“กาชาด”ชวนวิ่งต่อชีวิตช่วยผู้ป่วยปลูกถ่ายสเต็มเซลล์

2019-08-28 19:10:15

“กาชาด”ชวนวิ่งต่อชีวิตช่วยผู้ป่วยปลูกถ่ายสเต็มเซลล์

Advertisement

“กาชาด”ชวนวิ่งต่อชีวิตช่วยผู้ป่วยปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ 2 ล้าน กม.เท่ากับ 2 ล้านบาท เนื่องในวันผู้บริจาคสเต็มเซลล์โลก 2562

เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ร่วมกับ คณะอนุกรรมการพัฒนาศักยภาพสเต็มเซลล์ แถลงข่าวจัดกิจกรรม “Stem Cells Virtual Run - วิ่งต่อชีวิต...ช่วยผู้ป่วยปลูกถ่ายสเต็มเซลล์”เนื่องในวันผู้บริจาคสเต็มเซลล์โลก 2562 ชวนผู้สนใจวิ่งสะสมระยะทางให้ได้ 2 ล้านกิโลเมตร เท่ากับ 2 ล้านบาท แต่วันนี้- 25 ก.ย. 2562 เพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้ป่วยที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้ได้รับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์


นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เปิดเผยว่า จากการที่ประเทศไทย ได้จัดตั้งโครงการ ธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตแห่งชาติ (Thai National Stem Cell Donor Registry) ตั้งแต่ปี 2544 โดยแพทยสภา ได้ประกาศเป็นข้อบังคับว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2545 เกี่ยวกับการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต ในราชกิจจานุเบกษากำหนด เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2545 โดยมอบให้ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ทำหน้าที่จัดหาผู้บริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตที่ไม่ใช่ญาติให้แก่ผู้ป่วย และตรวจ เนื้อเยื่อ HLA ให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตหรือสเต็มเซลล์ให้มากขึ้นในอนาคต ปัจจุบัน มีผู้บริจาคโลหิต ลงทะเบียนเป็นอาสาสมัครบริจาคสเต็มเซลล์ จำนวน 241,238 ราย แต่มีผู้บริจาคสเต็มเซลล์ให้แก่ผู้ป่วยไปแล้ว 321 ราย และมีผู้ป่วยขึ้นทะเบียนรอการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ จำนวน 1,941 ราย ได้แก่ ผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลัน โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรัง โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย โรคไขกระดูกฝ่อ โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เป็นต้น ซึ่งมีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่พบ ผู้บริจาคที่มีเนื้อเยื่อ HLA ตรงกันแล้ว แต่ไม่ได้รับการรักษาด้วยการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ เนื่องจากขาดทุนทรัพย์ในการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 2-3 ล้านบาท ต่อราย ทำให้สูญเสียโอกาสในการรักษา เนื่องในวันผู้บริจาคสเต็มเซลล์โลก ปี 2562 ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จึงได้ร่วมกับ คณะกรรมการพัฒนาศักยภาพงานสเต็มเซลล์ และสถาบันหลัก 5 แห่งของประเทศ ที่ดำเนินการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จากผู้บริจาคที่ไม่ใช่ญาติให้กับผู้ป่วย ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จัดกิจกรรม Stem Cells Virtual Run - วิ่งต่อชีวิต ...ช่วยผู้ป่วยปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ ภายใต้แนวคิด “ทุกการวิ่ง 2 ล้านกิโลเมตร = 2 ล้านบาท” เพื่อจัดหาทุนช่วยเหลือผู้ป่วยที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ให้ได้มีโอกาสปลูกถ่ายสเต็มเซลล์


