“อนุทิน”เล็งอบรม อสม.คัดกรองผู้ป่วยมา รพ.

2019-07-23 18:50:25

“อนุทิน”เล็งอบรม อสม.คัดกรองผู้ป่วยมา รพ.

Advertisement

“อนุทิน” ไม่สบายใจคนไข้ล้น รพ. เล็งอบรม อสม. คัดกรองเบื้องต้น ลดค่าใช้จ่ายประชาชน ลดภาระแพทย์

เมื่อวันที่ 23 ก.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงปัญหาคนไข้ล้นโรงพยาบาล ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานว่า เป็นเรื่องเร่งด่วน เวลาไปโรงพยาบาล เห็นผู้ป่วยแออัด นอนตามพื้นโรงพยาบาล รู้สึกไม่สบายใจ เบื้องต้น มีแนวทางแก้ไขปัญหา โดยมองไปที่ อสม. ที่มีอยู่ประมาณ 1.4 ล้านคน ต้องอบรมให้ อสม.มีความรู้เบื้องต้น ในการดูแลผู้ป่วยขั้นพื้นฐาน และสามารถใช้เทคโนโลยีสื่อสารกับหมอได้ อสม.จะเข้ามาเป็นกำลังสำคัญในการคัดกรองผู้ป่วย ก่อนจะมาถึงโรงพยาบาล เป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายของประชาชน ลดการเสียเวลาของประชาชน ที่ต้องเดินทางไกลมาโรงพยาบาล นอกจากนั้น ยังเป็นการลดภาระแพทย์ พยาบาล ให้มีเวลารักษาผู้ป่วยหนัก และผู้ป่วยเฉพาะทางได้เต็มที่

“ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา เวลาประชาชนรู้สึกไม่สบาย ปวดหัว เป็นไข้เล็กๆน้อยๆ ก็มาที่โรงพยาบาลทันที แล้วก็มารับยาแก้ปวด 2 เม็ด เกิดสภาวะคนป่วยล้นโรงพยาบาล แต่หากมี อสม.กับหมอคอยกรองไว้ก่อนชั้นหนึ่ง ใครที่อาการไม่หนัก ดูแลที่บ้านได้ ก็ไม่จำเป็นต้องมาโรงพยาบาล ผู้ป่วยที่มาโรงพยาบาล ต้องเป็นกรณีที่มีความจำเป็น ซึ่งผู้คัดกรองจะเป็นหมอ และ อสม.ช่วยกันตัดสินใจผ่านเทคโนโลยีการสื่อสาร หรือที่เรียกว่าเทเลเมด เมื่อ อสม.ทำหน้าที่ตรงนั้นได้ ย่อมจะช่วยลดอัตราความแออัดของโรงพยาบาล” นายอนุทิน กล่าว

รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงแผนงานเร่งด่วน หลังดำรงตำแหน่งว่า นโยบายกัญชาเพื่อการแพทย์ เป็นเรื่องที่สังคมตั้งความหวังไว้กับพรรคภูมิใจไทย และเป็นนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงสาธารณสุข ที่ต้องทำให้เกิดผลงานอย่างเร็วที่สุด แต่นอกจากนั้น กระทรวงสาธารณสุขในการกำกับดูแลของตน ยังมองไปถึงเรื่องของการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพ ที่การรักษาต้องมุ่งให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ นอกจากนั้น ต้องลดภาระแพทย์ พยาบาล ต้องเพิ่มอัตราให้สอดคล้องกับจำนวนผู้ป่วย ขณะเดียวกัน อสม.จะเข้ามามีบทบาทในระบบสาธารณสุขชุมชนมากยิ่งขึ้น

เมื่อถามถึงการร่วมงานกับข้าราชการในกระทรวง นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะในทางการแพทย์ การมาทำงานในตำแหน่งนี้ ก็เพื่อผลักดันการทำงานของกระทรวง หากใครมีแนวคิดดีๆ ก็พร้อมสนับสนุน หากขาดงบ จะประสานช่วยเหลือ เพื่อผลักดันนโยบายจนประสบความสำเร็จ ก็ต้องหวังพึ่งความร่วมมือจากข้าราชการในกระทรวง อยากเห็นคนไทยได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพ คุณภาพชีวิตคนไทยต้องดีขึ้น