ภัยแล้งวิกฤต ฝนทิ้งช่วงกระทบหลายจังหวัด พืชผลทางการเกษตรเสียหาย

2019-07-30 15:50:53

ภัยแล้งวิกฤต ฝนทิ้งช่วงกระทบหลายจังหวัด พืชผลทางการเกษตรเสียหาย

Advertisement

ภัยแล้งวิกฤต ฝนทิ้งช่วงกระทบหลายจังหวัด พืชผลทางการเกษตรเสียหาย วอนเกษตรกรเลื่อนการเพาะปลูกหวั่นความเสียหาย

ที่ จ.พิจิตร สถานการณ์ฝนแล้ง ส่งผลกระทบต่อระบบประปาหมู่บ้าน หมู่ที่ 6 ต.ไผ่รอบ อ.โพธิ์ประทับช้าง เนื่องจากบ่อบาดาลซึ่งเป็นแหล่งน้ำประปาของหมู่บ้าน ระดับน้ำใต้ดินลดลงจนไม่สามารถสูบน้ำขึ้นมาได้ ส่งผลให้ประชาชนในหมู่บ้านกว่า 40 หลังคาเรือนไม่มีน้ำอุปโภค-บริโภค

     ล่าสุดเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลไผ่รอบ ได้ทำการเจาะบ่อบาดาลใต้ดินให้มีความลึกเพิ่มขึ้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงฝนทิ้งช่วง




 ส่วนที่ จ.นครพนม สถานการณ์น้ำโขงยังทรงตัวที่ปริมาณ 3 เมตร ห่างจากจุดวิกฤติล้นตลิ่งถึง 10 เมตร เช่นเดียวกับอ่างเก็บน้ำในพื้นที่อำเภอต่างๆ รวม 12 อำเภอ

     จากข้อมูลของชลประทานจังหวัดนครพนม พบว่าปริมาณน้ำลดต่ำเหลือเพียงร้อยละ 20 เท่านั้น หากยังไม่มีฝนตกลงมา เกษตรกรบางพื้นที่จะได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจากปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำชลประทานจะมีการผันน้ำเข้าสู่ระบบชลประทาน



ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำใน 4 เขื่อนขนาดใหญ่ของจังหวัด ประกอบด้วย เขื่อนลำตะคอง /เขื่อนมูลบน /เขื่อนลำแชะ และเขื่อนลำพระเพลิง จัดอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย แทบไม่มีน้ำไหลลงเขื่อน

ที่เขื่อนลำพระเพลิงสถานการณ์น่าเป็นห่วง เนื่องจากเหลือน้ำต่ำสุดในรอบ 50 ปี ต้องระงับการส่งน้ำเพื่อการเกษตรอย่างสิ้นเชิง เหลือส่งน้ำเพื่อผลิตประปาวันละ 43,000 ลูกบาศก์เมตรเท่านั้น

ชาวนาท้ายเขื่อนกว่า 75,000 ไร่ ไม่มีน้ำทำนาปี ชาวนาหลายรายทำได้เพียงไถปรับหน้าดินเพื่อรอฝน และรอความหวังให้เขื่อนปรับแผนบริหารจัดการน้ำต่อไป



ส่วนที่ จ.ชัยนาท น้ำต้นทุนในแม่น้ำเจ้าพระยามีจำกัด เกิดผลกระทบกับการจัดสรรน้ำเข้าพื้นที่การเกษตร ซึ่งเกษตรกรลงมือทำนาไปแล้ว ทำให้หลายพื้นที่เกิดการแย่งน้ำ จนต้องแก้ปัญหาด้วยการจัดตารางเวรสลับกันสูบน้ำ

 

   ทั้งนี้ได้ขอความร่วมมือจากเกษตรให้เลื่อนการปลูกข้าวนาปีออกไปก่อน ในรายที่เพาะปลูกแล้ว เมื่อเก็บเกี่ยวแล้วขอให้งดการทำนา เนื่องจากน้ำไม่เพียงพอ และจะเกิดความเสียหายอย่างแน่นอน