น.ท.หญิง พญ.อุบลวัณณ์ จรูญเรืองฤทธิ์ ผอ.ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ถึงแม้ว่าศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สามารถจัดหาอาสาสมัครบริจาคสเต็มเซลล์ได้จำนวนเพิ่มมากขึ้น แต่หลังจากเข้าสู่กระบวนการตรวจเนื้อเยื่อ HLA ของผู้ป่วยและผู้บริจาคแล้วพบว่ามีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งไม่ได้รับการรักษา ถึงแม้จะพบผู้บริจาคที่มี HLA ตรงกันแล้วก็ตาม สาเหตุสำคัญ คือ ผู้ป่วยขาดทุนทรัพย์ในการรักษา ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ จึงได้จัดตั้งโครงการ ช่วยเหลือผู้ป่วยที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการปลูกถ่าย เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตจากผู้บริจาคที่ไม่ใช่ญาติ ตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีการจัดโครงการเพื่อจัดหาทุนช่วยเหลือผู้ป่วย โดยผลการดำเนินงานโครงการจนถึงปัจจุบัน มีดังนี้ ผู้ป่วยขอรับทุน จำนวน 20 ราย ผู้ป่วยได้รับทุน จำนวน 19 ราย ผู้ป่วยยกเลิกการรับทุน จำนวน 5 ราย สาเหตุ ผู้บริจาคและผู้ป่วยไม่พร้อมด้านสุขภาพ และผลการตรวจ HLA ของผู้บริจาคไม่ตรงกับผู้ป่วย 100% ผู้ป่วยได้รับการปลูกสเต็มเซลล์ จำนวน 10 ราย รอการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ จำนวน 4 ราย ดังนั้น เพื่อเปิดโอกาสให้กับประชาชนทั่วไปได้ร่วมกันทำบุญช่วยเหลือ จึงขอเชิญชวนนักวิ่งสายบุญ ร่วมวิ่งเพื่อระดมจัดหาทุนช่วยเหลือผู้ป่วยที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้ได้มีโอกาสปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ กิจกรรมวิ่งดังกล่าวมีรายละเอียด ดังนี้ รูปแบบการวิ่ง ประเภท Virtual Run วิ่งที่ไหน วิ่งเมื่อไหร่ก็ได้ ความท้าทายของกิจกรรม คือ การร่วมใจกันวิ่งเพื่อสะสมระยะทาง ให้ได้ 2 ล้านกิโลเมตร เท่ากับ 2 ล้านบาท ระดมทุนช่วยเหลือผู้ป่วย ผู้สนใจร่วมทำบุญ สามารถทำได้ 3 วิธี วิธีที่ 1 ลงทะเบียนวิ่งสะสมระยะทาง ค่าสมัคร 500 บาท จะได้รับเสื้อวิ่ง และเหรียญรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ หลังจากส่งผลวิ่ง และนักวิ่งสายแข็งที่วิ่งครบระยะ 200 กิโลเมตร 100 ท่านแรก จะได้รับ “ผ้าบัฟ” เป็นที่ระลึก สมัครร่วมกิจกรรมวิ่ง ได้ตั้งแต่วันนี้ – 25 ก.ย.2562 และส่งผลการวิ่ง ได้ที่ เว็บไซต์ ThaiRun ฮับความสุขนักวิ่ง https://race.thai.run/ปิดรับผลการวิ่ง วันที่ 25 ก.ย.2562 เวลา 24.00 น. จัดส่งเสื้อและเหรียญ ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.2562 เป็นต้นไป


วิธีที่ 2 สนับสนุนซื้อเสื้อวิ่ง ราคา 300 บาท ที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ถนนอังรีดูนังต์ ศูนย์รับบริจาคโลหิตและพลาสมา สถานีกาชาดที่ 11 (วิเศษนิยม) บางแค และภาคบริการโลหิตแห่งชาติ และงานบริการโลหิต รวม 13 แห่ง ได้แก่ จังหวัดลพบุรี ชลบุรี ราชบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี นครสวรรค์ พิษณุโลก เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช สงขลา ภูเก็ต และงานบริการโลหิต สถานีกาชาดหัวหินเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

วิธีที่ 3 ร่วมบริจาคเงินเพื่อช่วยผู้ป่วยปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ สามารถบริจาคเงินได้ 2 วิธี 1.ชื่อบัญชี “ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ เพื่อผู้ป่วยปลูกถ่ายสเต็มเซลล์” ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย บัญชีกระแสรายวันเลขที่ 045-304694-8 2.ตู้บริจาคเงิน ตั้งอยู่ที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ถนนอังรีดูนังต์ และได้รับความอนุเคราะห์พื้นที่ตั้งตู้บริจาคที่ ศูนย์การค้าในเครือเซ็นทรัลทั่วกรุงเทพฯ มีการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ สปอตโทรทัศน์ “วิ่งต่อชีวิต ช่วยผู้ป่วยปลูกถ่ายสเต็มเซลล์” ได้รับเกียรติจาก คุณทนงศักดิ์ ศุภทรัพย์ ศิลปินนักแสดง และนักวิ่งสร้างแรงบันดาลใจ เป็นพรีเซ็นเตอร์เชิญชวนร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย และศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ กำหนดจัดงาน “วันผู้บริจาคสเต็มเซลล์โลก ประจำปี 2562” ในวันเสาร์ที่ 28 กันยายน 2562 ตั้งแต่เวลา 08.30-15.30 น. ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ซึ่งจะมีพิธีปิดกิจกรรมวิ่ง พร้อมทั้ง มีพิธีมอบโล่และเหรียญรางวัล ให้แก่นักวิ่งสายแข็งที่เก็บระยะได้มากที่สุด 10 อันดับแรกและเชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคโลหิต พร้อมทั้งลงทะเบียนเป็นอาสาสมัครบริจาคสเต็มเซลล์ เป็นต้น


