“จุรินทร์” ลั่นจัดการเด็ดขาดลอบนำเข้าน้ำมันปาล์ม

2019-08-23 18:20:56

“จุรินทร์” ลั่นจัดการเด็ดขาดลอบนำเข้าน้ำมันปาล์ม

Advertisement

“จุรินทร์” ลั่นจัดการเด็ดขาดลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มผิดกฎหมาย พร้อมนำเสนอนโยบายประกันรายได้ชาวสวนปาล์ม เข้าสู่ที่ประชุม ครม.


เมื่อวันที่ 23 ส.ค. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ นำคณะ พบปะพี่น้องเกษตรกร ที่บ้านพักของนายสุชาติ ประดิษฐพร ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ โดยมีเกษตรกร ประชาชนมารอต้อนรับกว่า 2,000 คน ทั้งนี้นายจุรินทร์ ได้กล่าวปราศรัยต่อพี่น้องประชาชนที่มารอพบด้วยภาษาใต้ โดยรายงานการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ ว่า ทันทีที่พรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล บุคคลากรของพรรคมีความมุ่งมั่นตั้งใจผลักดันนโยบาย ทุกนโยบายที่ได้ประกาศไว้กับประชาชนเมื่อครั้งหาเสียง ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ได้ผลักดันนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ทั้งยางพารา ปาล์มน้ำ ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ในส่วนของข้าวนั้น นายกฯได้อนุมติแล้ว ขั้นตอนต่อจากนี้คือจะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. เพื่อขอมติ และดำเนินการการช่วยเหลือชาวนาโดยเร่งด่วน พร้อมกันนี้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ รมว.พาณิชย์ ได้รับหนังสือร้องเรียนเรื่องราคายางตกต่ำจากเกษตรกรในพื้นที่ด้วย


นอกจากนี้นายจุรินทร์ พร้อมคณะได้พบปะเกษตรกรชาวสวนปาล์ม และ ผู้ประกอบการโรงงานสกัดปาล์มน้ำมัน ที่โรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม บริษัท นิวไบโอดีเซล จำกัด ต.เสวียง อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี โดยได้หารือแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้ประกอบการปาล์มน้ำมันในเรื่องของปริมาณปาล์มที่ผลิตได้ในประเทศ ปริมาณการใช้ปาล์มในประเทศ การนำปาล์มไปผลิตพลังงานไฟฟ้า การนำปาล์มไปผลิตเป็นพลังทดแทน และการส่งออก โดยนายจุรินทร์ กล่าวย้ำว่า ต้องมีมาตรการจัดการขั้นเด็ดขาดกับผู้ลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มผิดกฎหมายอย่างจริงจังและเด็ดขาดเพราะถือว่าเป็นการทำลายเกษตรกรไทย ทำลายงบประมาณแผ่นดิน


นายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากได้พบกับเกษตรกรและผู้ประกอบการโรงสกัดน้ำมัน อ.พุนพิน ก็จะได้นำข้อมูลทั้งหมดเข้าสู่การประชุม ครม.วันอังคารนี้ พร้อมกับเสนอนโยบายประกันรายได้ชาวสวนปาล์ม เข้าสู่ที่ประชุมด้วย และเสนอมาตรการควบคู่เพื่อทำให้ราคาปาล์มในประเทศมีราคาสูงขึ้น ได้แก่ 1. เสนอให้มีการใช้น้ำมัน B10 แบบบังคับ ภายในก่อนสิ้นปี 2562 2. จะดำเนินการในเรื่องการนำน้ำมันปาล์มไปผลิตกระแสไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 1.3 แสนตัน และจำนวนสำรองอีก 1 แสนตัน รวมเป็น 2.3 แสนตัน 3. ดำเนินการให้มีการติดตั้งมิเตอร์เพื่อที่จะตรวจวัดจำนวนสต็อกปาล์มน้ำมันดิบในประเทศแบบเรียลไทม์นาทีต่อนาที เพื่อทราบชัดเจนว่าปริมาณปาล์มในประเทศมีจำนวนเท่าไหร่ จะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดการได้อย่างแม่นยำต่อไป 4. เร่งรัดให้มีการส่งออกน้ำมันปาล์มไปยังประเทศอินเดีย จีน โดยภาครัฐจะสนับสนุนให้มีการส่งออกมากที่สุดเท่าที่จะทำได้และเรื่องสำคัญที่สุดอีกเรื่องหนึ่งคือการจัดการการลักลอบนำเข้าปาล์มน้ำมันผิดกฎหมาย ต้องมีมาตรการเด็ดขาด เพราะถือเป็นมะเร็งร้ายทำลายชาวสวนปาล์มมานานหลายปี และจะมีการรายงานการจับกุมให้สาธารณะรับทราบเป็นระยะในภายหลัง