นอนจมน้ำตานานนับปี ! "อรอนงค์" ฝากเตือนสติคนที่คิดจะเผาเรือน (มีคลิป)

2019-07-24 10:30:48

นอนจมน้ำตานานนับปี ! "อรอนงค์" ฝากเตือนสติคนที่คิดจะเผาเรือน (มีคลิป)

Advertisement

จบชีวิตรักแรกและรักเดียวอย่างเด็ดขาดแล้ว สำหรับ "อรอนงค์ ปัญญาวงศ์" นางสาวไทยที่ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ เธอยังคงดูดีเหมือนเช่นที่ผ่านมา แต่ก่อนจะออกมาพูดและเสียน้ำตาต่อสาธารณชนนั้น เธอต้องทนเจ็บช้ำมาเนิ่นนานแค่ไหน กับความเปลี่ยนแปลงไปของฝ่ายสามี สาเหตุทั้งหมดคงไม่สามารถบรรยายออกมาได้กระจ่างต่อหน้าสื่อ แต่ ณ วันนี้เธอเข้มแข็งพอที่ขอเล่าเรื่องราว เพื่อบอกกล่าวเป็นอุทาหรณ์สอนใจหญิง ว่า อย่าปล่อยให้เพื่อนเรามาเผาเรือน ...



หลังอดีตนางสาวไทย "อรอนงค์ ปัญญาวงศ์" ได้ออกมาโพสต์ข้อความพร้อมภาพใบหย่าจบชีวิตคู่กว่า 20 ปี โดยเผยปมสาเหตุชัดเจนว่ามาจากมือที่สาม ทำเอาแฟนนางงามและเหล่าแฟนคลับช็อกไปตามกัน ล่าสุด เธอได้ขอเผยใจชัดๆ ถึงสาเหตุที่แยกทางแท้จริงเพราะเรื่องบนเตียงหรือไม่ ? พร้อมประกาศหมดบุญกันชาตินี้ ขออโหสิกรรมให้อดีตสามี !!





สภาพจิตใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
อร : จริงๆ พี่อรเป็นคนที่ชัดเจนมากมาตั้งแต่เริ่มต้นที่เราอยู่วงการบันเทิงมาว่าเราคบใคร เริ่มต้นรู้กันหมดว่าเป็นผู้ชายคนเดียวที่เป็นแฟนเรา มีการแต่งงานที่ออกสื่อ ลงหน้าหนึ่งมาทุกฉบับ ในเมื่อเราตัดสินใจแบบนี้มันก็ต้องสร้างความชัดเจนให้กับตัวเราและอดีตสามี คนทุกคนในสังคมที่เห็นเราอยู่เบื้องหน้าว่าเราแยกกันอยู่หย่ากันแล้ว แต่ก่อนที่จะตัดสินใจมาโพสต์แบบนี้ก็มีการตรึกตรองได้คิดทบทวนมาสักระยะหนึ่งแล้ว พอเริ่มรู้ในปีแรกก็อาจจะมีร้องไห้ มีทำใจพอสมควรในหนึ่งปีแรก เพราะเราไม่คาดคิดว่าจะเกิดอย่างนี้ แต่พอปีที่สอง ปีที่สามคิดว่าเค้าอาจจะปรับจูน เปลี่ยนแปลง แล้วก็อาจจะกลับมาเหมือนเดิม แต่มันไม่มีวี่แววที่จะเป็นแบบนั้นเลย ก็เลยแยกกันอยู่ แต่ก็ยังคุยกันเรื่องลูกตามปกติ พี่อรอยากให้ชัดเจนว่าจะเอายังไง





คือที่มาของการโพสต์ลงอินสตาแกรมใบหย่านั้นเลย ?
อร : ค่ะ พี่ก็ไม่อยากมาแบบว่าอยู่ด้วยกันไม่ได้ ทัศนคติไม่ตรงกัน ลูกโตป่านนี้แล้วคงไม่ใช่ทัศนคติไม่ตรงกัน มันเป็นเรื่องทำใจพอสมควร ทำใจว่ามันจะเกิดผลกระทบอะไรกันบ้าง

แสดงว่าก่อนออกมาแถลงข่าวพี่อรได้มีการปรึกษากับทางครอบครัวและอดีตสามีแล้ว ?
อร : คุยกันแล้วค่ะ ว่าถ้าหากมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นคุณโอเคนะว่าคุณเป็นคนผิดเพราะอะไรที่เราต้องหย่ากัน เค้าก็ยอมรับว่าเค้าผิด เค้าก็บอกว่าน้องอรไม่มีอะไรผิด พี่ขอโทษ





ได้ปรึกษาลูกๆ มั้ย ?
อร : ก็ได้คุยกับลูกๆ สาเหตุเพราะอะไร คุณแม่ก็ยังรักลูก คุณพ่อก็ยังรักลูก เพียงแต่เราไม่ได้ทำหน้าที่สามีภรรยากัน แต่ก็ยังทำหน้าที่ของพ่อแม่

ยังเจอกันอยู่บ่อยๆ ?


