ประชาชนหลายพันคนในรัฐฉาน ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมียนมา ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน กลายเป็นผู้พลัดถิ่น หลังเกิดการสู้รบดุเดือดต่อเนื่องระลอกใหม่ ตั้งแต่กลางเดือน ส.ค. ระหว่างทหารกองทัพรัฐบาล กับนักรบกลุ่มกบฏท้องถิ่น
เจ้าหน้าที่ทางการเมียนมา และองค์กรบรรเทาทุกข์นานาชาติ พยายามนำสิ่งของเข้าไปช่วยเหลือผู้พลัดถิ่น ในเมืองคัตไก จังหวัดหมู่แจ้ง ทางตอนบนสุดของรัฐฉาน ซึ่งล้อมรอบด้วยเทือกเขาและไร่ฝิ่น หลังเกิดการสู้รบยืดเยื้อ ระหว่างทหารกองทัพเมียนมา กับนักรบกบฏชนกลุ่มน้อยท้องถิ่น
การสู้รบครั้งใหม่เริ่มจากกลุ่มกบฏ บุกโจมตีวิทยาลัยเทคโนโลยีกลาโหม และสถานีตำรวจ ในเมืองปยิน อู ลวิน ทางตะวันตกของรัฐฉาน เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ทำให้ทหารและตำรวจเสียชีวิต 15 ศพ และหลังเกิดเหตุกลุ่มกบฏชนกลุ่มน้อย ในนาม กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอ้าง หรือ ทีเอ็นแอลเอ ออกประกาศแสดงความรับผิดชอบ ขณะที่ นายพลจัตวา ซอ มิน ตุน โฆษกกองทัพเมียนมา กล่าวว่า การโจมตีของกบฏ เป็นการแก้แค้นปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่ของหน่วยความมั่นคง
สถานทูตสหรัฐประจำเมียนมา ประกาศเตือนภัยการเดินทางไปเยือนเมืองต่าง ๆ ในรัฐฉาน กว่า 10 เมือง เนื่องจากมีความเสี่ยงจาก "เหตุการณ์ความไม่สงบ และการสู้รบ" ในพื้นที่