"มงคลกิตติ์" แถลงย้ำเป็นฝ่ายค้านอิสระ ซัด พปชร.ไม่ให้เกียรติ ชี้ “บิ๊กตู่”นำประเทศต่อได้ แต่ต้องแก้ไขสิ่งผิด
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 ส.ค. ที่โรงแรมเซ็นทารา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้แถลงประกาศถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ขอเป็นฝ่ายค้านอิสระ พร้อมกับออกแถลงการณ์ย้ำจุดยืนทางการเมืองของพรรคไทยศรีวิไลย์ ตั้งแต่การตัดสินเข้าร่วมรัฐบาล ของพรรคไทยศรีวิไลย์ และเหตุผลในการออกจากสถานะฝ่ายรัฐบาลโดยให้เหตุผลการที่ตัดสินเข้าร่วมรัฐบาล ของพรรคไทยศรีวิไลย์ ว่า 1.ต้องการเปิดสวิตช์ประเทศไทย ให้ประเทศก้าวสู่ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขอย่างสมบูรณ์และประเทศชาติเดินหน้าได้ 2.เพื่อเอานโยบายพรรคไทยศรีวิไลย์ไปขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชน 3.เพื่อให้อำนาจ ม. 44 หายไปและสร้างความมั่นใจกับนักลงทุนต่างชาติ
นายมงคลกิตติ์ กล่าวถึงเหตุผลในการออกจากสถานะ"ฝ่ายรัฐบาล" มาอยู่ในสถานะ "ฝ่ายค้านอิสระ ยืนข้างประชาชน" ของพรรคไทยศรีวิไลย์ว่า 1.การทำงานในสภาในฐานะฝ่ายรัฐบาลที่ไม่มีความเป็นอิสระในการตรวจสอบรัฐบาลเพราะต้องเกรงใจกันหลายขั้นตอน อีกทั้งมีการบล็อกกันไม่ให้ได้พูด ให้เวลาในฐานะหัวหน้าพรรคการเมืองน้อยมาก 2.พปชร.ไม่ให้เกียรติกัน ไม่นำนโยบายพรรคไทยศรีวิไลย์ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลไปดำเนินการ กลับสวนทางกันทางนโยบายกันอย่างชัดเจน อาทิ เร่งจัดซื้อเครื่องบิน 38 ลำ 1.56 แสนล้านบาท ไม่รัดเข็มขัด ทั้งๆที่หนี้สินการบินไทย ปาไป 2.48 แสนล้านบาท ปี 2561 ขาดทุน 12,000 ล้านบาท ไม่มีใครรับประกันได้ว่าจะไม่ขาดทุนถ้าซื้อเครื่องบินเพิ่ม แนวคิดหารายได้เพิ่มของ นายอุตมะ สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะ รมว.คลัง โดยการเพิ่มภาษีน้ำมันผลักภาระให้ประชาชน 67 ล้านคน ทำให้ซ้ำเติมความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนที่แย่อยู่แล้ว จะทำให้ค่าครองชีพทุกด้านสูงขึ้น นอกจากนี้การออกนโยบายประชานิยมแบบหายนะ คือ การแจกเงินประชาชน โดยการขาดวินัยทางการเงินการคลัง ซ้ำเติมปัญหาหนี้สาธารณะ จะแจกได้ก็ต่อเมื่อจัดงบประมาณเกินดุล, รัฐบาล มีแนวโน้มจะกู้เงินไอเอ็มเอฟมาใช้หนี้เงินต้นเดิมจากธนาคารญี่ปุ่น อีกทั้งกู้มาเพื่อชดเชยขาดดุลงบประมาณ ซึ่งจะให้ประเทศไทยต้องขายรัฐวิสาหกิจที่มีกำไรออกไป
นายมงคลกิตติ์ กล่าวด้วยว่า 3.ผู้ใหญ่ใน พปชร.ไม่รักษาสัจจะในข้อตกลงในการร่วมรัฐบาล ไม่ใส่ใจแก้ปัญหาแบบให้เกียรติกัน ไม่ให้ความสำคัญตั้งแต่ต้น ต้องให้เรามาเรียกร้องถึงจะมาใส่ใจ ซึ่งมันสายไปแล้ว 4.การถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบตามรัฐธรรมนูญ 2560 ยังไม่มีการแสดงสปิริตความรับผิดชอบทางการเมือง หรือ แก้ไขให้ถูกต้อง
“สำหรับจุดยืนทางการเมือง พรรคไทยศรีวิไลย์ ผมและผู้บริหารพรรคไทยศรีวิไลย์ ไม่ขอรับตำแหน่งทางการเมืองฝ่ายบริหารใดๆ นอกจาก ตำแหน่งผู้แทนราษฏร ที่ประชาชนมอบคะแนนให้ รวมทั้งจะใช้สถานะ ผู้แทนราษฏร รับทราบปัญหาของพี่น้องประชาชน ทั่วประเทศ 77 จังหวัด นำเข้าสู้สภาฯ เพื่อไขปัญหาต่อไป”นายมงคลกิตติ์ กล่าว
นายมงคลกิตติ์ กล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังสามารถบริหารประเทศต่อไปได้ แต่ต้องแก้ไขสิ่งที่ผิดให้ถูกต้อง ถึงจะบริหารประเทศต่อไปได้ ตนยืนยัน จะทำหน้าที่เป็น ส.ส.ฝ่ายค้านอิสระ ยืนข้างประชาชน อย่างเต็มความสามารถและสร้างสรรค์ เรื่องที่ถูกต้องสนับสนุน เรื่องที่ไม่ถูกต้องทักท้วง เสนอแนะแนวทางแก้ไข