5 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ อียู ตกลงที่จะรับผู้อพยพนับร้อยคน ที่ติดค้างอยู่บนเรือกู้ภัยทางทะเล ในสภาพแออัดนานหลายสัปดาห์ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อียูเมื่อวันพุธ เป็นอันยุติความขัดแย้งยืดเยื้อกับอิตาลี ที่ไม่ยอมให้กลุ่มผู้อพยพเหล่านี้ขึ้นฝั่ง
ผู้อพยพประมาณ 100 คน เกือบทั้งหมดมาจากหลายประเทศในแอฟริกา ถูกขนถ่ายจากเรือเล็ก ที่ใช้เดินทางมุ่งหน้าสู่ยุโรป ขึ้นเรือใหญ่กู้ภัย “โอเพ่น อาร์ม” ของสเปน กลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน หลายครั้งจนถึงช่วงต้นเดือน ส.ค. แต่เรือโอเพ่น อาร์ม ต้องแล่นวนเวียนอยู่ในทะเล เนื่องจากรัฐบาลอิตาลี ไม่ยอมให้ผู้อพยพบนเรือขึ้นฝั่ง ตามนโยบายท่าเรือใกล้จุดกู้ภัยมากที่สุด ที่บรรลุเป็นข้อตกลงเมื่อปีที่แล้ว
สุดท้ายเรือโอเพ่น อาร์ม เข้าจอดเทียบท่าเกาะลัมเปดูซา ในแคว้นซิซิลี เมื่อคืนวันอังคาร (20 ส.ค.) หลังจากอัยการอิตาลีสั่งยึดเรือ และนำผู้อพยพบนเรือขึ้นฝั่ง ที่มีผู้อพยพอื่น ๆ อีกหลายสิบคน กำลังรอการย้ายถิ่นฐาน
โฆษกหญิงของคณะกรรมาธิการยุโรป หรือ อีซี เผยที่สำนักงานใหญ่ในกรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม ว่า 5 ประเทศสมาชิกอียู ประกอบด้วย สเปน ฝรั่งเศส เยอรมนี ลักเซมเบิร์ก และโปรตุเกส ตกลงรับผู้อพยพเหล่านี้ทั้งหมดเข้าประเทศ
ทั้งนี้ เกิดความขัดแย้งภายในรัฐสมาชิกของกลุ่มอียู เกี่ยวกับวิธีจัดการรับมือกับผู้อพยพและผู้ลี้ภัย นับตั้งแต่เกิดการไหลบ่าของผู้อพยพทางเรือน ผ่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเข้าสู่ยุโรป ซึ่งถึงจุดสูงสุดในปี 2558 ความขัดแย้งส่งผลกระทบต่อความเป็นเอกภาพของกลุ่ม และบรรดาผู้นำชาติสมาชิกอียู กำหนดจะหารือในเรื่องนี้อีกครั้ง ในระหว่างการประชุม ที่กรุงบรัสเซลส์ ช่วงกลางเดือน ต.ค. ที่จะถึง.