พิษสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ทำหุ้น-เศรษฐกิจโลกสะเทือนทั่วหน้า

2019-08-06 09:40:57

พิษสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ทำหุ้น-เศรษฐกิจโลกสะเทือนทั่วหน้า

Advertisement

ปัจจัยลบจากสงครามการค้าสหรัฐกับจีน ลามตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อวันจันทร์ วอลล์สตรีทดิ่งหนัก จีนลดหยวนสู้ภาษีสหรัฐ พ่วงบริษัทจีนประกาศหยุดนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐ กระทบเกษตรกรชาวอเมริกันเต็ม ๆ พร้อมเศรษฐกิจโลกมีสิทธิ์ซึมยาว หากศึกการค้าระหว่าง 2 ยักษ์ใหญ่ยังยืดเยื้อ

รัฐบาลจีนลดค่าเงินหยวน ลงในอัตราที่ต่ำกว่า 7 หยวน ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีเมื่อวันจันทร์ ซึ่งการลดค่าเงินอาจบรรเทาผลกระทบจากการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าที่สหรัฐประกาศใช้กับจีน ค่าเงินหยวนอ่อน ทำให้ตลาดหุ้นวอลล์ สตรีท เกิดความหวาดกลัวว่า สงครามการเงินได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว หรือแม้แต่สหรัฐอาจตอบโต้ด้วยการปรับขึ้นภาษีสูงขึ้นกว่าเดิม, ขยายความขัดแย้งกับจีนให้ยืดเยื้อออกไป และมีความเป็นไปได้ว่า จะทำให้เศรษฐกิจโลกอ่อนแอ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลว่า รัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจพยายามลดค่าเงินดอลลาร์ตอบโต้กับจีน จุดชนวนสงครามเงินตรา ที่อาจทำให้กำลังซื้อของชาวอเมริกันอ่อนยวบ




ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ดิ่งลงไปถึง 961 จุดในการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ แม้ว่าจะคืบคลานกลับขึ้นมาได้เล็กน้อย แต่ก็ยังเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดของปีนี้ และร่วงลงครั้งเลวร้ายที่สุดเป็นครั้งที่ 6 ในประวัติศาสตร์

โดยดาวโจนส์ ปิดลดลงร้อยละ 2.9 หรือ 767.27 จุด อยู่ที่ 25,717.74 จุด ต่ำกว่า 26,000 จุดเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมิถุนายน ลดลงเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน เลวร้ายที่สุดตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่ เอสแอนด์พี 500 ปิดร่วงลง 87.31 จุด หรือร้อยละ 2.98 อยู่ที่ 2,844.74 จุด เป็นวันที่ย่ำแย่ที่สุดของปี และดิ่งลงเป็นวันที่ 6 ติดต่อกันเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนตุลาคม ปีที่แล้ว ส่วนแนสแดค รูดลงร้อยละ 3.47 หรือ 278.03 จุด ปิดที่ 7,726.04 จุด เป็นการร่วงลงมากที่สุดตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2551 และลากยาวที่สุดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2559 ซึ่งครั้งนั้น ดิ่งลงติดต่อกัน 9 วัน ในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ



ด้านกระทรวงพาณิชย์ของจีน แถลงเมื่อวันอังคารว่า บรรดาบริษัทของจีนได้ระงับการซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐแล้ว ซึ่งจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเกษตรกรสหรัฐ ที่ได้รับผลพวงนี้แล้ว เพราะสินค้าส่งออกของพวกเขาได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าที่ยืดเยื้อมากกว่า 1 ปีแล้ว นอกจากนี้ จีนอาจปรับขึ้นภาษีต่อสินค้าการเกษตรของสหรัฐด้วย ซึ่งจะยิ่งเพิ่มอุปสรรคต่อการค้าในอนาคต เป้าหมายอยู่ที่รัฐชนบทที่เป็นฐานเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์ ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2559

ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า จีนไม่ได้รักษาคำมั่นสัญญาว่าจะซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐในปริมาณมากขึ้น และให้คำมั่นว่าจะปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนครั้งใหม่ คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดับความหวังที่จะเห็นข้อตกลงการค้าสหรัฐ-จีนฉบับใหม่ ทันที