คุกเสี่ยเบนซ์ 3 ปี ปรับ 1 แสน เมาซิ่งชน “พ.ต.ท.-เมีย”ดับ

2019-07-31 11:45:20

คุกเสี่ยเบนซ์ 3 ปี ปรับ 1 แสน เมาซิ่งชน “พ.ต.ท.-เมีย”ดับ

Advertisement

ศาลสั่งจำคุกเสี่ยเบนซ์ 6 ปี ปรับ 2 แสน เมาซิ่งชน “พ.ต.ท.-ภรรยา”เสียชีวิต จำเลยให้การเป็นประโยชน์ สำนึกผิด ไม่เคยมีประวัติต้องโทษมาก่อน ลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 3 ปี ปรับ 1 แสนบาท โทษจำคุกรอลงอาญา 3 ปี

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 31 ก.ค. ศาลจังหวัดตลิ่งชัน อ่านคำพิพากษาคดีที่นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 56 ปี เจ้าของบริษัทไทยคาร์บอนแอนด์กราไฟต์ จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ เมาซิ่งรถยนต์เมอร์เซเดสเบนซ์ อี 250 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ษฮ 789 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนรถยนต์ซูซูกิ สวิฟท์ สีขาว ทะเบียน 2 กก 3653 กรุงเทพมหานคร บนสะพานคลองตาปุ้น ถนนทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก พังยับเยิน วัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดได้ถึง 260 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เป็นเหตุให้ พ.ต.ท.จตุพร หรือ ตี๋ งามสุวิชชากุล อายุ 48 ปี รอง ผกก. (สอบสวน) กก.2 บก.ป. และนางนุชนาถ งามสุวิชชากุล อายุ 44 ปี ภรรยาเสียชีวิต ส่วน ด.ญ.พิชญาภา หรือ น้องแพร งามสุวิชชากุล อายุ 12 ปี ลูกสาวบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเวลาตี 1 ของวันที่ 12 เม.ย. ที่ผ่านมา

คดีดังกล่าว พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี 5 ได้ยื่นฟ้อง นายสมชาย ต่อศาลจังหวัดตลิ่งชัน ใน 3 ความผิด คือ1.ขับรถด้วยความเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด 2.ขับรถในขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายได้รับอันตรายสาหัสและทรัพย์สินเสียหาย และ 3.ขับรถโดยประมาทอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส โดยคดีนี้อัยการสั่งไม่ฟ้องความผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นตามที่พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนแจ้งข้อหาดังกล่าวมาด้วย เนื่องจากอัยการพิจารณาแล้วพฤติการณ์ไม่เข้าองค์ประกอบความผิดทางกฎหมาย


ศาลพิพากษาว่า จำเลยกระทำความผิดกรรมเดียว แต่หลายความผิดจึงลงโทษหนักที่สุด ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก จำคุก 6 ปี ปรับ 2 แสนบาท แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ สำนึกผิด และไม่เคยมีประวัติต้องโทษมาก่อน ศาลให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดีของสังคม จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 3 ปี ปรับ 1 แสนบาท ส่วนโทษจำคุกรอลงอาญา 3 ปี โดยระหว่างนี้ให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 8 ครั้ง ใน 2 ปี รวมทั้งให้บริการสังคม และสาธารณประโยชน์ เป็นเวลา 48 ชม. ในเวลา 1 ปี พร้อมทั้งห้ามดื่มสุรา และของมึนเมา

นายสมชาย กล่าวภายหลังศาลตัดสินว่า ขอขอบคุณครอบครัวผู้เสียหายที่ให้อภัย และขอบคุณศาลและสังคมที่ให้อภัย หลังจากนี้จะมอบเงินให้บุตรสาวของ พ.ต.ท.จตุพร 2 คน คนละ10,000 บาท ต่อเดือน และค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัว20,000บาท รวม 40,000บาท เป็นระยะเวลา 8 ปี จนบรรลุนิติภาวะ พร้อมฝากไปถึง พ.ต.ท.จตุพรและภรรยาขอให้ไปสู่สุขคติสู่ภพภูมิที่ดี ตนเองขอสัญญาว่าจะดูแลบุตรสาวทั้ง 2 คนให้ดีที่สุด ตนตกเป็นผู้กระทำความผิด จึงไม่กล้าสอนหรือแนะนำอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่สำหรับตนนั้นตัดสินใจจะเลิกดื่มตลอดชีวิต ตอนนี้รู้สึกโล่งใจ หลังจากเครียดมานานกว่า 3 เดือน

ด้าน น.ส.ขนิษฐา เลิศวรจักรพงษ์ อายุ 45 ปี พี่สาวของ นางนุชนาฎ ผู้ตาย กล่าวว่า ทางครอบครัวได้เริ่มต้นจากให้อภัยตั้งแต่แรก เพราะคู่กรณีได้เข้าไปกราบเท้าแม่เพื่อขออภัย โดยแม่ได้ขอให้นายสมชาย เลิกดื่มแอลกอฮอลล์ตลอดชีวิต ยอมรับว่าการสูญเสีย ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นและไม่สามารถหาอะไรมาทดแทนได้ ที่ผ่านมา ผ่านเรื่องราวมาได้เพราะกำลังใจทุกฝ่าย ทั้งตำรวจและคู่นายสมชาย ตอนนี้ให้อภัยไปหมดแล้ว

ขณะที่บุตรสาวทั้ง 2 คนของ พ.ต.ท.จตุพร หรือรองตี๋ คือ ด.ญ.พิชญาภา หรือ น้องแพร งามสุวิชชากุล อายุ 12 ปี และ น.ส.ศุภาพิชญ์ งามสุวิชชากุล บุตรสาวคนโต หรือ น้องพลอย อายุ 16 ปี กล่าวว่า ในช่วงแรกยอมรับว่ามีผลกระทบ ทำใจไม่ได้ มีผลกระทบกับการเรียน แต่ก็มีครอบครัวและน้องที่จะต้องดูแล ทำให้ต้องเข้มแข็งและผ่านเรื่องเลวร้ายไปให้ได้ ดีกว่าจะมาโกรธแค้นกัน รวมถึงคู่กรณีก็ดูแลเป็นอย่างดี และได้รับกำลังใจเป็นอย่างดีกับทุกคน หลังจากนี้จะตั้งใจเรียน เพราะมีความฝันอยากเป็นหมอจะได้รักษาคน