ฝากขังแก๊งโจ๋ รุมอัดทุบรถ ชิงปืนตำรวจ พบเหตุแย่งจีบสาวตั้งข้อหาหนัก ปล้นทรัพย์ ทำให้เสียทรัพย์ และทำร้ายร่างกาย
เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีแก๊งวัยรุ่น ในพื้นที่ อ.นาแก จ.นครพนม มีเรื่องทะเลาะวิวาท ทุบรถยนต์เก๋ง ผู้เสียหาย พร้อมทำร้ายร่างกาย 2 ตำรวจ ในร้านเหล้า ในเขตเทศบาลตำบลนาแก อ.นาแก จ.นครพนม เหตุเกิดเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 27 ก.ค.2562 ผู้เสียหาย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย คือ ส.ต.ท.วัชรากร กาสังข์ อายุ 24 ปี และ ส.ต.ท.วิศรุต ศีรษะภูมิ อายุ 31 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ งานป้องกันปราบปราม สภ.หนองบ่อ อ.นาแก จ.นครพนม โดยหลังเกิดเหตุ ทั้ง 2 ถูกทำร้ายจนหมดสติ แก๊งวัยรุ่นได้ มีการขโมยอาวุธปืนกล็อก ขนาด 9 ม.ม. พร้อมสร้อยคอทองคำ หนัก 2 สลึง เหรียญพระเลี่ยมทอง หลวงปู่ทวดอีก 1 องค์ หลบหนีไป
ภายหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.มานพ มั่นยิ่ง ผกก.สภ.นาแก จ.นครพนม ระดม ชุดสืบสวน ลงพื้นที่ ตรวจสอบ ติดตามจับกุมแก๊งวัยรุ่นได้ที่บ้านพัก ทั้งหมด 4 คน คือ นายพงษ์ ศักดิ์ แสนสามารถ หรือกล อายุ 20 ปี ชาว ต.หนองสังข์ อ.นาแก จ.นครพนม พร้อมพวกคือ นายชัยธวัฒน์ มาระนอ หรือเเบ็งค์ อายุ 20 ปีชาว ต.นาคู่ อ.นาแก จ.นครพนม นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนร่วมแก๊ง เป็นเยาวชน อายุ 17 ปี อีก 2 คน พร้อมได้ตรวจยึดของกลางอาวุธปืน กล็อก ขนาด 9 ม.ม. ที่ชิงไป 1 กระบอก ส่วน สร้อยคอทองคำไม่พบ โดยหลังจับกุมได้ ที่บ้านพัก จึงได้ ควบคุมตัวมาชี้จุด ทำแผนรับคำสารภาพ
ล่าสุดทางด้าน ตำรวจ สภ.นาแก ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาหนักถึง 3 ข้อหา คือ ร่วมกันปล้นทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย และ ทำให้เสียทรัพย์ พร้อมนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครพนม ส่วนเยาวชน 17 ปี จะได้ เสนอศาลจังหวัดนครพนม นำตัวไปฝากขัง ที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็ก รอขั้นตอนระหว่างการรวบรวมหลักฐานสรุปสำนวนส่งฟ้อง ตามขั้นตอนทางกฎหมาย โดยทางญาติยังไม่มีการยื่นขอประกันตัว อีกทั้ง เป็นวันหยุดราชการ ต้องรอการพิจารณาของศาล
ส่วนประเด็นสาเหตุหลักสำคัญ ที่ก่อเหตุ ทางตำรวจพบว่า มีปัญหาเรื่องทะเลาะวิวาท เนื่องจากมีการแย่งจีบสาวในร้าน และมีการพูดจายั่วยวนกัน บวกกับเมาสุรา ทำให้เกิดความคึกคักนอง และชวนเพื่อนมาก่อเหตุ โดยไม่รู้ว่า ผู้เสียหาย ทั้ง 2 นาย เป็นตำรวจ โดยผู้ต้องหา ทั้ง 4 ราย ได้รับสารภาพว่า ทำไปด้วยความคึกคะนอง ซึ่งตำรวจ สภ.นาแก จะได้เพิ่มมาตรการเข้มในการดูแลป้องกันปราบปราม ไม่ให้กลุ่มวัยรุ่น มีพฤติกรรมเสี่ยง ก่อเหตุซ้ำอีก พร้อมฝากไปยังพ่อแม่ผู้ปกครองให้ช่วยกันสอดส่องดูแล