สบส.เผยตรวจ "ฟิลอก้าคลินิก"พบยาไม่ขึ้นทะเบียน

2019-08-23 00:15:52

สบส.เผยตรวจ "ฟิลอก้าคลินิก"พบยาไม่ขึ้นทะเบียน

Advertisement

อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขเผยสนธิกำลัง บก.ปคบ. และ อย.บุกตรวจฟิลอก้า คลินิก พบยาและเครื่องสำอางไม่ขึ้นทะเบียนหลายรายการ 

เมื่อวันที่ 22 ส.ค. นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า จากกรณีที่ สบส.ได้รับเบาะแสว่ามีผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดสารเสริมความงาม จนทำให้เกิดอาการอักเสบ รูปหน้าเสียทรง จากคลินิกแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในย่านบางกะปินั้น ตนจึงได้สั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของกองกฎหมาย สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา พนักงานเจ้าหน้าที่ของ สบส.ได้ร่วมสนธิกำลังกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกดังกล่าว คือ “ฟิลอก้า คลินิก ไทยแลนด์” ตั้งอยู่ ณ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. โดยการตรวจสอบพบว่าสถานพยาบาลดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งแพทย์ผู้ให้บริการก็มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมถูกต้อง แต่กลับพบยาและเครื่องสำอางหลายรายการที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับ อย.อยู่ภายในคลินิก

นพ.ณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า พนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 แก่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องฐานจำหน่ายยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา มีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งของกลางประเภทยาเวชภัณฑ์และเครื่องสำอาง อย. จะนำไปตรวจวิเคราะห์ส่วนประกอบเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค ตนขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบกิจการ และผู้ดำเนินการสถานพยาบาลทุกคน ดูแลกำกับ ให้ปฏิบัติตามกฎหมายสถานพยาบาล และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด หากพบว่าสถานพยาบาลแห่งใดมีการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน กรม สบส.จะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายโดยไม่มีการละเว้นแต่อย่างใด

นพ.ณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า สำหรับการเสริมความงามด้วยวิธีการฉีดสารเสริมความงาม อาทิ โบท็อกซ์ (Botox) ฟิลเลอร์ (Filler) นั้น ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน อาจจะด้วยการที่ผู้รับบริการเห็นว่าเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องอาศัยการผ่าตัด และใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน แต่ไม่ว่าจะเป็นการเสริมความงามด้วยวิธีใดก็ตามย่อมมีความเสี่ยงเฉพาะตัว อย่างกรณีข้างต้นหากฉีดสารเสริมความงามที่มิได้ผ่านการอนุมัติและขึ้นทะเบียนจาก อย. ก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ การแพ้ และเกิดพิษต่อร่างกายได้ ดังนั้น ก่อนรับบริการทางแพทย์ทุกครั้งจะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนไม่อาศัยเพียงคำโฆษณา คำวิจารณ์ หรือราคาที่ถูกมาเป็นหลักในการตัดสินใจรับบริการ ต้องตรวจสอบหลักฐานทั้งสถานพยาบาลและแพทย์ว่ามีการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และหากเป็นการฉีดสารเสริมความงามประชาชนก็ควรขอดูกล่องและฉลากของสารเสริมความงามจากแพทย์ว่าผ่านการขึ้นทะเบียนกับ อย.หรือไม่ 

ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการรับบริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลเอกชนคลินิก ในเขต กทม.สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน สบส. ทางหมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7057 หรือเฟซบุ๊กศูนย์รับเรื่องร้องเรียน สบส. กระทรวงสาธารณสุข หรือ E-mail : crmhss.moph@gmail.com แต่หากอยู่ในส่วนภูมิภาคสามารถแจ้งได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ ตามวันและเวลาราชการ