อยากมีลูกแต่ไม่อยากมีผัว "ซานิ" รับเพศสภาพลื่นไหล สรุปทีเดียววันแต่งงาน

2019-08-27 17:30:24

อยากมีลูกแต่ไม่อยากมีผัว "ซานิ" รับเพศสภาพลื่นไหล สรุปทีเดียววันแต่งงาน

Advertisement

ออกมาเผยว่ายังคงสับสนในตัวเองว่าจะเลือกความรักในเพศไหนดีนักร้องสาวเสียงดี "ซานิ-นิภาภรณ์ ฐิติธนการ" ที่ล่าสุดได้เจอเจ้าตัวเลยขออัพเดตเรื่องหัวใจได้ความว่า

สำหรับตัวเราเอง เราอยู่ในทางไหน ?
ก็มีสับสนบ้างในบางครั้ง เพราะเรามีเชื้อไง กินพาราก็ไม่หาย คือเราอยู่โรงเรียนหญิงล้วนมาตั้งแต่เด็กๆ เราจะคุ้นเคยและเคยชินกับเพื่อนหรือรุ่นพี่ที่เป็นทอมดี้ ซึ่งเราไม่ได้จำกัดว่าเราต้องคบทอมอย่างเดียวนะ แต่ก่อนเราก็คบมาหมด ทั้งผู้หญิงหรืออะไรเป็นปกติ ถามว่าชอบไปทางผู้ชายไหม มันก็ต้องมีบ้าง มีแบบโผล่ๆ เข้ามาบ้าง เราก็ดูบ้างว่าเราสนุกไหม ถ้าสนุกก็โอเค





ผู้ชายที่เราคบอยู่ก็ศึกษาดูใจกันมานานแล้ว ?
ถ้าถามว่าแฮปปี้ไหม เราว่าเรื่องความรักเป็นเรื่องแฮปปี้หมด ถ้าไม่แฮปปี้มันก็จะเป็นภาระในชีวิต แต่ในมุมมองเรามองว่าถ้ามันยังไม่ถึงจุดที่ลงเอยจริงๆ เราก็ไม่อยากจะเปิดเผยเท่าไหร่ เพราะเรากลัวว่าวันหนึ่งเราไปเจอลูกค้าของเรา ที่เป็นลูกค้ารายใหม่ เขาจะเข้ามาหาเรา แล้วบอกว่าไม่ใช่แล้ว เธอเปลี่ยนไปแล้ว คือไม่ใช่นะ ข้างขึ้นข้างแรมเราก็ยังอยู่



การที่เรามีแฟนเป็นผู้ชาย ทำให้คนมองเราเปลี่ยนไปไหม ?
ไม่หรอก หนูคบทั้งเพื่อนผู้ชายและเพื่อนผู้หญิงหมดเลย เพราะฉะนั้นไม่ได้ลงประเด็นว่า ณ วันนี้มีแฟนเป็นผู้ชาย หรือ ณ วันนี้เรามีแฟนเป็นผู้หญิงแล้วเราจะต้องเปลี่ยนไม่ชอบใครคนใดคนหนึ่ง ไม่ใช่เลย เพราะตอนเด็กๆ เราก็เป็นแบบนี้มาตลอด เดี๋ยวชายบ้าง เดี๋ยวหญิงบ้าง



คนที่คบปัจจุบันคือผู้ชายใช่ไหม ?


ตอนนี้ไม่ต้องลงเอยว่าเป็นใครทั้งนั้น เราจะไม่ลงเอยกับใครทั้งนั้น จนกว่าจะมีการแต่งงานเกิดขึ้น

กลัวคนที่เราคบกับเราตอนนี้จะสับสนไหม ?
ไม่ต้องกลัวคนที่เราคบจะสับสน เพราะตอนนี้เราก็ยังสับสนค่ะ (หัวเราะ) แต่เราแฮปปี้กับจุดที่เราเป็นอยู่ และแฮปปี้กับคนที่เข้ามาอยู่กับเรา คนที่เข้ามาคบเราก็เข้าใจในจุดที่เราเป็น ซึ่งมันเป็นโชคดีของซานินะ บางคนอาจจะมีคำถามว่าแล้วคนที่มาคบกับเรา เขาจะรับได้เหรอว่าเราจะเป็นเพศไหน อะไรยังไง แต่โชคดีที่คนที่เข้ามาหาเราเขารับได้ทั้งหมด





