โอกาสรอดน้อย !! "ต้นหอม" เผย เกือบไม่มี "ปกป้อง" ในวันนี้ เพราะหวิด "ทำแท้ง" ? (มีคลิป)

2019-08-01 10:30:12

โอกาสรอดน้อย !! "ต้นหอม" เผย เกือบไม่มี "ปกป้อง" ในวันนี้ เพราะหวิด "ทำแท้ง" ? (มีคลิป)

Advertisement

เป็นผู้หญิงสุดสตรองเลยจริงๆ สำหรับ "ดีเจต้นหอม ศกุนตลา" ที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวเพิ่งเลิกรากับหวานใจ อย่าง หนุ่ม "ซัน ประชากร" แต่ตอนนี้สาวต้นหอมพร้อมเดินหน้าทำงานและดูแลลูกชายบุญธรรม น้องปกป้อง อย่างเต็มที่



ล่าสุด สาวต้นหอม อุ้มน้องปกกป้อง และคุณพ่อ คุณแม่แท้ๆ ของน้องปกป้อง มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง ONE31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์, หนิง ปณิตา และธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกร




ทำไมน้องไม่กลัวใครเลย ?
ต้นหอม : มันคือความตั้งใจของเรา เราอยากให้เขาอยู่กับใครก็ได้ แม่ก็ไม่รู้จะอยู่กับเขาได้นานแค่ไหน แม่ก็ต้องทำงาน สิ่งแรกที่หอมทำก็คือ ให้เขาเจอแข อยู่กับแขได้ คืออยู่กับคนอื่นได้หมด เพราะตั้งแต่ที่เราทำงานกันมา เด็กกับสัตว์จะมีปฏิกิริยากับแขมาก ซึ่งปกป้องเลิฟแข อยู่กับแขไม่มีร้องนะคะ แต่อยู่กับแม่นี่ร้องทุกเช้า แต่กับแขอยู่ถึง 7 โมงเช้า





กลับมาจากจีนเมื่อไหร่ ?
ต้นหอม : กลับมาเมื่อคืนนี้ค่ะ

ทำอะไรที่จีน ?
ต้นหอม : หอมไปดูเฟอร์นิเจอร์ ไม่ได้ไปพักใจเลย เพราะว่าเราแข็งแรงมาก แล้วก็บ้านกำลังทำ แล้วก็ไปดูเฟอร์นิเจอร์ แล้วก็ไม่รู้เป็นอะไรกับ ตม.ติดทั้งเข้าและออกเลย คือตอนแรกเข้าใจว่าติดไม่แปลกหรอก เพราะเราติดหลายประเทศ นางก็คงมองออกว่ามาเซลส์หรือมาเล้า เราก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่ถ้าพูดได้จะบอกว่าตอนนี้เป็นลูกค้า แต่ขาออกคิดว่ายังไงก็ไม่ติด เพราะไม่เคยติดขาออก ปรากฏว่าน้องชายไปดูหน้าคอมพิวเตอร์ที่เขากำลังสัมภาษณ์เราอยู่เป็นภาพผู้หญิงคนนึงที่หน้าใกล้เรากับหน้าเรา แล้วนางก็ประกบซ้อนภาพว่าสองคนนี้ใช่คนเดียวกันไหม



แล้วผ่านมาได้ยังไง ?
ต้นหอม : เขาก็คงเปิดหูดูนั่น ดูนี่ แล้วเราก็ออกไวด้วยตามกำหนดเขา แล้วเราก็รอดมาได้



พูดถึงเรื่องหัวใจหน่อย ทำใจได้ 100% เลยไหม ?


ต้นหอม : 100% แล้วค่ะ เพราะมันผ่านมาสักพักนึงแล้ว แล้วก็เราใช้ชีวิตอยู่บนเหตุผลมากขึ้น ที่ผ่านมาอาจจะเป็นความผิดของเราเองที่เราเป้าหมายไม่ชัดเจน มันก็เลยทำให้เราเสียเวลากันมา ณ วันนี้เราก็เหมือนเริ่มต้นใหม่ เริ่มทำสิ่งที่ถูกต้องดีกว่า ต่างคนต่างตามหาสิ่งที่คิดว่าเหมาะกับตัวเอง

อะไรที่ทำให้ปลดล็อกตรงนั้น ?
ต้นหอม : ก็ต้องเป็นลูกเลยนะ เขาทำให้เราใจเย็นและอ่อนโยนขึ้น ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะมีโมเมนต์ของความเป็นแม่ ความอ่อนโยนทุกอย่างมันเกิดขึ้นด้วยตัวเอง มันก็เลยปล่อยวางกับทุกๆ เรื่องได้

