"พระจูเลียน"สึกแล้ว ขอโทษประชาชนพันครั้ง ปัดมีเพศสัมพันธ์เพิ่มพลังในลิทธิตามข่าวลือไม่เป็นเรื่องจริง
เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่วัดบ้านแปะ ต.บ้านแปะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ พระสงฆ์สามเณร ได้เตรียมศาลาวัดภายในวัดเพื่อประกอบพิธีลาสิขาบท พระจูเลียน ดีซิเลต จากกรณีหมอสมชาย ได้ออกมาแฉพฤติกรรมของพระจูเลียน ที่เสพเมถุนสีกาและร่วมทรีปฮันนีมูนกับสาวชาวต่างประเทศ ต่อมาพระสุมณฑ์ศาสนกิตติ์ เจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ เปิดเผยว่าได้รับการประสานจากพระครูสุจิตปัญญารัตน์ เจ้าคณะตำบลบ้านแปะ เขต 1 ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ ของพระจูเลียน ว่าจะเดินทางมาวัดบ้านแปะ เพื่อการลาสิขา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรดาพระสงฆ์ ภายในวัดบ้านแปะ ได้กล่าวว่าในอดีตพระจูเลียน มาจำพรรษาที่วัดเป็นประจำประมาณเดือนละ 1 – 2 ครั้ง ครั้งละ 1-2 วัน โดยจะเดินทางมาด้วยรถโดยสารจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน และเดินเท้าเข้ามาในวัด ซึ่งนิสัยของพระจูเลี่ยน เป็นคนดีมาก ทำตนอยู่ในระเบียบวินัยเป็นอย่างดี ทุกครั้งที่มาที่วัด มาเพียงรูปเดี่ยวไม่เคยมีผู้อื่นหรือหญิงสาวติดตามมาด้วย
ต่อมาเมื่อเวลา 09.40 น. พระจูเลียน ได้เดินทางด้วยเรือมาถึงท่าเรือแม่สามแลบ โดยทางศรัทธาประชาชนในพื้นที่ ได้อำนวยความสะดวกและจัดรถยนต์เพื่อส่งพระจูเลียน ออกจากท่าเรือแล้วนำมาส่งไว้ที่ริมถนนเพื่อขึ้นรถตู้โดยสารประจำทาง เผื่อจะเดินทางต่อไปหาพระอุปัฌชา ที่วัดบ้านแม่แปะ ต.แม่แปะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
เวลา 10.30 น.พระจูเลียน ได้โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัวว่า"วันนี้อาตมาจะไปพบพระอุปัชฌาย์เพื่อลาสิขา ในช่วง2-3วันที่ผ่านมา อาตมาต้องไปบริจากสิ่งของให้ชาวบ้านที่ได้มีการนัดหมายไว้ก่อนแล้ว อาตมาจึงไม่สามารถไปพบพระอุปัชฌาย์ได้ และในวันนี้อาตมาจะไปพบพระอุปัชฌาย์เพื่อลาสิกขา ถ้าผู้สื่อข่าวต้องการมาสอบถามถึงข้อกังขาต่างๆ อาตมายินดีตอบคำถามตามความเป็นจริงทุกประการ เพราะบางข่าวที่ออกไปนั้นบางข่าวไม่เป็นความจริง สามารถติดต่ออาตมาได้ที่ 0919418289 วัดที่อาตมาสังกัดอยู่ที่เชียงใหม่ อ.จอมทอง หัวหน้าหมู่บ้านและคนในหมู่บ้านจะมาพร้อมอาตมา ชาวบ้านล้วนสนับสนุนอาตมา ถึงแม้ว่าอาจมาจะไม่ได้เป็นพระแล้วก็ตาม ชาวกระเหรี่ยงยากไร้ยังคงรักและศรัทธาต่ออาตมาเพราะสิ่งที่อาตมาได้ช่วยเหลือเขาเหล่านั้น ให้ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อาตมารู้สึกซาบซึ้งและขอขอบคุณทุกคนที่ยังมีศรัทธาและสนับสนุนอาตมามาณที่นี้"
ต่อมาเวลา 15.40 น.ที่วัดบ้านแปะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ พระจูเลียน ได้เดินทางมาขอพบกับพระครูสุจิตปัญญารัตน์ เจ้าคณะตำบลบ้านแปะ เขต 1 พร้อมด้วยตัวแทนสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อมาขอสึก โดยก่อนพิธีการสึกก็ได้มีการสอบวินัย และในพิธีลากล่าวสิกขา ก็ได้กล่าวขอขมา และถวายพานดอกไม้ กล่าวถวายคำลาสิกขา และพระได้ให้พรศิล 5 เพื่อถวายตัวเป็นพุทธมามะกะ แล้วก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนุ่งขาว ห่มขาว
