เอ็นจีโอโวยหั่นงบกองทุนเฉพาะโรค 650 ล้าน

2019-08-16 11:45:32

เอ็นจีโอโวยหั่นงบกองทุนเฉพาะโรค 650 ล้าน

Advertisement

กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ และเครือข่ายผู้ป่วยโรคเรื้อรัง โวยรัฐบาลรีดเงินประชาชนไปแจกให้คนเที่ยวกว่า 15,000 ล้านบาท แต่กลับมาตัดงบกองทุนเฉพาะโรค 650 ล้านบาท

เมื่อวันนี้ 16 ส.ค. ที่โรงแรมเซนทรา แจ้งวัฒนะ ตัวแทนเครือข่ายผู้ป่วยเรื้อรัง ประกอบด้วยเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย เครือข่ายผู้ป่วยโรคไต และกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ ได้แถลงกรณีมีข่าวว่า งบประมาณที่ผ่าน ครม. ชุดที่แล้วถูกตัดงบประมาณเหมาจ่ายรายหัว หรืองบกองทุนเฉพาะโรค เช่น ค่าบริการผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงโดยเฉพาะผู้สูงอายุ โรคไต และเอดส์ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการเข้าถึงยาและการรักษาของกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง


นายนิมิตร์ เทียนอุดม กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ กล่าวว่า ยังไม่ทันจะข้ามวันหลังจากที่ รมว.สาธารณสุขประกาศไม่ร่วมจ่าย ไม่ล้มระบบ ก็ได้รู้มาว่ากำลังมีปัญหาเรื่องงบประมาณที่ผ่าน ครม.ชุดที่แล้วที่อนุมัติตามที่สำนักงบประมาณเสนอ โดยมีการตัดงบที่เป็นกองทุนเฉพาะ เช่น ค่าบริการผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงโดยเฉพาะผู้สูงอายุ กองทุนเอดส์ กองทุนโรคไต ซึ่งจะทำให้งบประมาณหายไปเกือบ 650 ล้านบาท ในขณะที่รัฐบาลชุดนี้ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการแจกเงินให้คนไปเที่ยวคนละ 1,500 บาทกว่า 15,000 ล้านบาท และใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจไปกว่า 200,000 ล้านบาท แม้ว่าจะเป็นมติ ครม.ชุดที่แล้ว แต่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ไม่รู้ว่ารู้เรื่องนี้หรือไม่ ซึ่งการตัดงบประมาณในกองทุนเฉพาะโรคแบบนี้ จะส่งผลอย่างมากต่อการเข้าถึงการรักษา และยาจำเป็นของผู้ป่วยโรคเรื้อรัง แต่ประเทศนี้กำลังรีดเอาเงินที่จำเป็นไปใช้จ่ายในส่วนอื่นที่ไม่จำเป็น เช่น แจกเงินให้เที่ยว

นายนิมิตร์ กล่าวว่า งบประมาณที่ถูกตัดลดลง ส่งผลไปถึงค่าบริการผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงโดยเฉพาะผู้สูงอายุ ที่ สปสช.ต้องรับผิดชอบคนไทยทุกคนทุกสิทธิ กลับถูกตัดลดลงกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดูแลผู้ป่วย โดยเฉพาะในสังคมที่มีผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นและจำเป็นต้องได้รับการดูแลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่รัฐบาลนี้กำลังจะทิ้งคนแก่เหล่านี้ไว้ข้างหลัง เรานัดนายอนุทินได้วันที่ 5 ก.ย. แต่เราคิดว่าช้าไป ดังนั้น วันนี้ต้องขอส่งเสียงผ่านสื่อมวลชนไปยังรัฐมนตรีให้ดำเนินการเรื่องนี้ด้วย เราก็หวังว่าจะได้รับข่าวดีก่อนจะถึงวันที่ 5 ก.ย. 

ด้านนางยุพดี ศิริสินสุข กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช. กล่าวว่า งบกองทุนเฉพาะเป็นงบประมาณสำคัญเพราะเป็นงบที่ดูแลกลุ่มประชาชนที่เปราะบางที่สุด ซึ่งรัฐบาลที่แล้วมีการเจรจาร่วมกันระหว่าง นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร อดีต รมว.สาธารณสุข สำนักงบประมาณ และสปสช. เดิมมีการตกลงต่อรองงบก้อนนี้รวมทั้งหมด 16,800 กว่าล้านบาท แต่กลับถูกตัดงบไปกว่า 680 ล้านบาท ซึ่งกรรมก็มาตกกับผู้ป่วย

นายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย กล่าวว่า รัฐบาลชุดที่แล้วก็ไม่ต่างจากรัฐบาลชุดนี้ เพราะผู้นำก็คนเดียวกัน ยิ่งเห็นตัวเลขงบประมาณที่รัฐบาลชุดนี้ใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ยิ่งสะท้อนสะท้านใจ เพราะงบที่รัฐเอาไปแจก เอาไปกระตุ้น ล้วนเป็นไปตามที่นโยบายพรรคการเมืองหาเสียงไว้ แต่กลับมารีดเงินเอากับผู้ป่วย อย่างกรณีผู้ติดเชื้อเอชไอวี มีคนต้องรับยากว่า 300,000 คนและเริ่มมารักษาใหม่ปีละกว่า 30,000 คน หากงบลดลง คนเหล่านี้จะถูกตัดโอกาสในการมีชีวิตต่อ


นายธนพลธ์ ดอกแก้ว ตัวแทนเครือข่ายผู้ป่วยโรคไต กล่าวว่า เพิ่งเห็นว่างบกองทุนไตถูกตัดไปกว่า 300 ล้านบาท ในขณะที่ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังมีความจำเป็นที่ต้องฟอกไตต่อเนื่อง และขณะนี้พบว่าจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น แต่ขณะที่สิทธิประโยชน์ที่จะทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น เช่น เครื่องฟอกไตที่บ้าน หรือยากดภูมิสำหรับผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะ รวมไปถึงค่าบริการการทำเส้นเลือดเพื่อเตรียมล้างไต หรือผู้ป่วยไตที่มีโรคร่วม ซึ่ง สปสช.อยู่ระหว่างพิจารณา แต่ถ้าถูกตัดงบประมาณ โอกาสที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ที่ว่าอาจจะหายไป