อร : ยังเจอกันอยู่ ก็คุยกันตามปกติ ตั้งแต่เป็นแฟนกันมา 26 ปี ไม่เคยทะเลาะกัน

คนเห็นภาพครอบครัวอบอุ่นและรักกันมาตลอด มันเกิดอะไรขึ้น ?
อร : อาจจะเป็นเพราะว่า พอเรารู้ข่าวตั้งแต่ตอนช่วงแรกๆ แล้วเรามีความรู้สึกว่า ในเมื่อเค้ามีใจให้กับคนอื่น เราก็อาจจะรับตรงนั้นไม่ได้ เราก็เลยให้ไปเคลียร์ตัวเองก่อน มันก็อาจจะห่างกัน แล้วช่วงที่ห่างกันมันก็ทำให้เค้าห่างไปด้วย เวลาล่วงเลยมามันเลยจูนหากันไม่ได้ พี่อรเป็นคนที่ยอมรับความคิดว่าในเมื่อเค้าคิดว่าเค้าเป็นแบบนี้แล้ว เค้าไม่สามารถจะจูนหาเราได้ เราก็ให้เกียรติเค้า คิดว่าในสิ่งที่เค้าเลือกแล้วมีความสุขก็น่าจะเป็นแบบนั้น พี่อรก็เลือกว่า เราเลือกที่จะมีความสุขกับลูกกับงานที่ทำ พูดได้เต็มปากว่าเรามีความสุขกับชีวิตที่ก้าวไปข้างหน้า



ตอนแรกที่รู้ว่าเค้ามีอีกคนนึงพี่รู้จากอะไร ?


อร : คือพี่อรไม่ใช่คบกันมานิดหน่อยแล้วแต่งงาน ระยะเวลามันเป็นเครื่องพิสูจน์อยู่แล้ว พอมันมีความรู้สึกว่าเค้าเปลี่ยนแปลงไป เช่นคุยโทรศัพท์นานขึ้น แยกไปคุยนาน มันมากกว่าคำว่าไปทำงาน พอเค้าเริ่มมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปเราก็เริ่มจะจับจุดได้ ความใกล้ชิดแบบสามี ภรรยามันจะต้องเป็นอีกแบบคือ คุยกัน กอด กัน หอมกัน หยอกล้อกัน ตรงนั้นมันขาดหายไป เราเลยมานั่งคุยกันว่ามันมีอะไรแปลกๆ ไปมั้ย เราบอกกันตั้งแต่ตอนคบกันแล้วว่าถ้าคิดจะนอกใจหรือมีใครควรรู้ด้วยปากของคุณเองนะ ไม่ใช่คนอื่นมาบอก

พี่อรถาม แล้วคำตอบที่ได้ ?
อร : เค้าก็ตอบว่าขอโทษ มีจริง กว่าที่พี่จะรู้เค้าก็อาจจะแอบคบกันนานแล้ว อันนี้เราก็ไม่รู้ เค้าถึงยอมรับว่าเค้ามีคนใหม่



ตอนที่ถามในใจคิดมั้ยว่าอยากให้ตอบว่าไม่ ?
อร : ก็ยังคิดอยู่นะว่าไม่ เหมือนใกล้กัน สนิทกัน แต่พอเค้าบอกมาอย่างงี้คืออึ้งและชา เดินหนีเลย

ทำไมถึงโทษว่าเป็นความผิดของตัวเอง ?
อร : คนสองคนที่อยู่กันมาเป็นเวลานานอาจจะมีข้อบกพร่อง ที่บางครั้งเราเองอาจจะมองข้าม เราอาจจะมองผ่านแต่เค้าอาจจะไม่มองผ่าน พอมีอะไรเข้ามากระทบเค้า เค้าอาจจะไขว้เขวได้ง่าย ด้วยปัญหาที่เกิดขึ้นเล็กน้อย เราเลยคิดว่าทุกๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นมันมีความบกพร่องที่เกิดขึ้นจากตัวเราเองด้วย



