"ธนกร"เผย "อุตตม" เตรียมดำเนินคดีคนใส่ร้ายคดีปล่อยกู้แบงก์กรุงไทย ชี้ศาลตัดสินแล้วไม่ผิด ขอ พท.ยุติ ด้าน "กอบศักดิ์" แจงเหตุไม่ใส่รายละเอียดนโยบาย เพราะหลายข้อต้องคุยต่อพรรคร่วม ยืนยันทำแน่ ตามเวลาที่เหมาะสม
เมื่อวันที่ 25 ก.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยนายสราวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส. ชลบุรี และ น.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เป็นตัวแทนหัวหน้าพรรคแถลงข่าว กรณีการแถลงนโยบายของรัฐบาล โดยนายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีแถลงอย่างชัดเจน และทุกนโยบายเป็นประโยชน์แก่ประชาชน ให้เกียรติสมาชิกสภาทุกคน การแถลงนโยบายเป็นไปอย่างมีความสุข ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยกล่าวว่านโยบายนี้ฝันหวาน ตนเห็นว่าไม่จริง เพราะจะเป็นประโยชน์กับประชาชนทุกด้าน และรัฐบาลจะทำนโยบายทันทีที่แถลงนโยบายเสร็จ เพราะประชาชนรออยู่
นายธนกร กล่าวต่อว่า ส่วนคดีปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย ศาลได้ตัดสินและลงโทษผู้กระทำผิดไปแล้ว นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคจึงถือว่าไม่มีความผิด แต่ยังมีคนที่ต้องการบิดเบือนให้สังคมเห็นว่านายอุตตมมีความผิด นายอุตตม จึงได้สั่งการทีมกฎหมายให้เตรียมดำเนินคดีกับผู้ที่ตั้งใจใส่ร้ายที่มีประมาณ 5 คน และฝากถึงพรรคเพื่อไทยให้ยุติเรื่องนี้ได้แล้ว นายอุตตม เองก็มีหลักฐานชัดเจนที่จะสามารถชี้แจงในสภาได้ภายในวันพรุ่งนี้ และเอกสารการร่วมประชุมบอร์ดธนาคารกรุงไทยที่มีนายอุตตม ร่วมด้วย นายธนกร ยืนยันว่าเป็นเอกสารเท็จ หลังจากนี้อยากให้ฝ่ายค้านได้อภิปรายเพื่อเสนอแนะเพิ่มเติมนโยบายของรัฐบาลเพื่อให้เป็นประโยชน์กับประชาชน ดีกว่าจะใช้วิธีการแบบเดิมๆ ประชาชนที่ดูอยู่ทางบ้าน ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย นายศราวุฒิ กล่าวเสริมว่าคุณภาพของการอภิปรายของฝ่ายค้านต้องปรับปรุง เพราะไม่ท้วงติงในสิ่งที่สร้างสรรค์ เน้นทำลายกันในทางการเมือง มีการโจมตีกันอย่างเลื่อนลอย อยากให้สมาชิกปรับปรุถงคุณภาพของผู้มาอภิปราย เพราะประเทศชาติต้องการทุกกำลังมาช่วยกันขับเคลื่อนให้เดินหน้าต่อ และเชื่อว่า พลเอก ประยุทธ์ จะนำเอาประสบการณ์ทั้งหมดมาพัฒนาประเทศให้ดี
ส่วนเรื่องนโยบายที่หาเสียงไว้ แต่ไม่ใส่ในนโยบายรัฐบาล นายธนกร กล่าวชี้แจงว่า ตรงนี้เป็นเรื่องปลีกย่อยที่ไม่จำเป็นต้องใส่ไว้ เพราะอยู่ในนโยบายใหญ่ๆ ที่แถลงไปแล้ว แต่ต้องดูช่วงเวลาที่เหมาะสมกับนโยบายแต่ละนโยบายด้วย เมื่อถามว่า แล้วประชาชนจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะนำนโยบายที่หาเสียงไว้มาปฏิบัติจริง เมื่อรัฐบาลไม่ได้แถลงต่อที่ประชุมรัฐสภา นายธนกร ตอบว่า อย่างที่กล่าวไปแล้ว มันมีหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ จึงต้องดูว่าอะไรสำคัญก่อน
ด้านนายสราวุฒิ กล่าวว่า แม้ว่าฝ่ายค้านจะโจมตีด้วยข้อมูล แต่นายกรัฐมนตรีใจเย็น และทำงานนี้มาตลอด 5 ปีด้วยความรักชาติ ทุกนโยบายล้วนกลั่นกรองมาแล้ว และเอามาบรรจุ เพราะเห็นว่าเป็นยประโยชน์กับประชาชนทุกส่วน ตนเชื่อว่าตลอดการทำหน้าที่สองวันนี้จะนายกรัฐมนตรีจะสามารถรับมือได้ แม้จะมีข้อมูลบิดเบือนบ้าง แต่นายกรัฐมนตรีก็จะสามารถชรี้แจงได้
ขณะที่นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า นโยบายหลายข้อต้องหารือร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล และหน่วยงาน หรือข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ลงตัวก่อนจึงจะสามารถกำหนดระยะเวลาในการดำเนินการได้ เช่น ที่ดิน ส.ป.ก. และโฉนดสีฟ้า หรือนโยบายมารดาประชารัฐ และนโยบายเกิดปั๊บรับแสน ขณะที่นโยบายลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต้องเกี่ยวโยงกับการบริหารจัดการรายได้ของรัฐเพื่อนำมาทดแทนการลดภาษีบุคคลธรรมดา ดังนั้นหลายที่สามารถทำได้ทันทีเป็นนโยบายเร่งด่วน เช่น นโยบายจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย, แก้ปัญหาแชร์ลูกโซ่ ฯลฯ ส่วนอีกหลายนโยบายต้องอาศัยจังหวะและเวลาที่เหมาะสม แต่ยืนยันว่าทำแน่นอน เพราะตนเชื่อว่าประชาชนเลือกพรรคพลังประชารัฐมาไม่ใช่เพราะความรักส่วนตัว แต่เป็นเพราะชอบนโยบาย หากไม่ทำตามสิ่งที่หาเสียงไว้สมัยหน้าใครจะเลือก และ ส.ส. ของพรรคจะไปหาเสียงอย่างไร และหากได้รับเลือกตั้งแล้วก็จะถูกพรรคอื่นโจมตีได้ว่าเสนอนโยบายแล้วไม่ทำ เพราะในการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคพลังประชารัฐก็ไม่ใช่พรรคใหม่อีกต่อไปแล้ว อย่างไรก็ตามนายกอบศักดิ์ กล่าวเสริมว่า เรื่องกระแสที่ฝ่ายค้านโจมตีว่าพรรคจะไม่ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ ตนไม่อยากไปตอบโต้ แต่ขอให้ประชาชนรอดู เพราะทุกนโยบายใส่ไว้ในคำแถลงนโยบายของนายกรัฐมนตรี แม้ไม่ได้ใส่รายละเอียด เพราะเหตุผลข้างต้น แต่จะทำแน่นอน ตามเวลาที่เหมาะสม แล้วความเชื่อมั่นของประชาชนจะกลับมาเอง ตนเชื่ออย่างนั้น