ทำเนียบเครมลินในกรุงมอสโก ประกาศเมื่อวันอังคารว่า รัสเซียชนะสหรัฐ ในการแข่งขันพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์รุ่นใหม่ล้ำยุค แม้จะเกิดเหตุการณ์ระเบิดอย่างลึกลับ ในฐานเก็บจรวดทางภาคเหนือของรัสเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ถึงขั้นระดับกัมมันตรังสีในพื้นที่สูงขึ้น
รอสอะตอม (Rosatom) สำนักงานนิวเคลียร์ของรัฐบาลรัสเซีย เผยว่า เหตุการณ์ระเบิดเมื่อวันที่ 8 ส.ค. เกิดขึ้นในระหว่างการทดสอบจรวด บนแท่นกลางทะเลขาว (White Sea) นอกชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 3 คน
แม้จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แต่รอสอะตอมประกาศจะเดินหน้าพัฒนาอาวุธใหม่ ๆ ต่อไป พร้อมกับยกย่องสดุดีผู้เสียชีวิต จากการทดสอบจรวดทั้ง 5 คน เป็นวีรบุรุษของประเทศ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ทวีตข้อความเมื่อวันจันทร์ (12 ส.ค.) ว่า สหรัฐได้ “เรียนรู้จำนวนมาก” จากเหตุการณ์ระเบิดของรัสเซียครั้งนี้ ซึ่งเขาระบุว่า เกิดขึ้นในระหว่างการทดสอบขีปนาวุธนำวิถีพลังงานนิวเคลียร์ ในโครงการตามแนวนโยบายของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เมื่อปีที่แล้ว
แต่ทางการรัสเซียกล่าวว่า ขีปนาวุธรุ่นนี้มี “พิสัยไม่จำกัด” และสามารถเอาชนะได้ทุกระบบป้องกัน ที่มีอยู่ในโลกในปัจจุบัน ชื่อ 9เอ็ม 730 บูเรเวสต์นิค หรือ นกพายุ ส่วนองค์การนาโตเรียกขีปนาวุธรุ่นนี้ว่า เอสเอสซี-เอ็กซ์-9 สกายฟอล (SSC-X-9 Skyfall)
สื่อทางการรัสเซียรายงานว่า หลังเกิดการระเบิดระหว่างการทดสอบ เจ้าหน้าที่ได้ประกาศให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง อพยพออกจากบ้านเรือนเป็นการชั่วคราว ขณะที่ทีมผู้เชี่ยวชาญทำการเคลียร์พื้นที่ และประกาศถูกยกเลิกในเวลาต่อมา ส่วนสำนักงานพยากรณ์อากาศท้องถิ่นของทางการรัสเซีย รายงานเมื่อวันอังคาร (13 ส.ค.) ว่า ระดับกัมมันตรังสีในเมืองเซเวรอดวินสก์ ที่อยู่ใกล้เคียง พุ่งสูงขึ้น 16 เท่า เมื่อวันพฤหัสบดี ขณะที่ทีมแพทย์ที่เข้าทำการช่วยเหลือผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ถูกส่งตัวไปรับการตรวจทางการแพทย์ ที่กรุงมอสโก.