กลุ่มผู้ประท้วง ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย หลายร้อยคน เริ่มต้นชุมนุมประท้วงเป็นเวลา 3 วัน ด้วยการบุกยึดสนามบินนานาชาติฮ่องกง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประท้วงยืดเยื้อสุดสัปดาห์ที่ 10 ติดต่อกัน โดยนักเคลื่อนไหวในชุดดำ มานั่งรวมตัวกันอยู่ในอาคารผู้โดยสารขาเข้า อาคารหลักของสนามบินตั้งแต่เที่ยงวันศุกร์ ชูป้ายเพื่อแจ้งให้นักท่องเที่ยวระหว่างประเทศได้รับทราบ ซึ่งการประท้วงในฮ่องกงที่ยืดเยื้อมานานหลายสัปดาห์เริ่มต้นด้วยการต่อต้านร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีในจีนแผ่นดินใหญ่ และขยายข้อเรียกร้องเป็นต้องการเสรีภาพที่เพิ่มมากขึ้น
ฮ่องกง อดีตอาณานิคมของอังกฤษ เป็นส่วนหนึ่งของจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ได้รับสิทธิในการปกครองตนเอง มีเสรีภาพในการแสดงออกและมีอิสระของกระบวนการยุติธรรมภายใต้นโยบาย “หนึ่งประเทศ สองระบบ” แต่บรรดานักเคลื่อนไหวกลัวว่า เสรีภาพที่มีกำลังถูกกัดกร่อนมากขึ้นเรื่อย ๆ
พวกเขาเรียกร้องให้ทำการสอบสวนอย่างอิสระต่อการกระทำที่ป่าเถื่อนของเจ้าหน้าที่ตำรวจระหว่างการประท้วง, ยกเลิกร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และนางแคร์รี แลม หัวหน้าคณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ต้องลาออกจากตำแหน่ง
กลุ่มผู้ประท้วงถือป้ายที่เขียนด้วยภาษาอังกฤษและจีน และพิมพ์ใบปลิวหลายภาษาเพื่ออธิบายถึงสาเหตุและข้อเรียกร้องของการประท้วง แจกจ่ายต่อนักท่องเที่ยวที่เพิ่งเดินทางถึง
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลปักกิ่งเตือนกลุ่มผู้ประท้วงแล้วว่า “อย่าเล่นกับไฟ” หรือ “ประเมินการแก้ปัญหาของรัฐบาลกลางต่ำเกินไป”
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ประท้วงมีแผนที่จะปักหลักอยู่ในสนามบินหลักของฮ่องกงตลอดสุดสัปดาห์นี้