นายเอเมียร์สยาห์ ซาตาร์ อดีตประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ สายการบินการูดาอินโดนีเซีย สายการบินแห่งชาติ ตามข้อกล่าวหาฟอกเงิน เกี่ยวพันกับคดีทุจริตอื้อฉาวข้ามชาติ ซึ่งทำให้บริษัทโรลส์-รอยซ์ ผู้ผลิตเครื่องยนต์อากาศยานยักษ์ใหญ่แห่งอังกฤษ ถูกหลายประเทศปรับเป็นเงินกว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นายซาตาร์ ถูกจับกุมเมื่อวันพุธ (7 ส.ค.) กว่า 2 ปีหลังจากถูกระบุชื่อเป็นผู้ต้องสงสัย โดยคณะกรรมการกวาดล้างคอร์รัปชันอินโดนีเซีย หรือ เคพีเค ตามข้อกล่าวหารับเงินสินบนจากบริษัทโรลส์-รอยซ์ เพื่อแลกกับการจัดซื้อเครื่องบินโดยสาร ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ของโรลส์-รอยซ์
นายซาตาร์ ที่เคยได้รับการกย่อง จากการพลิกฟื้นสถานการณ์ของการูดา ถูกกล่าวหารับสินบน เป็นเงินสดประมาณ 1.2 ล้านยูโร หรือ 41.4 ล้านบาท และ 180,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 5.6 ล้านบาท ขณะที่ยังดำรงตำแหน่งซีอีโอของการูดา ระหว่างปี พ.ศ. 2548 - 2557
แถลงการณ์ของเคพีเค กล่าวว่า ข้อหาเกี่ยวพันกับสัญญา "มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ" ที่สายการบินการูดา ลงนามกับ บริษัทโรลส์-รอยซ์ และอีก 3 บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินโดยสาร ประกอบด้วย แอร์บัส และเอทีอาร์ ของฝรั่งเศส และบอมบาร์ดิเอร์ของแคนาดา ในระหว่างการดำรงตำแหน่งซีอีโอของซาตาร์
ในปี 2560 บริษัทโรลส์-รอยซ์ ตกลงจ่ายค่าปรับจำนวนรวม 808 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 24,844 ล้านบาท แก่เจ้าหน้าที่ของ 3 ประเทศ ประกอบด้วย อังกฤษ สหรัฐ และบราซิล เพื่อยอมความนอกศาล หลังถูกกล่าวหาติดสินบนและทุจริต
สำนักงานต่อต้านการทุจริตของรัฐบาลอังกฤษ ตรวจพบบริษัทโรลส์-รอยซ์ จ่ายเงินสินบนจำนวนมหาศาล ในระยะเวลากว่า 3 ทศวรรษ เพื่อคว้าสัญญาในหลายประเทศ เช่น อินโดนีเซีย ไทย อินเดีย รัสเซีย ไนจีเรีย จีน และมาเลเซีย.