โดยพระครูสุจิตปัญญารัตน์ เปิดเผยว่า พระจูเลียนเป็นคนดี เป็นพระอ่อนโยน ชอบช่วยเหลือชาวบ้านมาโดยตลอด จนมีข่าวออกมาจึงตกใจเป็นอย่างมาก กระทั่งพระจูเลียนได้โทรศัพท์มาแจ้งว่าจะขอสึก อดีตพระจูเลียน ได้บวชที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ปี 2543 ปฏิบัติธรรมวินัยเคร่งครัดมาโดยตลอด กระทั่งปี 2545 ได้ขอย้ายมาจำพรรษาที่วัดบ้านแปะ อ.จอมทอง และต้นปี 2561 ก็ขอลาบวชจากการเป็นพระสงฆ์ ไปเป็นสามเณร กระทั่งปี 61 ได้ขอกลับมาบวชเป็นพระสงฆ์อีกรอบหนึ่ง เรื่องราวของการปฏิบัติธรรมก็รู้ว่าพระรูปนี้เคร่งครัดในวินัยมาก แต่เรื่องราวส่วนตัวไม่รู้อะไรเลย
ด้านพระจูเลียน เปิดเผยว่า ตอนนี้ตนรู้ว่าคนไทยโมโหตนมาก ตนไม่ใช่คนไม่ดี ทุกคนในพื้นที่รักตนมาก ตนทำผิดจริงตนขอยอมรับ เรื่องราวเกิดขึ้นมานานแล้ว ตนทำผิดสองครั้ง ตนยอมรับ ครั้งแรกเป็นหญิงชาวต่างประเทศ เกิดขึ้นที่ จ.จันทบุรี และครั้งที่สอง เป็นหญิงชาวไทย แต่เกิดขึ้นที่ประเทศสวีเดน ตนขอโทษพันครั้ง ส่วนที่มีกระแสข่าวมาว่า ตนถูกแฉว่าจะไปทิ้งผู้หญิงคนไทยที่เป็นคนที่สอง และบล็อคการติดต่อ เพราะตนต้องการกลับมาศึกษาพระธรรมวินัยจริงๆ พระมีใจ พระมีฮอร์โมน มีจิตใจ เลยทำผิดไป ตนรู้เป็นบาปมาก ตนผิดไปแล้ว ส่วนเรื่องการมีเพศสัมพันธ์เพื่อเพิ่มพลังในลัทธิของตนนั้น ไม่เป็นเรื่องจริง
ต่อมานายจูเลียน หลังจากสึกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เปิดเผยว่า ตนก็จะไปขอปฏิบัติธรรมในจ.ร้อยเอ็ด นุ่งขาวห่มขาว จากนั้นก็จะกลับมาช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ต่อไป โดยหลักนี้ก็จะยึดถือตามหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา ดำเนินชีวิตต่อไป
พร้อมกันนี้ก็ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว มีข้อความว่า ข้าพเจ้า จูเลียน ขออธิบายข้อเท็จจริงให้ทุกท่านได้ฟัง เพื่อขจัดความเคลือบแคลง ลังเลสงสัยในตัวข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอยอมรับโดยศิโรราบว่า ข้าพเจ้าทำความผิดจริง ที่มีการเสพเมถุนกับหญิง แต่ข้าพเจ้ายืนยันว่าข้าพเจ้าไม่ได้บังคับ ข่มขู่ ขื่นใจหญิงใด และไม่ได้จงใจหลอกลวงใคร ข้าพเจ้าไม่ได้มีเจตนาจงใจทำร้ายใคร
สาเหตุที่ข้าพเจ้ากระทำผิดเนื่องจาก ข้าพเจ้าอาจมีความเห็นผิดเกี่ยวกับพระธรรมวินัย ข้าพเจ้าขาดครูบาอาจย์ ที่จะคอยอบรมสั่งสอนในสิ่งที่ถูกที่ควรมาโดยตลอด ข้าพเจ้าศึกษามาโดยลำพัง ข้าพเจ้าศึกษาแต่สิ่งที่เป็นภาษาอังกฤษที่ข้าพเจ้าสามารถหาอ่านได้ เท่านั้น ซึ่งข้าพเจ้าอาจตีความเองไปโดยขาดความเห็นที่ถูกต้อง และครูบาอาจารย์ผู้ชี้แนะที่ถูกต้อง ข้าพเจ้าเห็นเพียงว่า ถ้าเราไม่ได้มีเจตนาไปทำร้ายใคร ไม่เบียดเบียนใคร รู้เพียงข้อเดียว ก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่ข้าพเจ้าลืมตระหนักว่า