ทส.ถอดบทเรียนฝุ่นพิษภาคเหนือ

2019-07-24 17:30:42

ทส.ถอดบทเรียนฝุ่นพิษภาคเหนือ

Advertisement

ทส. ถอดบทเรียนการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ พบสถานการณ์รุนแรงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา มุ่งเน้นความร่วมมือแก้ปัญหาจากต้นเหตุ เปลี่ยนกลุ่มคนจุดไฟเผาป่าให้เป็นเครือข่าย

เมื่อวันที่ 24 ก.ค. นายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสรุปผลและถอดบทเรียนการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ ปี 2562 ณ จ.เชียงใหม่ โดยการดำเนินงานที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยหน่วยงานหลักได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ในการแก้ไขปัญหา และได้บูรณาการหน่วยงานภายใต้กลไกของพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 และการอำนวยการสั่งการของผู้ว่าราชการจังหวัดให้ทุกหน่วยงานดำเนินการอย่างเข้มข้น ทั้งการลาดตระเวนป้องปราม การตรวจหาไฟป่าและการเผา การระดมสรรพกำลัง อุปกรณ์เครื่องมือ จากกองทัพภาคที่ 3 ตำรวจ เครือข่ายอาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช กรมป่าไม้ และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเข้าดับไฟก่อนเกิดการลุกลาม และบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิด นอกจากนี้ กรมควบคุมมลพิษ และสำนักงานเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ติดตามเฝ้าระวังและรายงานข้อมูลเพื่อประกอบการวางแผนรับมือปัญหาไฟป่าและหมอกควันอย่างต่อเนื่องและทันสถานการณ์ ซึ่งการดำเนินงานที่ผ่านมาทุกภาคส่วนได้ร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่


นายวิจารย์ กล่าวว่า สถานการณ์ในภาพรวมมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นจาก 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยสาเหตุหนึ่งที่ส่งผลให้สถานการณ์มีความรุนแรง คือ ผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญกำลังอ่อน ที่ทำให้พื้นที่ภาคเหนือเกิดความแห้งแล้ง ปริมาณน้ำฝนต่ำกว่าค่าปกติทำให้เกิดไฟได้ง่ายและลุกลามอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการลุกลามเข้าไปในพื้นที่ป่าทำให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดับไฟได้ยาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ภูเขาลาดชัน ดังนั้นการประชุมในวันนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการถอดบทเรียนถึงการดำเนินงาน ปัญหาและอุปสรรคในปีที่ผ่านมา โดยจะมีการระดมความคิดเห็นในด้านการดำเนินงาน ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะต่างๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมแผนการดำเนินงานที่เหมาะสมสำหรับการรับมือปัญหาหมอกควันภาคเหนือในปี 2563 ต่อไป


ด้าน นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า สถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือปีที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. – 31 พ.ค. 2562 ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน (PM10) พบค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง สูงสุด 394 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานต้องไม่เกิน 120 มคก./ลบ.ม.) โดยสูงเกินมาตรฐานรวมทั้งสิ้น 59 วัน ซึ่งจ.เชียงราย เป็นจังหวัดที่มีจำนวนวันที่ PM10 เกินค่ามาตรฐานสูงสุด จำนวน 47 วัน ขณะที่ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM2.5) พบค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง สูงสุด 353 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานต้องไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงรายโดยมีจำนวนวันที่ PM2.5 สูงเกินมาตรฐานรวมทั้งสิ้น 112 วัน โดย จ.ลำปาง มีจำนวนวันที่ PM2.5 เกินค่ามาตรฐานสูงสุด จำนวน 82 วัน