เรื่องบนเตียงมีส่วนสำคัญมั้ย ?
อร : พี่ก็ไม่รู้ช่วงก่อนหน้านั้นมันจะเป็นยังไง แต่ว่าก็โอเค แต่พอเรามีลูกแล้ว ผู้หญิงทุกคนจะโฟกัสไปที่ลูก การดูแลเอาใจใส่ลูก อาจจะละเลยหรือมองข้ามในจุดนี้ ซึ่งผู้หญิงทุกคนคิดว่าสามีเข้าใจ แต่เราไม่รู้ว่าเค้าจะมีอะไรกดดันหรือมีสิ่งเร้าข้างนอก ที่เค้าอาจจะต้านทานไม่อยู่ก็ได้ ต้องขออนุญาตใช้คำของ "พี่เปิ้ล นาคร" ก็แล้วกัน มันก็คือความเข้มแข็งของใจผู้ชาย ไม่รู้ว่าเค้าจะเข้มแข็งได้มากน้อยเท่าไหน แต่ความเข้มแข็งของผู้หญิงก็คือแม่ของลูก ต้องเข้มแข็งให้มากกว่าผู้ชายด้วย เพราะเรายังต้องพาชีวิตของลูกขึ้นไปอีก เราก็คิดว่าเราก็มีส่วนผิดแหละ อาจจะบกพร่องส่วนใด ส่วนนึง

พี่นอนร้องได้ทุกคืนคนเดียว ?
อร : นอนร้องไห้ทุกคืน คนเดียว จนเริ่มคิดได้ว่าทำไมเราต้องมาทนร้องไห้คนเดียว ด้วยความที่ครอบครัวเราเป็นครอบครัวพุทธศาสนิกชน เราอินกับธรรมะมาก เรารู้ว่าตัวเราเองมีเทวดาคุ้มครอง ถ้าเรามัวแต่ร้องไห้เสียใจ เทวดาที่คอยคุ้มครองเราอยากจะให้ชีวิตเราดีขึ้นเค้าอาจจะเสียใจกับเราด้วย อาจจะไม่มีความสุขกับการดูแลชีวิตตัวเองและชีวิตลูกด้วยพอคิดได้แบบนี้ก็รู้ว่าไม่จากเป็นก็จากตาย จากเป็นตอนนี้แล้วจากกันด้วยความเข้าใจกัน เราก็จะยังมีชีวิตที่ดีขึ้น เราไม่ต้องไปทนทุกข์ว่าเค้าจะเป็นยังไงบ้าง อดีตสามีเค้าจะไปแต่งงานใหม่กับใคร อันนี้คือชีวิตของเค้าแล้ว ชีวิตของพี่อรตอนนี้คือลูกและตัวเราเอง



จุดนี้คือพี่ให้อภัย อโหสิกรรมกับอดีตสามีเรียบร้อยแล้ว ?
อร : ใช่ คนเรามันหมดบุญ บุญกรรมด้วยกันแล้วในชาตินี้ ไม่ต้องไปต่อกันอีกในชาติหน้า ก็อยากให้มันจบดีๆแบบนี้ดีกว่า แล้วเราก็เป็นพ่อและแม่ที่ดี

อีกฝั่งนึงพี่เคยเจอมั้ย ?
อร : ก็เคยเจอ แต่พี่ไม่ไปยุ่ง ไม่ไปก้าวก่ายเลย พี่ไม่ได้ไปพูดว่าอย่ามายุ่งกับสามีชั้นนะ มันอยู่ที่จิตใต้สำนึกของแต่ละคนมากกว่า

พี่มีอะไรที่อยากจะบอกกับผู้หญิงที่เป็นมือที่สามคนนั้นมั้ย ?
อร : พี่ว่าฝากถึงคนที่คิดว่าจะเป็นมือที่สามดีกว่าว่า ให้เอาใจเค้ามาใส่ใจเรา



ลูกได้เห็นข่าวรึยัง ?
อร : ลูกเห็นนะ แล้วลูกก็ถามว่าแม่ร้องไห้หรอ เราก็บอกว่าร้องไห้เพราะคิดถึงลูก

สุดท้ายแล้วอยากจะบอกอะไรกับอดีตสามี ?
อร : อยากจะบอกว่าในเมื่อเราเลือกเส้นทางนี้แล้ว ก็อยากให้เค้ามีความสุขในการเลือกเส้นทางนี้ ขอให้ทำหน้าที่คุณพ่อที่ดีต่อไป ที่ผ่านมาก็ต้องขอบคุณเค้าที่ทำให้เรามีลูกที่น่ารัก 2 คน



คลิปสัมภาษณ์ อรอนงค์ ปัญญาวงศ์