สังคมก็มีกฏของสังคมนั้นๆ สงฆ์ก็มีกฏของสังคมสังฆ์เช่นกัน และเมื่อเราอยู่ในสังคมไหน เราควรปฏิบัติตามกฏและกติกา เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย แต่ข้าพเจ้ายังมีศรัทธาต่อพระพุทธศาสนามิเสรื่อมคลาย หากมีครูบาอาจารย์ท่านใด เห็นว่า ข้าพเจ้ายังมีศรัทธาเหล่านี้อยู่จริง ได้โปรดแนะนำสั่งสอน ชีแนะ ให้ข้าพเจ้าได้เห็นได้รู้หนทางที่ถูกที่ตรงด้วยเถิด ข้าพเจ้าจะไม่ร้องขอความเมตตาใดๆ จากผู้ใด นอกจากยอมรับและสัมนึกผิดอย่างที่สุด ที่ทำให้ผู้มีศรัทธาแก่ข้าพเจ้าต้องเกิดความอับอาย และเสรื่อมเสีย ข้าพเจ้ากราบขอโทษอย่างสุดหัวใจ และไม่ว่าโลกจะตัดสินในความเห็นผิดนี้ของข้าพเจ้าอย่างไร ข้าพเจ้าขอน้อมรับด้วยความกล้าหาญ ที่จะรับผลของกรรมนี้ไว้แต่เพียงผู้เดียว
และไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการทำบุญกับผู้ยากไร้ในถิ่นทุรกันดาร ข้าพเจ้าไม่เคยกระทำผิดในเรื่องของเงินทอง ข้าพเจ้าไม่สนใจเรื่องเงินทอง ข้าพเจ้าสนใจที่จะช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากเพียงเท่านั้น ข้าพเจ้าไม่ได้อยากครอบครองสิ่งใดมากมายไปกว่า การได้อุทิศตนช่วยเหลือคนเหล่านี้
และไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ข้าพเจ้าจะขอทำสิ่งดีงามนี้ต่อไป เพื่อช่วยเหลือคนยากไร้เหล่านี้ เพื่อเป็นการไถ่โทษให้กับความผิดที่ข้าพเจ้าได้กระทำให้ผู้ที่มีศรัทธาแก่ข้าพเจ้าเสียใจ ทุกข์ใจ ร้อนใจ ข้าพเจ้ายินดีชดใช้ด้วยการทำสิ่งนี้ และจะอวยพรให้พวกเค้าได้โปรดอภัยให้ข้าพเจ้าในสักวันหนึ่ง
สุดท้าย ข้าพเจ้าไม่เคยโกรธผู้ที่ต่อว่าหรือให้ข่าวบางอย่างที่นอกเหนือจากนี้ ถือว่าเลิกแล้วต่อกัน จบเพียงเท่านี้ ข้าพเจ้ายินดีชดใช้ให้แล้ว และอโหสิกรรมแก่ทุกคน ข้าพเจ้าขอโทษที่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ และขอภัยในความไม่รู้นี้แก่ข้าพเจ้าด้วย และข้าพเจ้ายังคงมีศรัทธาในพระพุทธองค์อย่างแท้จริง
สำหรับพระจูเลียน ดีซิเลต ชาวแคนนาดา ในอดีตเคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนวิชาเกษตรกรรม บวชมานานนับสิบปี โดยท่านใช้ชีวิตในป่าเขาด้วยความสมถะ กินแต่ผักผลไม้ เคร่งครัดในพระธรรมวินัย อาศัยอยู่ที่สำนักสงฆ์ หมู่บ้านปูทา หมู่ 1 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน โดยชาวบ้าน แบ่งที่ทำกิน สร้างเป็นกุฏิเล็กๆ ให้ โดยบอกเหตุผลที่มาอยู่ที่ บ้านปู่ทา เพราะว่าชอบสันโดษ ชอบความสงบ อยากช่วยเหลือชาวบ้านที่ยากไร้ ซึ่งพระจูเลียน ก็นำวิชาความรู้ที่มีถ่ายถอดการทำเกษตรกรรม ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ รวมถึงรวมลงมือทำกับชาวบ้าน โดย พระจูเลียน จะเดินบิณฑบาตอาทิตย์ละ 2 ครั้ง เนื่องจากรู้ว่า ชาวบ้านปลูกข้าวไม่พอกิน และไม่ค่อยมีเงิน ซึ่งหากบิณฑบาตทุกวัน ก็อาจจะทำให้ชาวบ้านเป็นทุกข์ได้ และพระจูเลียน จะพกของที่ชาวบ้านนำมาบิณฑบาต มาแบ่งปันให้คนที่ไม่มีอีกทอดหนึ่งด้วย ถือเป็นการทำบุญอีกทางหนึ่งจึงมีคนขนานนามท่านว่า "นักบุญแห่งขุนเขา"