มาตรการปรับ-ขับรถบนทางเท้ายังคงเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ หลังก่อนหน้านี้ กทม. ได้กำหนดเพดานเงินค่าปรับเพิ่มขึ้นจาก 1,000 บาท เป็น 2,000 บาท แต่ปรากฎว่า ยังพบการกระทำผิดซ้ำอีก กทม.จึงสั่งปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 3,000 บาท
นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม. ประชุมผู้บริหารสำนักเทศกิจและหัวหน้าฝ่ายเทศกิจสำนักงานเขต 50 เขต โดยนายจิรวัฒน์ แพงมา ผอ.สำนักเทศกิจ ได้รายงานผลการดำเนินการตามโครงการกวดขันรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จอดหรือขับขี่บนทางเท้า ระหว่างวันที่ 9 ก.ค.61-19 ส.ค.62 พบว่า 50 สำนักงานเขตสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้จำนวน 21,755 ราย ปรับเป็นเงินจำนวน 12,591,700 บ.
นายสกลธีได้กำชับขอให้ทุกเขตเร่งลงพื้นที่เพื่อกวดขันไม่ให้มีผู้ฝ่าฝืนกระทำผิด ส่วนผู้ที่กระทำผิดซ้ำซาก ให้เพิ่มค่าปรับขึ้นต่ำจาก 2,000 บาท เป็น 3,000 บาท เพื่อให้ผู้ฝ่าฝืนนั้นหลาบจำ ไม่กล้าทำผิดอีก ทั้งนี้ พื้นที่ที่ตนได้ออกตรวจการปฏิบัติงานไปแล้ว ได้แก่ เขตวังทองหลาง วัฒนา จตุจักร ห้วยขวาง ป้อมปราบศัตรูพ่าย บางเขน บางกะปิ บึงกุ่ม และลาดพร้าว หลังจากนี้จะกำหนดแผนลงพื้นที่ตรวจซ้ำอีก โดยเฉพาะในจุดที่มีประชาชนร้องเรียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก อาทิ ย่านอุดมสุข และรามคำแหง นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดทำแอปพลิเคชันเพื่อบันทึกข้อมูลผู้กระทำผิดจอดหรือขับขี่รถบนทางเท้าสาธารณะ เป็นฐานข้อมูลให้ทุกสำนักงานเขตใช้ในการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดซ้ำซากด้วย
สำหรับประเด็น คลิปนักศึกษายืนขวางไม่ให้รถจักรยานยนต์วิ่งบนทางเท้า จนผู้ที่ขับขี่รถมา ซึ่งมีทั้งวินจักรยานยนต์รับจ้างและรถจักรยานยนต์ส่วนตัว ต้องกลับลงไปวิ่งตามท้องถนน โดยผู้โพสต์คลิปนี้ คือ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก อุดมศักดิ์ นาคแจ้งอิน ระบุว่า จุดเกิดเหตุคือ แยกลำสาลี บางกะปิ นั้น นักศึกษาคนดังกล่าวชื่อ เมกุมิ โมริโมโตะ เป็นชาวญี่ปุ่น เป็นนักศึกษาชั้นปี 1 สาขาอาหารปลอดภัยและโภชนาการ คณะทรัพยากรธรรมชาติและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จ.สกลนคร หลายๆ คนเรียกเธอว่า “มะลิ”
ด้าน นายศุภกฤต บุญขันธ์ รอง ผอ.สำนักเทศกิจ กทม. กล่าวว่า เปิดเผยกับทีมข่าว นิว 18 ว่า เรื่องนี้ ได้ส่งให้หัวหน้าฝ่ายเทศกิจในพื้นที่ ไปตรวจสอบเลขทะเบียนรถจักรยานยนต์ทั้งหมดแล้ว จากนั้นจะเชิญเจ้าของรถมาเสียค่าปรับ หากไม่ยอมรับสารภาพจะส่งให้ตำรวจในพื้นที่ดำเนินคดีต่อไป
