ฮ่องกงป่วนหนักที่สุดจากการผละงานประท้วงใหญ่สุดในรอบหลายสิบปี ประชาชนหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมประท้วง การจราจรหยุดชะงัก กลายเป็นอัมพาตทั่วเกาะ
ฮ่องกงได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง จากการผละงานประท้วงครั้งใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชนเมื่อวันจันทร์ ซึ่งนำไปสู่ความปั่นป่วนวุ่นวายโกลาหลต่อระบบการขนส่งและการจราจร รวมทั้งสนามบินระหว่างประเทศของฮ่องกง นับเป็นการประท้วงที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่เริ่มต้นการประท้วงในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยพนักงานของสายการบินพลเรือนมากกว่า 2,330 คน เข้าร่วมผละงานประท้วง จากการประเมินของสหภาพแรงงานฮ่องกง ซึ่งก็ส่งผลให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว ทั้งขาเข้าและออกจากสนามบินที่ถือว่าแออัดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ผู้โดยสารต่อแถวยาวเหยียดที่อาคารจุดเช็กอินตลอดทั้งวันที่ผ่านมา
สายการบินคาเธ่ แปซิฟิก ของฮ่องกง ออกหนังสือเวียนภายในเมื่อวันจันทร์ ระบุว่า ต้องลดการให้บริการเที่ยวบินลงครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด ขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การผละงานประท้วงในหลายพื้นที่เมื่อวันจันทร์นั้น ถือว่าใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในฮ่องกงในรอบหลายสิบปี

กลุ่มผู้จัดการประท้วงยังเรียกร้องให้พนักงานผละงานประท้วงที่ “ฮ่องกง ดิสนีย์แลนด์” บนเกาะลันเตา ที่ตั้งของท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงด้วย ซึ่งก็มีพนักงานส่วนหนึ่งของดิสนีย์แลนด์ เข้าร่วมประท้วงด้วย นอกจากนี้ ยังมีครู, หน่วยกู้ชีพประจำชายหาด, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย, คนงานก่อสร้าง และประชาชนเกือบ 14,000 คนจากภาควิศวกร
การผละงานประท้วงเมื่อวันจันทร์ เกิดขึ้นหลังการประท้วงต่อเนื่องเป็นสุดสัปดาห์ที่ 9 ในฮ่องกง ท่ามกลางวิกฤตการเมืองที่เลวร้าย โดยผู้ประท้วงเริ่มต้นในช่วงต้นเดือนมิถุนายน เพื่อต่อต้านร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งขณะนี้ ทางการฮ่องกงเก็บร่างกฎหมายอื้อฉาวดังกล่าวเข้าลิ้นชักไปแล้ว

แต่กลุ่มผู้ประท้วงก็ยังไม่เลิกลา ตั้งแต่นั้นมาพวกเขาก็ยกระดับข้อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประชาธิปไตย, สอบสวนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำรุนแรงต่อผู้ประท้วง และให้นางแคร์รี แลม หัวหน้าคณะบริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ลาออกจากตำแหน่ง
การประท้วงเมื่อวันจันทร์ ส่งผลให้การจราจรและการขนส่งในช่วงเช้าติดขัดเป็นอัมพาต เพราะกลุ่มผู้ประท้วงปิดเส้นทางสายหลักทั่วเกาะฮ่องกงในการประท้วงล่าสุดต่อเนื่องกันมา 5 วันติด การให้บริการรถไฟใต้ดินสายหลัก ต้องระงับ หรือล่าช้า ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เนื่องจากผู้ประท้วงไม่ยอมให้รถไฟเคลื่อนขบวนออกจากสถานี สร้างความเดือดร้อนต่อผู้โดยสารที่ใช้บริหารรถไฟใต้ดินทุกวันเฉลี่ย 4.84 ล้านคน

นอกจากนี้ ผู้ประท้วงยังปิดถนนและถนนหลวงหลายสาย ซึ่งรวมทั้งอุโมงค์ข้ามอ่าว เส้นทางสายสำคัญที่สุดเชื่อมเกาะฮ่องกงกับเกาลูน พ่อตกในช่วงบ่ายวันจันทร์ ก็เกิดการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงและตำรวจ ทั่วฮ่องกง และตำรวจต้องยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ประท้วงใน 5 เขต
ขณะเดียวกัน ก็เกิดเหตุการณ์ม็อบปะทะม็อบขึ้น เมื่อมีม็อบอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีท่อนไม้เป็นอาวุธ เข้าตะลุมบอนกับผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาล โดยรอยเตอร์รายงานเมื่อวันจันทร์ว่า ม็อบติดอาวุธอย่างน้อย 13 คน จากพื้นที่ใกล้เคียง เริ่มโจมตีกลุ่มผู้ประท้วงด้วยท่อนไม้ขนาดใหญ่ในช่วงเย็นวันจันทร์ในย่านนอร์ท พอยท์ แต่ผู้ประท้วงก็ตอบโต้และในที่สุดก็เข้าห้ำหั่นกันเอง ก่อนสลายตัวไป