คนที่เข้ามามีตั้งคำถามก่อนจะตัดสินใจคบกับเราไหม ?
ไม่เคยค่ะ แต่จะเป็นคนรอบข้างเขาที่เป็นคนตั้งคำถาม หมายถึงคนรอบข้างของคนที่เข้ามาคุยกับเรา จะตั้งคำถามว่าตกลงมันเพศไหนกันแน่ แต่คนที่คบกับเราไม่ค่อยมีคำถามหรอก

เรากลัวเขากดดันไหมที่ถูกคนรอบข้างตั้งคำถามบ่อยๆ แบบนี้ ?
ไม่ใช่แค่เขาที่กดดัน เราก็กดดันในการที่จะตอบคำถามเขาว่าเราจะเอายังไงกันแน่ คือหนูก็ยังไม่มั่นใจตัวเอง อันนี้หนูพูดจริงๆ นะ หนูสามารถที่จะกลับไปในทางเดิมได้ตลอดเวลาด้วย หนูถึงบอกว่า ณ ปัจจุบันนี้มันอยู่ที่เรามั่นคงกับสิ่งที่เรามีแค่ไหน มันเรียกว่าความรู้สึกมากกว่า สมมติวันหนึ่งหนูเจอผู้หญิงแล้วรู้สึกดีจังเลย มันก็ไม่แปลกนะถ้าหนูจะกลับไปเดินจูงมือผู้หญิงอีก แต่ถ้า ณ วันนี้หนูยังรู้สึกดีกับใครอยู่ มันก็คือเรื่องของคนนั้น





เราให้ความมั่นใจกับคนที่คบยังไงบ้าง ?
ถ้าตอนมีคนคบใช่ไหม ซานิว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูด เหมือนเราก็อยู่กันอย่างนี้ คุยกันทุกวัน มันก็ชัดเจนพออยู่แล้ว อีกอย่างงานเราก็มีทุกวันอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปคุยกับคนนั้นที คนนี้ทีหรอก เพราะฉะนั้นใครที่เข้ามาคุยกับเรา เราก็จริงใจกับทุกคนนะ ไม่ใช่สลับไปทั่ว เราจะมีอารมณ์เปิดปิดสวิตซ์ตัวเองก็ต่อเมื่อโมโหหรือทะเลาะกันเท่านั้น แต่ ณ วันนี้ถ้าให้มาเลือกเพศเลย เลือกไม่ได้

เคยมีคบเผื่อเลือกบ้างไหม ?
ไม่เคยนะ แต่ตอบไม่ได้ว่าถ้าจบจากคนนี้ หรือจบจากคนไหนๆ ต่อไปจะเป็นใคร

เวลาเราคบใครคือคบเพศละคนไปเลย ?
คนหนึ่งก็เพศหนึ่ง ต้องเลือกไป อย่างถ้าคบผู้ชายอยู่ก็ไม่มีผู้หญิง แต่ถ้าจบจากผู้ชายไปก็ค่อยว่ากัน ต้องเคลียร์ให้จบไปทีละคนมากกว่า เพราะเราเองก็ไม่อยากโดนแบบนั้นเหมือนกัน เมื่อมีคนมาคบซ้อน



เราก็ห่างหายจากการคบเพศเดียวกันมานานแล้ว ?
ไม่นานค่ะ ประมาณปีได้มั้ง

แสดงว่าคนก่อนหน้านี้เป็นผู้หญิง ?
ใช่

คนปัจจุบันเป็นผู้ชายไหม ?
ไม่บอกว่าเป็นอะไร บอกว่าเป็นต่างเพศแล้วกัน

เหมือนเขาจะหล่อด้วยใช่ไหม ?
เขาเป็นต่างเพศแต่เราก็ไม่ได้ห่างหายจากตรงนี้นาน อาจจะเพราะทุกคนเห็นเราอยู่ในกลุ่มเพื่อนแบบนี้ เดี๋ยวก็เดินกับทอมบ้าง



