“สุเทพ”พร้อมพิสูจน์ศาล ป.ป.ช.ชี้มูลสร้างโรงพัก (คลิป)

2019-08-07 12:55:45

 “สุเทพ”พร้อมพิสูจน์ศาล ป.ป.ช.ชี้มูลสร้างโรงพัก (คลิป)

Advertisement

“สุเทพ”ระบุกรณี ป.ป.ช.ชี้มูลโครงการก่อสร้างโรงพัก 396 แห่ง ไม่เกี่ยวกับการทุจริต เป็นเพียงประเด็นการใช้อำนาจหน้าที่ชอบหรือไม่ชอบเท่านั้น ยันประมูลวิธีอีอ็อกชั่น ผู้เข้าประมูลประกวดราคากว่า 70 ครั้ง พร้อมพิสูจน์ความจริงในศาล

เมื่อวันที่ 7 ส.ค. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดกรณีอนุมัติโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจหรือโรงพักทดแทน 396 แห่งว่า ได้ชี้แจงหลายครั้งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และในที่สุด ป.ป.ช.ได้สรุปและมีมติชี้มูล ทำให้ตนเองจะได้มีโอกาสไปพิสูจน์ความจริงในศาล เรื่องราวจะได้จบ เพราะตนเสียหายและเสียชื่อเสียงมาเยอะแล้ว ในฐานะคนที่ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ เรื่องที่เกิดขึ้นขอเรียนกับประชาชนว่า ไม่มีความซับซ้อนอะไรเลย แต่เดิม ป.ช.ช. กล่าวหาว่า ตนเองกระทำผิดมติ ครม. แต่ในที่สุดก็ไม่มีความผิด เพราะว่ามติ ครม.เกี่ยวกับเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างไม่มีอยู่จริง เพราะฉะนั้นฟังจากการแถลงของ ป.ป.ช. กลายเป็นว่า ตนเองเสนอเรื่องขออนุมัติ ครม.เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงวิธีจัดซื้อจัดจ้างใหม่ กลับไม่เสนอขอมติที่ประชุม ครม.อีกครั้ง คล้ายกับว่าตนเองใช้อำนาจโดยมิชอบ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าการใช้วิธีการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีดังกล่าว จะทำให้การก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ ซึ่งตนเห็นว่าอาจจะผิดจากข้อเท็จจริง เพราะข้อเท็จจริงคือว่า ครม.มีมติครั้งเดียวเมื่อวันที่ 17 ก.พ.2552 ให้สร้างสถานีตำรวจ 396 แห่งในวงเงิน 6,000 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีตามปกติ แล้วก็ผูกพันงบประมาณเป็นเวลา 5 ปี ซึ่ง ครม.อนุมัติเพียงครั้งเดียว เรียกว่า ครม.อนุมัติโดยหลักการ ส่วนการจัดซื้อจัดจ้างไม่ใช่อำนาจของ ครม.ในการอนุมัติ ไม่มีการอนุมัติในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการใด ที่จะต้องไปขออนุมัติจากมติ ครม. เพราะมีกฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างว่าด้วยระเบียบพัสดุของสำนักนายกรัฐมนตรีอยู่แล้วว่าเป็นอำนาจของหัวหน้าหน่วยงาน คืออธิบดี หรือถ้าเกินอำนาจของอธิบดี ก็เป็นอำนาจของรัฐมนตรีที่คุมกระทรวงนั้น


นายสุเทพ กล่าวต่อว่า การที่กล่าวหาว่าตนเองเสนอ ครม.ครั้งหนึ่งแล้ว แต่พอจะเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดซื้อจัดจ้างกลับไม่เสนอขอมติ ครม.นั้น ไม่ตรงกับความเป็นจริง ซึ่งประเด็นนี้ ตนจะนำไปพิสูจน์ให้ศาลได้เห็น และขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจ เพราะทั้งหมดนี้ที่ ป.ป.ช.กล่าวหาตนเอง ไม่เกี่ยวกับการทุจริตเลย เป็นเพียงประเด็นว่าตนใช้อำนาจหน้าที่ชอบหรือไม่ชอบเท่านั้น เรื่องการทุจริตนั้นเป็นเรื่องที่ ป.ป.ช.แจ้งมติชี้มูล ตำรวจ ข้าราชการ หรือพ่อค้าคนอื่นในวันเดียวกัน ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าตนเองไปสมคบทุจริตกับเขาด้วย ประเด็นสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ที่อยากจะชี้ให้ประชาชนได้เห็นก็คือว่า กรณีนี้มีการประมูลกันโดยวิธีอีอ็อกชั่น ก็มีผู้เข้าประมูลหลายรายและแข่งขันกัน 70 กว่าครั้งในการประกวดราคา ผู้ที่เสนอราคาต่ำสุดนั้น ได้เสนอต่ำกว่าราคากลางประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นข้อเท็จจริง