พท.เรียกร้องวางแผนใช้ท่าเรือคลองวาฬให้คุ้มค่า

2019-08-18 17:55:01

พท.เรียกร้องวางแผนใช้ท่าเรือคลองวาฬให้คุ้มค่า

Advertisement

พรรคเพื่อไทยเรียกร้องหน่วยงานรัฐวางแผนใช้ท่าเรือคลองวาฬให้คุ้มค่า 

เมื่อวันที่ 18 ส.ค. นายพรเทพ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคเพื่อไทย เขต 2 พร้อมด้วยนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ที่ปรึกษากฎหมายพรรคเพื่อไทย เดินทางไปตรวจสอบท่าเทียบเรือร่องน้ำคลองวาฬ เขตเทศบาลตำบลคลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 430 ล้านบาท ก่อสร้างเสร็จสิ้นตั้งแต่ปี 2551 


นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ที่ปรึกษากฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการตรวจสอบท่าเรือดังกล่าว สร้างเพื่อส่งเสริมกิจการท่าเรือ สนับสนุนส่งเสริมการขนส่งทางน้ำและลดต้นทุนโลจิสติกส์ มีการก่อสร้างอาคารที่ทำการศุลกากร แต่ไม่พบว่ามีการใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ จึงเป็นเรื่องน่าเสียดาย คณะทำงานจึงสำรวจ เพื่อขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนงานพัฒนาให้ชัดเจน โดยศึกษาข้อกฎหมายผลักดันให้ท่าเรือคลองวาฬเป็นจุดเชื่อมโยงการเดินเรือของนักท่องเที่ยวด้านทะเลอ่าวไทย ตั้งแต่หัวหิน พัทยา ระยอง และอีกหลายจังหวัดทางภาคใต้ของไทย นอกจากการใช้เพื่อขนถ่ายสัตว์น้ำในธุรกิจประมง 


“ในอนาคตจะต้องผลักดันให้มีโครงการแลนด์บริดท์หรือสะพานเชื่อมเศรษฐกิจประจวบคีรีขันธ์-มะริด หรือโครงการเชื่อมโยงการขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์บรรจุสินค้า เรือเดินทะเลขนาดใหญ่จากแหลมฉบังหรือจากประเทศซีกตะวันออก มาขึ้นที่ท่าเรือประจวบคีรีขันธ์เชื่อมต่อด้วยระบบรางไปด่านสิงขร ระยะทาง 15 กิโลเมตร และต่อไปท่าเรือ จ.มะริด ประเทศเมียนมา ผ่านทะเลอันดามันเดินทางสู่หลายประเทศซีกตะวันตก โดยไม่จำเป็นต้องขุดคลองคอดกระ โครงการเหล่านี้คณะทำงานจะสร้างจากการมีส่วนร่วมของชุมชนในการบริหารท่าเรือ และร่วมกันวางหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและการจัดการผลประโยชน์ให้กับภาครัฐและท้องถิ่น สำหรับท่าเรือดังกล่าวหากจะใช้ประโยชน์เต็มศักยภาพต้องใช้งบปรับปรุงอีกหลายร้อยล้านบาท” นายวิชิต กล่าว



ด้านนายประยุทธ์ เจียมเจิม ประธานสหกรณ์ชาวประมงบ้านคลองวาฬ กล่าวว่า ท่าเทียบเรือแห่งนี้ปกติควรยื่นออกไปในทะเลอีกราว 100 เมตร แต่ขณะมีการก่อสร้างโครงการนานกว่า 3 ปี ประชาชนในพื้นที่ไม่มีส่วนในการแสดงความคิดเห็น ต่อมามีการปรับแบบการก่อสร้าง โดยหน่วยงานของรัฐเท่านั้นที่ดำเนินการ หลังสร้างเสร็จเมื่อปี 2551 กลุ่มชาวประมงคลองวาฬเห็นว่าท่าเรือถูกทิ้งร้างประกอบกับชาวประมงเดือดร้อน จึงรวมตัวกันจัดตั้งเป็นกลุ่มสหกรณ์ เพื่อยื่นขอจดทะเบียนบริหารจัดการดูแลท่าเรือ พร้อมขอให้กรมเจ้าท่าจัดสรรงบประมาณเร่งดำเนินการขุดร่องน้ำให้ลึก เพื่อให้เรือประมงสามารถเข้าจอดเทียบท่าได้ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถใช้หลบลมมรสุมได้ แต่ยังมีปัญหาเนื่องจากยังไม่สามารถหาผู้บริหารจัดการท่าเรือได้ ทำให้ไม่สามารถพัฒนาและใช้ประโยชน์ได้เต็มที่




ขณะที่นายอภิสิทธิ์ คำภิโร ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การใช้ประโยชน์จากท่าเทียบเรือ ถือเป็นทรัพย์สินของทางราชการ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเปิดให้ผู้สนใจยื่นข้อเสนอเป็นผู้บริหารและประกอบการท่าเทียบเรืออเนกประสงค์คลองวาฬ ตามขอบข่ายงานและหน้าที่ เมื่อคัดเลือกผู้บริหารแล้วจึงสามารถดำเนินการและพัฒนาต่อไป