ตอนที่เราทำรายการด้วยกันพี่จำได้ว่าหอมเพิ่งจะเซ็นสัญญาซื้อที่ดินบ้าน แต่ตอนนั้นยังไม่มีคนนี้ แสดงว่าตอนนั้นอยากได้บ้านเพราะอยากได้บ้าน ?
ต้นหอม : ตอนนั้นอยากมีบ้านในเมือง เพราะการมีบ้านนอกเมืองแล้วทรมานมาก แล้วหลังๆ นอกเมืองติดกว่าในเมือง แล้วงานเราอยู่ในเมือง เราก็เลยกัดฟันซื้อที่ดินไป แล้วกะว่าค่อยหาเงินปลูกบ้าน ซึ่งที่ดินนั้นมันมีบ้านเก่าๆ อยู่นะ ตอนแรกจะรีโนเวท แต่สถาปนิกบอกว่ารีโนเวทกับสร้างใหม่ราคาใกล้เคียงกัน





คุณก็เลยสร้างไป 50 ล้าน ?
ต้นหอม : ไม่ถึง หนูไม่คิดว่ามันจะบานขนาดนี้ หนูไม่รู้จริงๆ เพราะสถาปนิกบอกว่ามันใกล้เคียงกัน จาก 5 ล้าน เราก็คิดว่าเต็มที่ก็ 6-7 ล้าน แต่มันไม่ใช่ มันไปไกลมาก แล้วบ้านด้วยความที่สร้างนาน มันจะแสดงถึงสถานะการเงินของเจ้าของบ้าน ช่วงไหนที่มีเงินบ้านก็จะดี ห้องไหนที่ทำห้องแรกก็จะดี บ้านหลังนี้ตอนแรกจะเป็นไม้เฌอร่า แต่พอสถานะการเงินดีเปลี่ยนเป็นไม้เผาญี่ปุ่น ราคาไม้อยู่ที่ 1 ล้านบ้าน เราก็สู้ได้ 1 ล้าน แต่เขาไม่ได้บอกค่าติดตั้งอีก 1 ล้าน แล้วเราซื้อไม้มาแล้วมันก็ต้องติด ก็กัดฟัน

แล้วพร้อมจะหาคนรู้ใจไปอยู่ด้วยหรือยัง ?
ต้นหอม : คนรู้ใจตอนนี้ในชีวิตไม่ได้ขาด นั่นแปลว่าถ้าคุณมาต้องเสริมอย่างเดียวเลย เราก็เลยคิดว่าไม่ได้จำเป็น

เห็นเขาบอกว่าคุณมีปัญหาเรื่องบ้าน คุณโพสต์ในโซเชียล ?
ต้นหอม : ในแฟนเพจใช่ไหมค่ะ คือจริงๆ เป็นการปรึกษาว่าบ้านเราสร้างนาน ทำไมมันไม่เสร็จสักที พอเราโพสต์ไปก็เลยมีการประชุมใหญ่ ก็เลยเข้าใจปัญหาว่ามันเกิดจากอะไร ส่วนหนึ่งมาจากเราด้วยที่เปลี่ยนแปลนบ่อย จนทำให้ผู้รับเหมาไม่กล้าที่จะทำอะไรก่อน



แล้วจากวันนั้นถึงวันนี้บ้านเสร็จหรือยัง ?
ต้นหอม : ยังค่ะ ตอนนี้ 80% แล้วเหลือดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ผู้รับเหมาไม่กล้าทำกลัวว่าเราจะเปลี่ยน เราก็เลยคอนเฟิร์มว่าไม่เปลี่ยนแล้ว

80% หมดไปกี่ล้านแล้ว รวมกับโคมไฟแสนนึงด้วย ?
ต้นหอม : โคมไฟสั่งซื้อที่เมืองไทยเขาคิดราคามาแสนนึง แล้วไปเดินที่จีน 8 พัน กับ 3 หมื่น แล้วยืนร้องไห้อยู่ตรงนั้น แต่รวมๆ แล้วไม่ถึง 50 ล้าน

ถามจริงคุณมีลูกแล้ว ถ้าคนต่อไปเข้ามาคิดว่าจะเข้ามายากไหม ?
ต้นหอม : ยากตรงที่จะเหนื่อยเขาด้วย อายุเราไม่เด็กแล้วมีลูกติด มันจะมีสักกี่คนที่ Love me Love my dog เขาไม่ได้เริ่มต้นกับเรามาตั้งแต่แรก แล้วเราเองพอมีลูกเราต้องการคนที่มาอยู่กับเราแล้วลูกจะไม่ถามว่าผู้ชายคนนี้คือใคร เขาคือพ่อเราหรือเปล่า หรือเขาเป็นแค่แฟนแม่ เราไม่ต้องการคนที่มาเป็นแค่แฟนแม่ เราอยากได้คนที่มาเป็นครอบครัวเดียวกับเราเลย มันยาก แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร



