จบดีเหมือนไม่มีอะไร "นิรา" ให้ข้อคิดมากมาย "ใบไม้ที่ปลิดปลิว" ตอนอวสานกวาดเรตติ้งเรียบ !

2019-08-21 14:55:37

จบดีเหมือนไม่มีอะไร "นิรา" ให้ข้อคิดมากมาย "ใบไม้ที่ปลิดปลิว" ตอนอวสานกวาดเรตติ้งเรียบ !

Advertisement

"เงียบไปไหมวะ โลกนี้มันเงียบไปไหมวะ มึงเหยียบกูจนยับ แล้วมึงก็เงียบใส่กูแบบนี้น่ะเหรอ นิสัย ..."  "ใบเฟิร์น" ในร่าง "นิรา" ใส่สุดพลังเจ็บปวดยิ่งกว่าการบาดแผลผ่าตัดเปลี่ยนเพศคือสังคมไม่มีพื้นที่ให้ยืน ถูกเหยียดหยัน ถูกกล่าวหาเป็นคนวิปริตผิดเพศ หรือแม้กระทั่งการไม่ยอมรับในเพศสภาพของตัวเอง ...



ทุกวิญญาณแทบปลิดปลิวเมื่อเห็นตัวละครทุกตัวรับส่งอารมณ์แบบขั้นสุด เรียกได้ว่าเป็นงานระดับมาสเตอร์พีชอีกเรื่องเลยก็ว่าได้ คล้ายกับว่ารางวัลสาขานักแสดงนำหญิงดีเด่นได้ถูก "นิรา" คว้ามาใส่มือนางเรียบร้อยแล้ว ...





ปมทุกอย่างจะถูกสะสางเมื่อทุกคนให้ความสำคัญและยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างจริงใจ ... ตอนจบแฮปปี้ดีเหมือนไม่มีอะไร แต่สามารถขมวดปมใหญ่ๆ ของทุกๆ ตอนมารวมกันได้เป็นอย่างดี เพื่อสรุปปัญหาที่ซ่อนไว้ภายในจิตใจของนิรา ทว่า ใบไม้ที่ปลิดปลิว 2562 ยังปรานีคนดูด้วยการบิดตอนจบเล็กน้อยให้ชีวิตของนิรามีโอกาสที่ 2 แม้ละครจะจบลงด้วยความไม่สมหวัง แต่อย่างน้อยก็ได้ให้แง่คิดกับคนดูถึงเรื่องของความรัก การยอมรับในตัวตนของคนที่รัก และการเห็นคุณค่าของชีวิตได้เป็นอย่างดี  ปัญหาการฆ่าตัวตาย แต่กลับไม่ตาย เสมือนได้มาเกิดใหม่ เริ่มต้นค้นหาความสุขที่แท้จริงของชีวิต จบเหมือนจะไม่มีอะไรแต่จริงๆ มันซ่อนอยู่ในทุกๆ ตอน คือทุกคนควรเริ่มจากรักตัวเอง มีความสุขกับตัวเอง และเป็นตัวของตัวเอง และมันคือ "รากฐานของความรักที่สมบูรณ์” จากนั้นเราถึงจะมีแรงที่จะไปมอบความรักให้คนอื่น





และที่ลืมไม่ได้เลยเรื่องการแสดงต้องปรบมือและชื่นชมสาว “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก” นักแสดงตัวเล็กๆ แต่พลังการเล่นยิ่งใหญ่อลังการงานสร้าง เธอถ่ายทอดชีวิตความเป็นสาวข้ามเพศของนิราได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะฉากระเบิดอารมณ์ตอนท้ายก่อนจะตัดสินใจกระทำอัตวินิบาตกรรม ทำเอาคนดูร้องไห้ตาม



ฝีไม้ลายมือที่ใบเฟิร์นฝากไว้ตั้งแต่ละครเรื่องหลงไฟ จนกระทั่ง “ใบไม้ที่ปลิดปลิว” กล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า ตอนนี้ใบเฟิร์นคือ “นักแสดงตัวแม่” อีกคนของวงการอย่างแท้จริง และด้วยความเข้มข้นของบท และฝีมืออันจัดจ้านของทีมนักแสดงทำให้ละครจากปลายปากกาของนักเขียนนามอุโฆษทมยันตี ดังเป็นพลุแตกในยุค 2562 ถึงแม้ว่าบทประพันธ์เรื่องนี้จะแต่งมานานแล้ว แต่เนื้อหาและตัวละครยังคงมีความทันยุคทันสมัย ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนไปบ้างตามบริบทของคนชมละครยุคนี้ ซึ่งก็ทำให้ทุกอย่างดูครบรสเหมาะสมเข้าถึงผู้ชมได้เป็นอย่างดี ดังไม่ดังยืนยันด้วยเรตติ้งตอนจบ 5.0 ซึ่งถือว่าเยอะมากในละครยุคทีวีดิจิทัล





"เราอดทนได้มากกว่าที่เราคิด

มีคุณค่าได้มากกว่าที่เรารู้สึก"

"นิรา คงสวัสดิ์"







ยอมใจลุงแซมที่เล่นบท "ชมธวัช" ได้น่าหมั่นไส้ พร้อมกับซีนน่าเห็นใจก็เข้าถึงอย่างไม่น่าเชื่อ