เปิดเบื้องลึก 5 พรรคเล็กประกาศเป็นฝ่ายค้านอิสระ

2019-08-08 17:05:11

เปิดเบื้องลึก 5 พรรคเล็กประกาศเป็นฝ่ายค้านอิสระ

Advertisement

เปิดเบื้องลึก 5 พรรคเล็กประกาศตัวเป็นฝ่ายค้านอิสระ เหตุแกนนำ พปชร. ผู้มีบารมีนอกพรรค รับปากเรื่องเก้าอี้แต่โดนเบี้ยว ทั้งเก้าอี้ รมช. ประธาน กมธ. ผู้ช่วย รมต.

เมื่อวันที่ 8 ส.ค. แหล่งข่าวระดับสูงในพรรคร่วมรัฐบาล เปิดเผยว่า สำหรับความเคลื่อนไหวของ 5 พรรคการเมืองเล็ก ได้แก่ พรรคพรรคไทยศรีวิไลย์ พรรคพลังไทยรักไทย พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคประชาธรรมไทย และพรรคครูไทยเพื่อประชาชน มีมติประกาศตัวเป็นฝ่ายค้านอิสระ รวมถึงการฟรีโหวตในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 สาเหตุมาจากความไม่พอใจที่ 10 พรรคการเมืองขนาดเล็กพลาดโอกาสในการดำรงตำแหน่งทางการเมืองครั้งสำคัญหลายครั้ง ทั้งที่ 10 พรรคเล็ก ประกาศสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ในขณะที่ 2 พรรคการเมืองอย่างพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทยยังยึกยักต่อรองตำแหน่ง จัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรี

แหล่งข่าวระดับสูง กล่าวว่า เมื่อมีการจัดสรรโควตาในตำแหน่งรัฐมนตรีผู้มีบารมีนอกพรรคพลังประชารัฐ ก็รับปาก10 พรรคเล็กว่าจะให้ตำแหน่ง รมช. 1 เก้าอี้ เพราะพรรคชาติไทยพัฒนาที่มี 10 เสียงได้ตำแหน่ง รมว. เก้าอี้ และ รมช. 1 เก้าอี้ โดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรพลังประชารัฐ รับปากว่าจะดูตำแหน่งรัฐมนตรี เมื่อมาเชิญไปร่วมตั้งรัฐบาลเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ตำแหน่งเพราะแม้แต่พรรคพลังประชารัฐเองก็แทบจะแตกจากการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรี ต่อมาผู้มีบารมีนอกพรรคก็รับปากว่าจะดูตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)สามัญประจำสภาผู้แทนราษฎรให้อีก แต่ก็มีแนวโน้มว่าจะไม่ได้สักตำแหน่ง จนล่าสุดผู้มีบารมีนอกพรรค รับปากว่าจะให้ตำแหน่งผู้ช่วย รมต. และล่าสุดก็ไม่มีวี่แวว ทำให้พรรคเล็กๆ ไม่พอใจเหมือนโดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“แม้แต่นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย ที่ขอตำแหน่งผู้แทนการค้าไทย ตั้งแต่ช่วงแรกที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี จนถึงขณะนี้ก็ส่อแววว่าจะโดนเบี้ยวเช่นกัน จนทำให้ 10 พรรคเล็กไม่พอใจ โดยออกมาเคลื่อนไหวประกาศตัวเป็นฝ่ายค้านอิสระแล้ว 5 พรรค และอาจจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะเสียงรัฐบาลปริ่มน้ำ หากมีการโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 หรืออภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นรายบุคคล ก็น่าจะเป็นการเอาคืนของกลุ่มเหล่านี้”แหล่งข่าวระดับสูง กล่าว