กองทุนเด็กของสหประชาชาติ หรือยูนิเซฟ แถลงว่า มีเด็กเกือบ 4,000 คน ในดีอาร์คองโก ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าหรือถูกทอดทิ้งไว้โดดเดี่ยวตามลำพัง เพราะผลจากการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา โดยมีเด็กมากกว่า 1,300 คน สูญเสียพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่ง หรือสูญเสียทั้งพ่อและแม่ ตั้งแต่อีโบลาเริ่มต้นการระบาดมาเมื่อกว่า 1 ปีก่อน
ยูนิเซฟ แถลงเพิ่มเติมว่า เด็กกว่า 2,400 คน ถูกแยกตัวออกจากพ่อแม่ หรือผู้ให้การดูแล เด็กต้องอยู่ตามลำพัง ขณะที่ผู้ใหญ่ต้องเข้าตรวจและรักษาโรค นอกจากนี้ เด็กบางคนยังถูกกักตัว เพราะไปสัมผัสใกล้ชิดกับคนที่ติดเชื้ออีโบลา เด็กหลายคนยังต้องการความช่วยเหลือด้านอาหาร และเผชิญหน้ากับการเลือกปฏิบัติ เพราะต้องสงสัยว่า พวกเขาอาจติดเชื้อไวรัสร้าย
ยูนิเซฟ ดูแลศูนย์เลี้ยงเด็กเล็ก 3 แห่งใกล้กับศูนย์รักษาโรคอีโบลาในดีอาร์ คองโก เด็ก ๆ ได้รับการดูแลที่ศูนย์แห่งนี้ จนกว่าพ่อแม่หรือผู้ดูแลจะผ่านการรักษาให้หายขาดขาดอีโบลา ยูนิเซฟเตือนด้วยว่า จำนวนเด็กกำพร้า หรือเด็กที่ถูกทอดทิ้งให้อยู่คนเดียว กำลังเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศช่วยกันสนับสนุนรัฐบาลดีอาร์ คองโก
ทั้งนี้ การระบาดของอีโบลา กำลังลุกลามในจังหวัดคีวูเหนือและอิตูรี ภาคตะวันออกของประเทศ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว ซึ่งมีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 1,800 คน และเมื่อเดือนที่แล้ว องค์การอนามัยโลก หรือฮู ประกาศให้การระบาดของไวรัสอีโบลา เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสุขภาพ