ฮือฮา! นักอนุรักษ์กระบี่ พบค้างคาวจิ๋วขนาดเล็กเท่าเหรียญสิบ คาดเป็นค้างคาวคุณกิตติ เบื้องต้นพบเพียง 1 ตัว ขณะเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา พบ 2 ตัว เตรียมประสานผู้เชี่ยวชาญเข้าสำรวจ เพื่อหาทางอนุรักษ์ต่อไป
วันที่ 28 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายนิวัฒน์ วัฒนยมนาพร กรรมการที่ปรึกษาหน่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและศิลปกรรมท้องถิ่นจังหวัดกระบี่ อาสาสมัครท้องถิ่นในการดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรม กรมศิลปากร ว่า ขณะที่ตน และไกด์นำเที่ยวใน อ.อ่าวลึก ได้ไปสำรวจภายในถ้ำคลัง หมู่ที่ 1 บ้านในยวนแขก ต.อ่าวลึกเหนือ อ.อ่าวลึก เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้พบค้างคาวขนาดเล็กมาก หลังเดินเข้าไปประมาณ 400 เมตร โดยค้างคาวจิ๋ว มีขนาดเท่าเหรียญสิบ นอนห้อยอยู่ในรูผนังถ้ำลึกประมาณ1 ฟุตจำนวน 1 ตัว สร้างความตื่นเต้นเป็นอย่างมากจึงได้ บันทึกภาพไว้
นายนิวัฒน์ เปิดเผยอีกว่า จากการสำรวจโดยทั่วไปพบแค่เพียง 1 ตัวเท่านั้น ส่วนค้างคาวอื่นๆ พบจำนวนมากมีขนาดใหญ่ ซึ่งตัวที่พบนั้นมีลักษณะคล้ายกับค้างคาวคุณกิตติ ที่กำลังใกล้จะสูญพันธุ์ จึงได้รีบบันทึกภาพไว้ เพราะเป็นห่วงว่าหากมันย้ายที่อยู่ หรือเสียชีวิต ก็จะได้มีภาพไว้เป็นหลักฐาน แต่หากไม่ใช่ค้างคาวคุณกิตติ ก็ถือว่าเจอค้างคาวจิ๋วในกระบี่ เป็นครั้งแรก ซึ่งก่อนหน้านี้ทราบว่า เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาค้างคาวดังกล่าวมีอยู่ด้วยกัน 2 ตัว แต่จากการสำรวจในครั้งนี้พบเพียงตัวเดียวเท่านั้น ซึ่งหลังจากนี้ จะได้ประสานให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบอีกครั้ง
สำหรับค้างคาวคุณกิตติ เป็นค้างคาวที่จัดอยู่ในสภาวะเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก โดยมีน้ำหนักตัวเฉลี่ย 2 กรัม หน้ามีจุดเด่นที่จมูกมีขนาดใหญ่มองดูคล้ายจมูกหมู มีขนทั้งที่เป็นสีเทาและสีน้ำตาล ออกลูกปีละ 1 ตัว ถูกค้นพบครั้งแรกปี พ.ศ. 2516 โดยกิตติ ทองลงยา นักสัตววิทยาของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย บริเวณถ้ำไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ระหว่างทำการเก็บตัวอย่างค้างคาวในโครงการการสำรวจสัตว์ย้ายแหล่งทางพยาธิวิทยา กิตติพบค้างคาวที่มีขนาดเล็กมากซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อน จึงได้ส่งตัวอย่างค้างคาวให้กับจอห์น เอ็ดวาร์ด ฮิลล์ (John Edward Hill) แห่งพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ ประเทศอังกฤษ เพื่อตรวจพิสูจน์และพบว่า ค้างคาวชนิดนี้มีลักษณะหลายอย่างเป็นแบบฉบับของตนเอง สามารถที่จะตั้งเป็นสกุลและวงศ์ใหม่ได้ หลังจากกิตติเสียชีวิตในเดือน ก.พ.2517 ฮิลล์ได้จำแนกและตีพิมพ์ถึงค้างคาวชนิดนี้ และตั้งชื่อว่า Craseonycteris thonglongyai เพื่อเป็นเกียรติแก่กิตติ ทองลงยา ผู้ค้นพบค้างคาวชนิดนี้เป็นคนแรก