ผอ.รพ.สุรินทร์ ยอมรับเจอวิกฤตขาดแคลนน้ำ เหตุประปาในพื้นที่ไม่สามารถส่งน้ำให้ได้ แต่แก้ไขปัญหาแล้ว โดยลดการใช้น้ำ ขุดบ่อบาดาล พร้อมขอให้หน่วยงานราชการ เอกชนไปดูดน้ำจากการประปาสุรินทร์มาใช้วันละ 4-5 แสนลิตร
เมื่อวันที่ 9 ส.ค. นพ.ประวีณ ตัณฑประภา ผอ.รพ.สุรินทร์ กล่าวถึงปัญหาการขาดแคลนน้ำของ รพ.ว่า เนื่องจาก จ.สุรินทร์ ประสบสถานการณ์ภัยแล้ง อ่างเก็บน้ำห้วยเสนง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่นำมาทำน้ำประปาลดปริมาณลงมาก ทำให้การส่งน้ำประปามาที่ รพ.ขาดแคลน น้ำประปาที่ส่งมาวันที่ 5-6 ส.ค. ไม่มีคุณภาพเนื่องจากมีสีขุ่น ซึ่งมีผลต่อการบริการ ทำให้วันที่ 5-6 ส.ค. รพ.ไม่มีน้ำเลย ทั้งนี้ปริมาณการใช้น้ำของ รพ.สุรินทร์ ซึ่งเป็น รพ.ศูนย์จะใช้วันละประมาณ 1 ล้านลิตร แต่เรามีน้ำสำรองเก็บไว้ 1.4 ล้านลิตร เมื่อทางประปาหยุดการส่งน้ำมาให้ รพ. ทาง รพ.ใช้น้ำสำรองวันครึ่งก็หมดแล้ว อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ทาง รพ.ได้ประเมินสถานการณ์การใช้น้ำ เพราะคิดว่าน่าจะมีปัญหาเรื่องน้ำ โดยไดลดการใช้น้ำลง แต่การบริการทางการแพทย์ก็บริการตามปกติ ไม่ว่าห้องผ่าตัด ล้างไต ไอซียู
ผอ.รพ.สุรินทร์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ได้ออกมาตรการระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว สำหรับระยะสั้นได้ลดการใช้น้ำ โดยตั้งเกณฑ์ไว้ประมาณ 50 % หรือ 5 แสนลิตรต่อวัน ซึ่งลดได้ตามต้องการแล้ว ขณะเดียวกันได้ได้ขอให้หน่วยราชการ และเอกชน ไปดูดน้ำมาจากการประปาสุรินทร์ ซึ่งทางสามารรถจ่ายน้ำให้ รพ.ได้ประมาณวันละ 4-5 แสนลิตร ทำให้ปริมาณน้ำค่อนข้างกลับมาในเกณฑ์ปกติ สำหรับระยะกลางได้มีการเจาะบ่อน้ำบาดาลเพิ่มอีก 1 บ่อ ได้ 1 แสนลิตร ต่อวัน และคาดว่าจะเจาะเพิ่มอีก 7 บ่อ รวมเป็น 8 บ่อ แต่เนื่องจากน้ำบาดาลไม่สามรถใช้ในห้องผ่าตัดได้ ก็จะใช้ในส่วนอื่นเช่น ซักล้าง อย่างไรก็ตามตอนนี้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติแล้ว รพ.ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ยืนยันว่าช่วงที่เกิดภาวะขาดแคลนน้ำมาก ๆไม่มีภาวะติดเชื้อ แม้แต่รายเดียว ไม่ว่าห้องผ่าตัด ห้องไอซียู หรือในส่วนของการล้างไต