"หญิงหน่อย" จี้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินเยียวยาภัยแล้ง

2019-08-02 18:20:33

"หญิงหน่อย" จี้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินเยียวยาภัยแล้ง

Advertisement

“คุณหญิงสุดารัตน์”พร้อมแกนนำ ส.ส. พท. ลงพื้นที่อุดรธานี จี้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินเยียวยาภัยแล้ง เพิ่มเงินชดเชยเป็นขั้นบันได เอื้อเกษตรกรรายย่อยมีเงินลงทุนก่อนฝนตก ติงรัฐบาลรู้ตัวช้า แก้ปัญหาภัยแล้งไม่ทันการณ์

เมื่อวันที่ 2 ส.ค. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วย พร้อมแกนนำ พท. และ ส.ส.ของพรรค ได้ร่วมรับฟังการบรรยาสถานการณ์น้ำใน อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ที่เขื่อนห้วยหลวงทุ่งนามน จากกำนันผู้ใหญ่บ้าน และรับฟังการสะท้อนปัญหาจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าน้ำแล้งไม่มีน้ำทำนา ราคาสินค้าการเกษตรตกต่ำ

คุณหญิงสุดารัตน์ ได้กล่าวขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจเลือก ส.ส. พรรคเพื่อไทย โดยตนเคยกล่าวอะไรไว้กับประชาชนตอนหาเสียงจำได้หมด แต่เสียใจที่ไม่ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพราะไม่ได้เป็นรัฐบาล ตนเห็นว่าปัญหาสำคัญที่สุดคือราคาพืชผลการเกษตร แล้วยังมาเจอภัยแล้งซ้ำ อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่ ส.ส. ของพรรคเพื่อไทยจะเข้าไปทวงผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนจากรัฐบาลให้ได้ อีกทั้งจะยังช่วยเจรจาและหาวิธีทำให้ราคาสินค้าการเกษตรสูงขึ้น ขณะเดียวกัน ส.ส. พรรคก็มีการตั้งคณะกรรมาธิการราคาพืชผลการเกษตร เพื่อเรียกร้องเงินชดเชยให้กับเกษตรกร วันนี้มาให้กำลังใจพี่น้องเกษตรกร เนื่องจากได้ยิน ส.ส. ในพื้นที่หลายคนสะท้อนปัญหาของประชาชนให้ฟังอยู่เสมอ

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึงการบริหารจัดการน้ำและการแก้ปัญหาภัยแล้งของรัฐบาลว่า ช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมาน้ำแล้งจัดจนข้าวในนาหรือพืชไร่ต่างๆ ยืนต้นตาย และเพิ่งมีฝนในสัปดาห์ที่ผ่านมา และเมื่อฝนมาบางพื้นที่ก็น้ำท่วม พี่น้องประชาชนยากลำบากมากเพราะนอกจากจะประสบภัยแล้งแล้วยังโดนน้ำท่วมซัดสาด สำหรับจ.อุดรธานีมีน้ำในเขื่อนแค่ 20 กว่าเปอร์เซ็นต์ กรมชลประทานเองก็ยังคาดเดาสถานการณ์ข้างหน้าได้ไม่ชัด หากฝนตกและสามารถเก็บน้ำในเขื่อนได้เพียงพอก็สามารถปล่อยน้ำเพื่อการเกษตรได้ แต่ถ้าฝนตกแล้วไม่เข้าเขื่อนก็ต้องเก็บน้ำที่เหลือสำรองไว้สำหรับการอุปโภคบริโภค ซึ่งหากถ้ารัฐบาลเชื่อตั้งแต่เมื่อ 2-3 เดือนก่อนที่พรรคเพื่อไทยออกมาเรียกร้อง และพูดความจริงกับประชาชนว่าพื้นที่ไหนไม่มีน้ำช่วยเหลือทางการเกษตรให้ก็ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติและให้เงินชดเชยช่วยเหลือเกษตรกร ไม่ต้องเสียแรง เสียเวลา เสียเงินในการลงทุนปลูกข้าวหรือพืชอื่นๆ แล้วเก็บผลไม่ได้ แต่รัฐบาลก็ไม่ได้ทำตาม จนตอนนี้นำ้เพื่อการเกษตรแทบจะไม่มีเลย และได้รับผลกระทบกันเป็นส่วนใหญ่

“ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินชดเชยภัยแล้งให้เร็วที่สุดภายในเดือน ส.ค.นี้ เพราะหากมีฝนตกช่วงปลายปี ประชาชนก็จะสามารถเอาเงินไปลงทุนผลิตอย่างอื่นได้บ้าง ข้อที่สองคือจากมติ ครม. ที่ผ่านมา จำนวนเงินชดเชยน้อยมาก ข้าวเพียง 1,113 บาทต่อไร่ ราคาใกล้เคียงกับพืชไร่ พืชสวนประมาณ 1,600 บาท และกำหนดเพดานการชดเชยที่ 30 ไร่ แต่ในความจริงทุกวันนี้เกษตรกรไม่ได้มีที่ดินเยอะขนาดนั้น มีเพียงแค่ 5-10 ไร่ต่อราย ดังนั้นพรรคจึงอยากเสนอให้ขยับเพดานการชดเชยเป็นขั้นบันได เช่น 5-10 ไร่แรก ชดเชย 2,500 บาทขึ้นไป เพราะข้าวแต่ละไร่ต้นทุนสามพันกว่าบาทแล้วไม่รวมค่าปุ๋ย ค่ายา และเลย 10 ไร่ขึ้นไปจึงค่อยลดเงินค่าชดเชย ไม่เช่นนั้นเกษตรกรรายย่อยที่มีที่ดินเพียง 5 ไร่ก็จะได้เงินชดเชยเพียง 5,000 บาท แทบจะเอาไปทำอะไรไม่ได้เลย ทั้งนี้ พรรคจะให้ ส.ส. ไปตั้งกระทู้ถามในสภาถึงระยะเวลการชดเชย เพราะหากชดเชยช้ากว่านี้ก็ไม่มีประโยชน์ ไม่ทันลงทุนใหม่ ถ้าฝนมา และให้เงินชดเชยเป็นขั้นบันได เพื่อให้เกษตรกรต่อรายได้เงินอย่างน้อยหนึ่งหมื่นบาท ”คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ยังกล่าวย้ำว่า ขอให้รัฐบาลเร่งรัดและเอาจริงเอาจังในการลงพื้นที่มาดูปัญหาภัยแล้ง แม้ตอนนี้จะฝนตกแล้ว แต่ความเสียหายจากภัยแล้งเกิดขึ้นไปแล้ว จะอ้างว่าฝนตกไม่มีภัยแล้งแล้วก็ไม่ได้ และสำรวจไปแล้วแต่ยังไม่จ่ายเงิน ฝนตกแล้ว ข้าวที่ตายไปแล้วก็ฟื้นคืนไม่ได้ วันนี้เป็นข้อเรียกร้องเป็นครั้งที่ 7 ครั้งที่ 8 ของพรรคเพื่อไทยแล้ว ก็หวังว่ารัฐบาลจะฟัง นอกจากนี้ชาวบ้านยังสะท้อนปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ เช่น ยางพารา และข้าว ประชาชนบอกว่าแม้วันนี้จะบอกว่าข้าวราคาสูงขึ้น แต่ก็ไม่มีข้าวขายเพราะเสียหายจากภัยแล้งไปหมดแล้ว รัฐบาลจึงต้องแก้ปัญหาให้ถูกจุด ไม่เช่นนั้นประชาชนจะเดือดร้อน

ด้านนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้า พท. กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่มีความรู้ในการจัดการกับภัยแล้ง กว่าจะประกาศพื้นที่ภัยแล้งก็ฝนตกนำ้ท่วมเสียแล้ว แต่เชื่อว่าหากได้เป็นรัฐบาลจะสามารถแก้ปัญหาภัยแล้ง และการบริหารจัดการน้ำได้