แจ้ง 3 ข้อหา! พ่อค้าขายลาบ ยิงข่มขู่ร้านไก่ย่าง

2019-08-28 17:50:37

แจ้ง 3 ข้อหา! พ่อค้าขายลาบ  ยิงข่มขู่ร้านไก่ย่าง

Advertisement

ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ แจ้ง 3 ข้อหา พ่อค้าขายลาบเลือดร้อน ชักปืนกราดยิง 4 นัด เหตุแค่รำคาญควันไก่ย่างร้านใกล้กัน พร้อมจัดกำลังตำรวจตรวจตราดูแลความปลอดภัยร้านค้าบริเวณจุดเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุยันแค่ยิงขู่ขึ้นฟ้าไม่ได้เจาะจงยิงใคร ขณะแม่ค้ายังผวากลัวหวนกลับมาก่อเหตุซ้ำ

ความคืบหน้ากรณีนายฤทธิ์ พ่อค้าขายลาบรถเข็น ใช้อาวุธปืนกราดยิงหน้าร้านขายไก่ย่าง และร้านก๋วยเตี๋ยว ที่ขายอยู่บริเวณข้างปั้ม ปตท.บ้านยาง ริมถนนสาย บุรีรัมย์-สตึก ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ทั้งพ่อค้าแม่ค้า และลูกค้าต่างวิ่งหนีตายไปคนละทิศละทาง โดยสาเหตุเกิดจากพ่อค้าร้านลาบรำคาญควันไก่ย่างแม่ค้าที่ขายอยู่ติดกันนั้น 

พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ศรีเสริม ผู้กำกับการ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ระบุว่า ได้แจ้งข้อหาพ่อค้าขายลาบ 3 ข้อหา คือ “มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร , และยิงปืนในที่สาธารณะ” เบื้องต้นได้ปล่อยตัวชั่วคราวเนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาการบาดเจ็บ จากการถูกรุมทำร้ายร่างกายขณะเกิดเหตุชุลมุน ซึ่งญาติได้นำตัวกลับไปรักษาที่ จ.อุบลราชธานี และไม่มีพฤติกรรมที่จะหลบหนี ส่วนจะเข้าข่ายข้อหาอื่นหรือไม่ ก็ต้องสอบสวนผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมต่อไป 




จากการสอบสวนผู้ก่อเหตุ ก็ให้ข้อมูลว่าในวันเกิดเหตุได้นั่งดื่มสุราแล้วเกิดมีปากเสียงกัน ก่อนจะวิ่งไปเอาปืนที่รถออกมายิงขึ้นฟ้าเพื่อขู่คนที่นั่งกินเหล้าแล้วมีปากเสียงกัน ไม่ได้เจาะจงจะยิงใครจากนั้นลูกสาวผู้ก่อเหตุก็มาแย่งปืนจากมือไป แล้วผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จึงวิ่งเข้าไปทำร้ายผู้ก่อเหตุจนได้รับบาดเจ็บศีรษะแตกและมีรอยฟกช้ำตามร่างกาย ส่วนชนวนเหตุจะเกิดจากที่ไม่พอใจเรื่องควันแม่ค้าขายไก่ย่างหรือไม่ ก็ต้องสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมเช่นกัน อย่างไรก็ตาม​ เพื่อความสบายใจของพ่อค้าแม่ค้า ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปคอยตรวจตราดูแลความปลอดภัยในเบื้องต้นแล้ว 

ผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบว่า นางติ๋ว เย็นดีรัมย์ อายุ 52 ปี แม่ค้าขายไก่ย่าง​ ยังคงมาขายตามปกติ แต่ก็ยอมรับว่า​กลัว แต่จำเป็นต้องมาขาย เพราะต้องทำมาหากินหาเลี้ยงครอบครัว แต่ก็ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาช่วยดูตรวจตราดูแลความปลอดภัย​ แต่ก็ยังรู้สึกกังวลเพราะไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุจะหวนกลับมาอีกหรือไม่ ซึ่งตนเองก็ไม่ได้อยากจะมีเรื่องมีราวเพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยได้ไปตอบโต้อะไร และพยายามแก้ไขเรื่องควันโดยการนำพัดลมดูดมาดูควันแล้ว แต่บางช่วงที่มีลมก็อาจจะมีควันบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา ตอนนี้ต้องการแค่ความปลอดภัยในชีวิตเท่านั้น  ส่วนร้านขายลาบที่ก่อเหตุ หลังจากวันที่เกิดเรื่องก็ไม่ได้มาเปิดขายอีก และทราบว่าได้ขนข้าวของกลับภูมิลำเนาที่ จ.อุบลราชธานี ไปแล้ว