ขอถามนิดนึงก็มีคนพูดเยอะว่าเหตุผลของการเลิก เพราะว่าเราเอาลูกคนอื่นมาเลี้ยง อันนี้เกี่ยวไหม ?
ต้นหอม : ความเข้าใจผิดคนคิดว่าเอาเด็กคนอื่นมาเลี้ยง แต่จริงๆ ไม่ใช่ เขาเป็นสายเลือดเรา เขาเป็นลูกน้องชาย หอมเป็นคนรักน้องชายมาก เพราะฉะนั้นลูกน้องชายทุกคนหรือแฟนน้องชายเราจะรักหมดเลย แล้วเวลาเขามีปัญหาเราก็จะคอยซัพพอร์ตทั้งหมดกับปกป้องนี่คือรักมากๆ

หลายคนอาจจะรู้เรื่องน้องปกป้องดี แต่หลายคนยังไม่รู้ว่าเป็นมายังไงทำไมหอมถึงรับมาเลี้ยง ?
ต้นหอม : คือเขาเอาอาหารเสริมของเราไปกิน แล้วมันทำให้กินน้อย ฉะนั้นการกินน้อยแปลว่าอาหารทั้งหมดเลี้ยงแม่หมด แล้วพอประจำเดือนมามันผิดปกติตรงที่มา 30 วัน เขาก็เลยไปหาหมอ หมอก็บอกว่ามีเด็กอยู่ในท้อง อารมณ์เป็นแม่ก็ตกใจแหละ แล้วพอรู้ว่าลูก 50/50 หมอบอกว่าอาจจะไม่รอด เพราะเขาไม่เคยกินข้าวไม่เคยอะไรเลย น้องชายก็เลยโทรศัพท์มาหาเรา เราก็โอเคเข้าใจเขา เขาเพิ่งย้ายมาอยู่เมืองไทยก็ไม่ได้สบายใจอะไรอยู่แล้ว ยังไม่มั่นคง แล้วพอรู้ว่าลูกจะไม่รอดอีก เราบอกว่าไม่ต้องวอรี่เลยดูแลตัวเองให้ดีที่สุดเดี๋ยวไอเทคแคร์เองทั้งหมด

ทำไมอยู่ๆ หอมถึงรับเด็กมาเลี้ยง ทำไมไม่เป็นแค่น้าหรือป้า ?
ต้นหอม : จริงๆ หอมอยากมีลูกอยู่แล้ว ก็เคยไปดูน้องๆ ที่บ้านเด็กอ่อน แต่มันไม่ได้ฟิลของความผูกพัน แต่กับปกป้องพอรู้ว่าท้อง จริงๆ หลานคนโตออกมาเรารักเลยนะ เพราะว่าเป็นคนรักน้องชายมากๆ



พอรู้ว่าท้องเราทำยังไงต่อ ?
คลอเดียร์ : ตอนที่มั่นใจว่าท้องก็เลยหันไปหาผู้หญิงที่รู้สึกรักแล้วผูกพันมากที่สุด ก็เลยมาหาต้นหอม

เห็นบอกว่าตอนไปอัลตร้าซาวด์ครั้งแรกเบบี้ที่อยู่ในท้องไม่ไม่เคลื่อนไหวอะไรเลย หมอบอกไหมว่าเขามีโอกาสที่จะรอด ?
ต้นหอม : หมอไม่คอนเฟิร์มเลย

ตอนนั้นเคยคิดไหมว่าเอาออกไปเลยดีกว่าไหม ?
คลอเดียร์ : ไม่ได้คิดอย่างนั้น แต่ที่สิงคโปร์ทุกคนมีสิทธิ์ในการทำแท้งได้ถูกกฎหมาย

ต้นหอม : แต่ที่นี่ไม่ถูกกฎหมายนะ คือวัฒนธรรมเราต่างกันมาก สำหรรับเขาถ้าคิดว่าไม่รอด เขาสามารถคลีนออกได้เป็นเรื่องปกติ แต่ในเมืองไทยอาจจะมองว่าเป็นเรื่องผิด แต่เราคิดว่าถ้าหมอบอกว่าไม่รอดก็ไม่เป็นไร มันก็ต้องไปตามขั้นตอนอย่างนั้น และ ณ ตอนนั้นคนเป็นแม่ถ้ามั่นใจว่าลูกไม่อยู่ เขาก็ไม่อยากเก็บเอาไว้ แต่ถ้าเขารู้ว่าลูกอยู่ เขาไม่ได้จะไปทำแท้ง เพียงแค่ว่าในโลกโซเชียลจับประเด็นกันง่ายไปนิดนึง อาจจะรวบรัด เพราะตอนนั้นปกป้องจะแท้งด้วยตัวเอง ก็เลยเข้าใจว่าพ่อ แม่ จจะทำแท้ง คือไม่ใช่ แต่วันนั้นเราไม่รู้จริงๆ

คลิปสัมภาษณ์ : ดีเจ ต้นหอม