“บิ๊กป้อม”ระบุภายในปี 2563 รัฐบาลตั้งเป้าลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนต่ำกว่าร้อยละ 50
เมื่อวันที่ 7 ส.ค. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานสัมมนาวิชาการระดับชาติเรื่องความปลอดภัยทางท้องถนนครั้งที่ 14 ภายใต้หัวข้อ "เดิน ขี่ ขับไป-กลับ ปลอดภัย" โดยศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน หรือ ศปถ. ร่วมกับศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน มูลนิธินโยบายกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม
พล.อ.ประวิตร ระบุว่า รัฐบาลตระหนักถึงอุบัติเหตุทางถนนเป็นปัญหาสำคัญที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บและสูญเสีย ซึ่งปี 2561 มีคนไทยกว่า 200 คน ต้องเสียชีวิตและมีผู้พิการรายใหม่กว่า 9,000 คน ส่งผลกระทบต่อผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ในภาพรวมกว่า 200 ล้านบาทต่อปี โดยอุบัติเหตุทางถนนเหล่านี้สามารถสามารถป้องกัน และลดความสูญเสียได้ รัฐบาลจึงได้กำหนดให้มีการสร้างความปลอดภัยทางถนนเป็นนโยบายสำคัญทำให้สำเร็จผลระหว่างปี 2554- 2563 ปี กำหนดให้เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยบนท้องถนนของประเทศไทย ภายใต้กรอบปฏิญญามอสโก เพื่อลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนต่ำกว่าร้อยละ 50 ภายในปี 2563
พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า การดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายความปลอดภัยทางถนนเดือนที่ผ่านมารัฐบาลได้กำหนดใช้มาตรการชุมชนและสังคม รวมไปถึงการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อเฝ้าระวังและควบคุมปัจจัยเสี่ยง กับการสร้างจิตสำนึก ส่งเสริมวัฒนธรรมและความปลอดภัยทางถนนในระยะยาว และยังต้องจัดการความเสี่ยงและแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยทางถนนอย่างเป็นระบบ เพื่อลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนอย่างยั่งยืน ซึ่งรัฐบาลได้เน้นย้ำให้มีการป้องกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนที่ต่อเนื่องตลอดทั้งปีโดยเฉพาะมาตรการ 4 ห้าม 3 ต้อง คือ ห้ามขับรถเร็ว, ห้ามดื่มสุราแล้วขับขี่, ห้ามโทรขณะขับขี่ และห้ามขับขี่ขณะง่วงนอน, ต้องสวมหมวกกันน็อก, ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย และต้องพกใบอนุญาตขับขี่ การดำเนินงานด้านความปลอดภัยทางถนนที่ผ่านมายังประสบปัญหาและอุปสรรคในการลดการสูญเสียจากเป้าหมายที่ตั้งไว้จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเร่งรัดปรับปรุงและพัฒนาและกำหนดแนวทางมาตรการใหม่ๆในการแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ให้มากยิ่งขึ้นประเทศไทยปลอดภัย Safety Thailand รอรับการขับเคลื่อนการพัฒนาเข้าสู่ประเทศไทย 4.0 โดยในปีนี้จะเน้นให้ความสำคัญกับกลุ่มคนเดินเท้า ขับขี่รถจักรยานยนต์และจักรยานของผู้ใช้รถโดยสารสาธารณะภายใต้แนวคิด เดิน ขี่ ขับ ไป-กลับ ปลอดภัย