“พ.อ.สุชาติ”ลั่นสมัครชิงนายก อบจ.สงขลา

2019-07-31 11:10:02

“พ.อ.สุชาติ”ลั่นสมัครชิงนายก อบจ.สงขลา

Advertisement

พปชร.เตรียมประกาศตัวว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ. 14 จังหวัดภาคใต้ พ.อ.สุชาติ พร้อมลงสมัครนายก อบจ.สงขลา ลั่นพัฒนาเป็นศูนย์กลางของภาคใต้ในทุกมิติ

เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่โรงแรมไดอิชิ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้มีการจัดงาน “ผูกพันรวมพลัง สนับสนุนคนดีที่เรารักเราชอบ ผู้การสุชาติ จันทรโชติกุล” เพื่อเปิดตัว พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ผู้ก่อตั้งพรรคและผู้ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ภาคใต้ ลงสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา โดยมีชาวสงขลาสนใจมาร่วมงานหลายร้อยคน

พ.อ.สุชาติ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐเห็นชอบให้ส่งผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่า จะมีการเลือกตั้งประมาณเดือน พ.ย. นี้ โดยในภาคใต้ตนได้รับการมอบหมายให้รับผิดชอบคัดเลือกบุคคลลงสมัคร ซึ่งตอนนี้ได้ครบแล้วทั้ง 14 จังหวัด รอประกาศรายชื่อในเร็วๆนี้

"ส่วนตัวได้แจ้งกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ไม่ถนัดในการทำงานส่วนกลาง ขอทำงานในพื้นที่ เพื่อสร้างฐานมวลชนให้กับพรรค เพราะพรรคพลังประชารัฐที่ผ่านมาได้ ส.ส.มาส่วนหนึ่งจากกระแส จึงจำเป็นต้องสร้างฐานประชาชนรองรับ เพื่อการขับเคลื่อนพรรคในระยะยาว โดยตัดสินใจลงสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และได้แจ้งให้คุณนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย และคุณถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคมไปว่า ในจ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ มีรัฐมนตรี 2 คนแล้ว ตำแหน่งนายก อบจ.ขอให้พรรคพลังประชารัฐ" พ.อ.สุชาติ กล่าว

พ.อ.สุชาติ กล่าวว่า ก่อนหน้าการเลือกตั้ง ส.ส. ได้ลาออกจาก สปท.มาตั้งพรรคพลังประชารัฐ และทำพื้นที่ใน จ.สงขลามานาน 2 ปี และหลังจากเลือกตั้ง ส.ส.แล้ว ยังคงลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อขอการสนับสนุนจากชาวสงขลา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง

“ผมมีเป้าหมายต้องการให้สงขลาเป็นศูนย์กลางของภาคใต้ในทุกมิติ โดยเฉพาะการสร้างความอยู่ดีกินดีให้กับประชาชนในพื้นที่ๆมีปัญหารายได้มานานหลายปี จะเห็นว่าในระยะหลังสงขลาค่อนข้างเงียบเหงา นักท่องเที่ยวเดินทางผ่านสงขลาไปยังเมืองรองอย่างพัทลุงกันมาก จึงต้องการสร้างสงขลาให้กลับมาคึกคัก นำรายได้เข้าจังหวัดให้ชาวสงขลาอยู่ดีกินดี เป้นส่วนหนึ่งที่คิดไว้ รายละเอียดของนโยบายจะประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป” พ.อ.สุชาติ กล่าวและว่า สำหรับการคัดเลือกบุคคลลงสมัครสมาชิกสภาจังหวัด ได้คัดเลือกไว้ประมาณ 30 คน จากทั้งหมด 36 คน โดยเป็นคนรุ่นใหม่ทั้งหมด ซึ่งมีผู้สมัครเข้ามามาก จึงต้องคัดเลือกอย่างรอบคอบ ให้ได้คนที่เสียสละทำงานเพื่อชาวบ้านอย่างแท้จริงไม่ใช่เข้ามาเพื่อหาประโยชน์ส่วนตัวเหมือนยุคก่อนๆ