มีคนตั้งข้อสงสัยว่า เพราะเราอกหักจากผู้หญิงเลยหันกลับไปชอบผู้ชาย ?
ไม่เกี่ยวเลย ประเด็นตรงนี้ซานิว่าความรักมันไม่ใช่เรื่องของการเข็ดนะ มันไม่มีความเข็ดนะ ทุกคนมีความรักแบบอกหักปุ๊บ โอ๊ยเข็ดจังเลย ไม่จริง เดี๋ยว 2-3 วันก็มีใหม่แล้ว มันไม่อยู่ที่ความเข็ด มันอยู่ที่ว่าเราผิดหวังมากน้อยแค่ไหน พอเราผิดหวังปุ๊บเราก็คิดว่าเราลองเปลี่ยนทางดูบ้างไหม เผื่อว่าทางนี้จะดี เผื่อว่าทางนี้จะจริงใจ แค่นั้นเอง

ทุกวันนี้ทางที่เราเลือกเป็นยังไงบ้าง ?
ก็โอเค แฮปปี้ แต่ถามว่าจะเป็นทางสุดท้ายไหม บอกไม่ได้

ถ้าเขาดูอยู่ เขาจะไม่เสียใจเหรอ ?
ใครก็แล้วแต่ที่ดูอยู่ ตอนนี้ 3-4 คนอ่ะนะ ไม่ต้องเสียใจนะ รักทุกคน (หัวเราะ)

เราวางแผนเรื่องชีวิตคู่ของตัวเองไว้ยังไงบ้าง ?
กลัวมากเลยนะเรื่องชีวิตคู่ เพราะเราอยู่กับแม่สองคน เราก็คิดไปข้ามขั้นแล้วว่า ถ้าเรามีชีวิตคู่ขึ้นมา เราก็ต้องไปมีทางของเราอ่ะ แต่ ณ วันนี้เรายังแฮปปี้กับทางนี้อยู่ ได้ดื่มกับเพื่อน อยู่กับแม่ด้วย และก็มีคนคบด้วย เราก็เลยเลือกทางนี้ ไม่อยากจะไปถึงขั้นนั้น



เราไม่เคยมองเรื่องอนาคตเลยเหรอ ?
อยากมีลูก ข้ามจุดนี้ไปมีลูกเลยได้ไหม ผัวไม่ต้อง ถ้ามีผัวเป็นผู้หญิงก็มีลูกได้ไงในทุกวันนี้ มันไม่ใช่เรื่องแปลก ความรักมันไม่เกี่ยวกับเพศเลย วันหนึ่งขณะที่คุณชอบผู้ชาย คุณอาจจะคลิกกับผู้หญิงก็ได้ หรือบางคนที่เป็นผู้ชายชอบผู้ชายด้วยกัน วันหนึ่งอาจจะคิดได้ว่าหรือเราชอบผู้หญิง คือมันไม่มีวันรู้ มันมีเรื่องแบบนี้จริงๆ นะคะ เราเลยบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องผิดนะ ไม่ต้องตกใจ

หรือเราฝังใจกับคำทำนายของหมอดูที่เคยบอกไว้ว่า จะตายตอนอายุ 55-56 เลยไม่ค่อยมองเรื่องอนาคต ?
ไม่ แต่ว่าเราก็หาสมบัติไว้นะ เพราะเรากลัวว่าก่อนจะตายเราจะต้องบาดเจ็บอะไรมากมาย ก็หาสมบัติไว้เผื่อคนมาดูแลเรา ณ ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตแบบไม่ประมาท ก็เลยโอเค หมอดูจะทักยังไง ซานิว่าใช้ชีวิตแบบไม่ประมาทดีสุด ทุกวันนี้เรามองอนาคตเป็นแต่ละวันไปเลย สมมติเดือนหน้าหรือปีหน้าหนูอยากจะแต่งงานขึ้นมา หนูก็ไม่ได้วางแผนอะไรไว้ ทั้งๆ ที่เพื่อนรุ่นเดียวกันก็แต่งไปหมดแล้ว เราก็เฉยๆ แฮปปี้กับการทำงานอยู่