ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์เร่งรัดเทศบาลหัวหินเร่งใช้งบ 50 ล้านประมูลซื้อกล้องวงจรปิดหลังล่าช้านาน 3 ปี
เมื่อวันที่ 5 ส.คง นายพัลลภ สิงหเสนี ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่ากรณีตำรวจพบรถจักรยานยนต์ทะเบียนจังหวัดชายแดนภาคใต้ จอดทิ้งไว้หลายวันบริเวณลานจอดรถด้านข้างสถานีรถไฟ แต่ไม่พบวัตถุระเบิด ล่าสุดยืนยันว่าสถานการณ์ในพื้นที่ อ.หัวหิน เข้าสู่สาวะปกติ ไม่มีผลกระทบกับเมืองท่องเที่ยวระดับนานาชาติ รถไฟทุกขบวนเดินทางขึ้นล่องได้ตามปกติ ขณะที่มาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย ทุกหน่วยวางกำลังในพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีประชาชนจำนวนมาก สถานที่สำคัญทั้ง โรงแรม สถานีรถไฟ สถานีขนส่ง สนามบินหัวหิน โดยได้รับการสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายร้อยนายจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และขอความร่วมมือให้ประชาชนแจ้งเบาะแสบุคคลต้องสงสัย
นายพัลลภ กล่าวต่อว่า จากการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับรายงานว่าในพื้นที่ชั้นในของเมืองหัวหินมีกล้องวงจรปิดของตำรวจท่องเที่ยวสภาพพร้อมใช้งาน 90 ตัว เทศบาลเมืองหัวหินมี 60 ตัว ขณะที่เทศบาลหัวหินรายงานว่าการใช้งบกว่า 50 ล้านบาท มีแผนติดตั้งกล้องวงจรปิดความคมชัดสูงกว่า 400 ตัว หลังมีเหตุระเบิดใน อ.หัวหินหลายจุดเมื่อวันที่ 10 - 12 ส.ค.59 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บหลายราย ขณะนี้ได้รับรายงานว่าจะมีการกำหนดเงื่อนไขเพื่อจัดซื้อจ้างใหม่ทั้งหมด จากเดิมยอมรับว่าการจัดซื้อและติดตั้งล่าช้าเป็นเวลา 3 ปี เนื่องจากการจัดซื้อกล้องชุดเดิมมีปัญหาจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไม่อนุญาตให้ใช้เสาไฟฟ้าพาดสาย เนื่องจากมีการนำสายสัญญาณที่เป็นโลหะมาใช้งานในระบบ สำหรับการจัดซื้อขอให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการให้เร็ว เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยในพื้นที่ที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยว
ด้าน พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า กรณีพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย 3 คัน ทะเบียนจังหวัดชายแดนภาคใต้ จอดทิ้งไว้หลายวันบริเวณลานจอดรถด้านข้างสถานีรถไฟหัวหินเมื่อวันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุดมีผู้แสดงตัวเป็นเจ้าของรถ 1 ราย ทั้งนี้หากตรวจสอบแล้วไม่มีปัญหาอะไรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเยียวยาความเสียหายให้เจ้าของรถจักรยานยนต์ทุกรายหลังจากเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดใช้ปืนยิงน้ำแรงดันสูงใส่รถทั้ง 3 คัน ได้รับความเสียหาย ยืนยันว่าทุกขั้นตอนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุที่มีการซักซ้อมไว้ทั้งการกั้นแนวในจุดต้องสงสัยห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปโดยเด็ดขาดเพราะมีความเสี่ยงสูง การตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ หลังจากนี้ได้สั่งการให้ตำรวจท้องที่ประสานกับเจ้าหน้าที่ประจำสถานีรถไฟหรือสถานที่อื่นในแหล่งชุมชนที่ประชาชนนิยมนำรถจักรยานยนต์ไปจอดไว้เป็นเวลานานผิดสังเกต เจ้าของสถานที่จอดรถจะต้องสอบถามรายละเอียด โดยจดรายชื่อเจ้าของรถทุกราย พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อสอบถามได้ทันทีหากมีข้อสงสัย