุบาลของโรงเรียนวัดวงเดือนในพื้นที่ ต.สามง่ามท่าโบสถ์ อ.หันคา จ.ชัยนาท ร้องทุกข์ว่า ห้องเรียนที่คุณครูท่านนี้เป็นครูประจำชั้นอยู่ ถูกมือดีปาด้วยก้อนเลือดสดๆใส่ จนเลือดไหลนองพื้น เมื่อช่วงเช้าวันที่ 21ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากที่ตนเองท้วงติงและตรวจสอบเรื่องอาหารกลางวันของนักเรียนที่พบว่าไม่มีคุณภาพ และไม่คุ้มค่ากับงบประมาณที่ใช้ไป โดยมีภาพของนักเรียนกินผัดบะหมี่วิญญาณหมูเป็นหลักฐานสำคัญ ที่ทางโรงเรียนอ้างว่า ภาพดังกล่าวเป็นวันสารทจีนที่หาซื้อของสดไม่ได้ จนผู้ปกครองออกมาร่วมแฉว่าฟังไม่ขึ้น เพราะวันดังกล่าวร้านชำข้างโรงเรียนมีของสดทั้งหมู ไก่ ไส้กรอก และผักพร้อมขายเต็มตู้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวอาจจะสร้างความไม่พอใจให้กับคนที่เสียประโยชน์จากเรื่องนี้ จึงอยากให้หน่วยเหนือเข้ามาตรวจสอบ พร้อมให้ความปลอดภัยกับตน
ต่อมาวันที่ 28ส.ค.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมชัยนาท หรือ สพป.ชัยนาท ได้มีหนังสือคำสั่งด่วนที่สุด ลงวันที่ 27ส.ค.2562 ลงนามโดย น.ส.ลออ วิลัย ผอ.สพป.ชัยนาท มีคำสั่งให้ครูอ้อม ย้ายไปช่วยราชการที่ สพป.ชัยนาท โดยให้เหตุผลว่า “ต้องการผู้มีประสบการณ์และความสามารถ จึงให้ น.ส.อ้อมอารีย์ แข็งฤทธิ์ ตำแหน่ง ครู โรงเรียนวัดวงเดือนไปช่วยปฏิบัติราชการเป็นการชั่วคราว ที่สำนักงานพื้นที่การประถมศึกษาชัยนาท ตั้งแต่วันที่ 27ส.ค.2562 จนกว่าภารกิจจะแล้วเสร็จ” และล่าสุดเมื่อเย็นวันที่ 28ส.ค. มีการออกหนังสือคำสั่งโดย สพป.ชัยนาท กลับลำให้ครูอ้อมกลับเข้าสอนในโรงเรียนตามเดิม และมีหนังสือคำสั่งให้ นายสุเทพ สิงห์สม ผอ.โรงเรียนวงเดือน เข้ามาช่วยราชการที่ สพป.ชัยนาทแทน ทำให้เมื่อครูอ้อมกลับเข้ามาที่โรงเรียนเกิดภาพเด็กๆวิ่งกรูเข้ากอดด้วยความดีใจตามที่เราสเนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดได้มีผู้ปกครองและคนดังอย่าง เต้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลซ์ เดินทางมาให้กำลังใจครูอ้อมถึงโรงเรียน โดยบอกว่าปัญหาเรื่องอาหารกลางวันของไทย ยังต้องมีการปรับปรุงเรื่องระบบและข้อกฎหมายกันอีกมาก โดยชมว่าครูอ้อมถือว่าเป็นครูตัวอย่าง ที่กล้าออกมาสู้เพื่อปกป้องประโยชน์ของลูกศิษย์ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม
ขณะเดียวกันนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ก็เดินทางมีที่โรงเรียนวัดวงเดือนด้วยเช่นกัน เพื่อติดตามข้อมูลในเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งแจ้งว่ามีทั้งหมด3ประเด็นที่ลงมาในวันนี้คือ เรื่องอาหารกลางวันที่ด้อยคุณภาพ เรื่องปาเลือดข่มขู่ครูอ้อม และเรื่องการออกคำสั่งย้ายครูอ้อมโดยมิชอบ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ร่วมประชุมกับคณะของ สพป.และคณะกรรมการโรงเรียนวัดวงเดือนเพื่อสอบถามบุคคลที่เกี่ยวข้อง
ด้าน น.ส.ลออ วิลัย ผอ.สพป.ชัยนาทได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ออกหนังสือสั่งให้ครูอ้อมไปช่วยงานที่ สพป.ในฉบับแรก ก็ปรึกษากับคณะทำงานจึงเห็นควรให้ครูอ้อมปฏิบัติงานอยู่ที่โรงเรียน เพราะมีหน้าที่หลายอย่าง แต่เห็นควรให้ย้าย นายสุเทพ สิงห์สม ผอ.โรงเรียนวัดวงเดือนไปช่วยงานที่ สพป.ชัยนาทแทน เนื่องจากเป็นผู้มีอำนาจในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการอาหารกลางวัน ให้ออกนอกพื้นที่เพื่อความเหมาะสม ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ผอ.สุเทพกำลังจะเกษียณอายุราชการวันที่ 30ก.ย.นี้การไปช่วยราชการมีกรอบเวลาหรือไม่ หรือให้ช่วยราชการจนถึงวันเกษียณอายุ ซึ่ง ผอ.สพป.ชัยนาทปฎิเสธที่จะตอบในประเด็นนี้