ศ.นพ.ธานินทร์ อินทรกำธรชัย ประธานกรรมการพัฒนาศักยภาพงานสเต็มเซลล์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการพัฒนาศักยภาพสเต็มเซลล์ ประกอบด้วย กรรมการซึ่งเป็นผู้บริหารของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาอายุรศาสตร์โรคเลือด จากสถาบันหลัก 5 แห่งของประเทศ ที่ดำเนินการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ จากผู้บริจาคที่ไม่ใช่ญาติให้แก่ผู้ป่วย และผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้อง มีบทบาทหน้าที่ในการสนับสนุนการดำเนินงานในโครงการ จัดตั้งธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตแห่งชาติ โดยจัดทำแผนการพัฒนาธนาคารเซลล์ต้นกำเนิด เม็ดโลหิตแห่งชาติ พร้อมทั้งให้คำปรึกษา แนะนำในด้านวิชาการ การจัดหา และการจัดเก็บสเต็มเซลล์ให้กับผู้ป่วย ตลอดจนดูแลและติดตามการดำเนินงานธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ป่วยคนไทยได้รับโอกาสเข้าถึงการรักษาด้วยการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จากผู้บริจาคที่ไม่ใช่ญาติ เพิ่มจำนวนมากขึ้น ปัจจุบัน สถานการณ์ความต้องการใช้สเต็มเซลล์เพื่อการรักษาด้วยวิธีการปลูกถ่าย เป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษาผู้ป่วยด้วยโรคทางโลหิตให้หายขาด เป็นการรักษาโดยการนำสเต็มเซลล์ของผู้อื่นมาใช้ในการรักษาโรค ซึ่งแหล่งที่มาของสเต็มเซลล์มาได้จากไขกระดูก โลหิตของผู้บริจาค และโลหิตจากสายสะดือรก แต่ด้วยข้อจำกัดที่ไม่สามารถจัดหาผู้บริจาคสเต็มเซลล์ที่มีเนื้อเยื่อ HLA ตรงกันกับผู้ป่วย ในกรณีที่




ผู้บริจาคเป็นญาติพี่น้องกันมีโอกาสที่เนื้อเยื่อ HLA ตรงกัน 1 ใน 4 แต่ถ้าไม่ใช่ญาติพี่น้องมีโอกาสในการหาผู้บริจาคที่มีเนื้อเยื่อตรงกับผู้ป่วยน้อยมาก พบเพียง 1 ใน 10,000 และถึงแม้ว่าผู้ป่วยจะมีเนื้อเยื่อ HLA ตรงกับผู้บริจาคแล้ว การปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ให้ผู้ป่วยแต่ละครั้ง ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก เนื่องจากเป็นการรักษาที่มีความต่อเนื่อง หลังจากการให้เคมีบำบัด โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้วินิจฉัย ซึ่งการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ จะมีทั้งการปลูกถ่ายที่ใช้เซลล์ของตนเอง และเซลล์ที่ได้รับบริจาคจากผู้บริจาคที่ไม่ใช่ญาติของผู้ป่วย ซึ่งเป็นผู้บริจาคโลหิตที่ลงทะเบียนเป็นอาสาสมัครบริจาคสเต็มเซลล์ กับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ จึงทำให้ผู้ป่วยที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ไม่ได้รับโอกาสในการรักษา การจัดกิจกรรมวิ่งต่อชีวิต...ช่วยผู้ป่วยปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ นอกจากจะช่วยให้ผู้ป่วยที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ได้มีโอกาสรักษาด้วยการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์เพิ่มมากขึ้นแล้ว และยังทำให้ประชาชนได้ทราบถึงความสำคัญของสเต็มเซลล์ และร่วมเป็นอาสาสมัครบริจาคสเต็มเซลล์เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยมากขึ้นเช่นเดียวกัน ผู้สนใจร่วมทำบุญ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และจัดหาผู้บริจาคโลหิต ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ โทร. 0 2256 4300, 0 2263 9600 – 99 ต่อ 1101, 1753, 1761 และ 1771