อธิบดีกรมศิลปากรแจงกรณีวางระบบไฟส่องสว่างวัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยากระตุ้นการท่องเที่ยว ระบุเป็นไปตามหลักการบูรณะกระทบโบราณสถานน้อยที่สุด ยันกำแพงที่เห็นผ่านการบูรณะมาแล้วในช่วงปี 2530 ไม่ใช่ซากเดิมแต่โบราณ
เมื่อวันที่ 21 ส.ค. นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ชี้แจงกรณีการรื้อถอนอิฐ ขุดเจาะตามแนวกำแพงวัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อวางระบบไฟฟ้าส่องสว่าง ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อยู่ในขณะนี้ ว่า โครงการประดับไฟโบราณสถานเป็นหนึ่งในแผนงาน เพื่อที่จะเพิ่มศักยภาพกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจให้กับ จ.พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมากถึง 3 ล้านคน แต่การมาเที่ยวใน จ.พระนครศรีอยุธยาส่วนใหญ่จะเป็นการเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ กรมศิลปากรจึงเห็นว่าการประดับโบราณสถานในเวลากลางคืนจะช่วยนักท่องเที่ยวได้พักค้างแรมอยู่ใน จ.พระนครศรีอยุธยามากยิ่งขึ้น ซึ่งวัดไชยวัฒนารามเป็น 1 ในโบราณสถานที่จะต้องประดับไฟ จึงได้ตัดสินใจที่ทำการวางระบบไฟฟ้าส่องสว่าง โดยจุดที่กรมศิลปากรและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้ใช้ช่องที่มีอยู่แต่เดิมแล้วซึ่งกระทบต่อโบราณสถานน้อยที่สุด อีกทั้งกำแพงนี้เป็นกำแพงที่ผ่านการบูรณะมาแล้วในช่วงปี 2530 ไม่ใช่ซากเดิมตั้งแต่โบราณ
นายอนันต์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ได้กำชับไปยังผู้รับเหมาขอให้มีการเก็บศษดิน เศษอิฐให้เรียบร้อยและให้ทำงานให้รอบคอบ โดยจะปิดประกาศให้ประชาชนทราบว่าด้านในมีการวางระบบไฟฟ้าแสงสว่าง อย่างไรก็ตามขอให้มั่นใจว่าเมื่อติดตั้งระบบไฟส่องสว่างเสร็จสิ้นกรมศิลปากรจะบูรณากลับสู่สภาพเดิม 100 เปอร์เซ็นต์ โดยจะทำกำแพงโดยรอบวัดยาวปิดไปตลอดทาง ซึ่งคาดว่าจะติดตั้งเสร็จในเดือน พ.ย.
“ก่อนการดำเนินงาน มีการประชุมประเมิน และเลือกจุดในการขุดสายเคเบิล ซึ่งเป็นจุดที่อยู่บริเวณกำแพงด้านมุมตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นจุดที่กระทบกับโบราณสถานน้อยที่สุด ทุกขั้นตอนการดำเนินงานอยู่บนพื้นฐานการทำงานที่เป็นไปตามหลักการบูรณะโบราณสถานที่กรมศิลปากรได้ดำเนินมา แต่เมื่อมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ก็พร้อมน้อมรับ เชื่อว่าเป็นการติด้วยความห่วงใยและรักในโบราณสถาน”นายอนันต์ กล่าว
สำหรับโครงการประดับไฟโบราณสถานใน จ.พระนครศรีอยุธยาจะดำเนินการทั้งหมด 9 แห่ง ประกอบด้วยโบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม โบราณสถานวัดพระศรีสรรเพชญ์ โบราณสถานวัดพระราม โบราณสถานวัดมหาธาตุ โบราณสถานวัดราชบูรณะ โบราณสถานวัดภูเขาทอง โบราณสถานวัดเกษ คุ้มขุนแผน ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา(หลังเก่า) โดยทั้งหมดมีระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือนก.ค. 2561 – พ.ย. 2562